“ตลาดสุขใจ”ต้นแบบสามพรานโมเดล สุขใจทุกครั้งเมื่อมาเยือน

“ตลาดสุขใจ”ต้นแบบสามพรานโมเดล สุขใจทุกครั้งเมื่อมาเยือน

ผมเกิดที่จังหวัดนครปฐม พักอาศัยอยู่ในแผ่นดินมหัศจรรย์ตั้งแต่เยาว์วัยจนถึงบัดนี้นานกว่า 60 ปี แผ่นดินที่มีพืชผลทางการเกษตร

ตั้งแต่ไร่นา ผลไม้ ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศเป็นแหล่งปศุสัตว์ที่เลี้ยงหมูมากที่สุดในประเทศ นึกถึงหมูก็ต้องนึกถึงนครปฐม จนเป็นจังหวัดที่เรียกว่าครัวของโลก มีโรงงานอุตสาหกรรมนับพันแห่ง มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทั้งประวัติศาสตร์และธรรมชาติ ตื่นเช้าขึ้นมาเปิดม่านก็ได้ยกมือไหว้พระปฐมเจดีย์เพื่อขอพรทุกวัน 

ก่อนขับรถไปทำงานในกรุงเทพผ่านวัดไร่ขิง กราบไหว้หลวงพ่อวัดไร่ขิง และพระศรีศากยะทศพลญาณ พระประธานพุทธมณฑลก่อนเข้ากรุงเทพฯ ต้องผ่านอำเภอสามพราน ที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวทีมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในแถบชานเมืองหลวงด้านตะวันตก คือ สวนสามพรานที่มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2505 จากแปลงสวนกุหลาบ ร้านขายผัดไทยและไอศครีมกะทิ ริมแม่น้ำท่าจีน ที่เติบโตเปลี่ยนผ่านมานานกว่าครึ่งศตวรรษจนถึงทายาทรุ่นที่ 3 คุณอรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการคนปัจจุบัน ได้เปลี่ยนธุรกิจโรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยว ให้เป็นองค์กรที่ช่วยเหลือให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ปรับเปลี่ยนหมู่บ้านไทย จากเดิมที่ใช้แสดงโชว์เป็น “Patom Organic Village” จัดกิจกรรมแปรรูปเกษตรอินทรีย์ เน้นให้นักท่องเที่ยวได้มีส่วนในการลงมือทำ ยึดแนวทาง Organic Tourism เปิดตลาดสุขใจ ด้วยแนวคิด Do well and Do good ตลาดที่เป็นแบบอย่างของธุรกิจ Social Enterprise ตามแนวของสามพรานโมเดล ที่ยึดหลักสร้างธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนสังคมที่เป็นธรรม

แนวคิดสามพรานโมเดลคือการทำให้เกษตรกรมีชีวิตที่ดีขึ้น จากเดิมที่ใช้สารเคมีที่ส่งผลต่อสุขภาพของเกษตรกร สารเคมีมีราคาแพงขึ้นทุกปี จนเกษตรกรมีหนี้สิน เมื่อโรคและแมลงดื้อยามากขึ้น ก็ต้องใช้สารเคมีแรงขึ้น ทำให้สภาพแวดล้อมแย่ลง ผลกระทบจากสารเคมีตกค้างสู่ผู้บริโภค ทำให้เจ็บป่วย เป็นวงจรของปัญหาที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นทุกปี

หัวใจของสามพรานโมเดล คือการสร้างพันธมิตร ประกอบด้วย เกษตรกร ผู้ประกอบการ SME ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเกื้อกูลสังคม (Inclusive Business) ผู้บริโภคที่มีความรับผิดชอบ(Active Consumer) จับมือกันร่วมการเปลี่ยนแปลงสังคมที่ดีขึ้น โดยแต่ละฝ่ายมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และทำการค้าที่เป็นธรรมต่อกัน สร้างความเชื่อมั่น (Trust) ผ่านระบบรับรองแบบมีส่วนร่วมเพิ่มศักยภาพและบริหารจัดการองค์ความรู้ นำไปสู่การขับเคลื่อนสังคม

ในปี 2548 สวนสามพรานเริ่มทำเกษตรอินทรีย์ บนพื้นที่กว่า 30 ไร่ เพื่อผลิตวัตถุดิบเอง จนถึงปี 2553 เริ่มสนับสนุนให้เกษตรกรในจังหวัดนครปฐมและจังหวัดใกล้เคียงหันมาทำเกษตรอินทรีย์เพื่อส่งสินค้าให้โรงแรม ความร่วมมือระหว่างธุรกิจกับชุมชนได้พัฒนาขึ้นเป็นพันธมิตรบนฐานการค้าที่เป็นธรรม เกษตรกรได้รับประโยชน์ทางตรงต่อสุขภาพ ร่วมดูแลสิ่งแวดล้อม เกิดการรวมกลุ่มทำงาน สร้างรายได้เพิ่มขึ้น ในแง่ธุรกิจสวนสามพรานได้สินค้าคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสม ส่งเสริมให้เกษตรกรสร้างธุรกิจที่เพิ่มมูลค่าด้วยการผลิตสินค้าอินทรีย์ภายใต้แบรนด์ ปฐม

ความร่วมมือเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำแพงแสน ตรรกศิลาทางด้านการผลิตพืชและอาหาร และจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว) ที่ให้ทุนในการพัฒนาสามพรานโมเดล เปิดตลาด “สุขใจ” ในพื้นที่สวนสามพราน

ความสำเร็จของสามพรานโมเดล ตลาดสุขใจ ตลาดนัดน่าซื้อ จนได้รับรางวัล “ตลาดนัดน่าซื้อระดับดีมากของประเทศ ประจำปี 2558” ที่กระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัยมอบให้ สามารถยืนอยู่อย่างมั่นคงนานกว่า 9 ปี เป็นเรื่องที่น่าศึกษาอย่างยิ่ง

อย่าพลาดติดตามตอนไปนะครับ...