พรรคกรีน/สังคมประชาธิปไตย คือทางออก

พรรคกรีน/สังคมประชาธิปไตย คือทางออก

พรรคกรีน(สีเขียว) นโยบายอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศ เป็นชื่อที่ใช้กันในหลายประเทศ พรรคกรีนโดยเฉพาะในยุโรป, อเมริกา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ยังมีนโยบายในเรื่องการสร้างความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจสังคม ซึ่งรวมทั้งเรื่องสิทธิสตรี สิทธิชนพื้นเมือง ชนกลุ่มน้อย การเน้นสันติภาพ การเคารพความหลากหลายในทุกด้าน พรรคกรีนที่ก้าวหน้าในยุโรปมักจะร่วมมือกับพรรคฝ่ายซ้าย เช่น พรรคสังคมประชาธิปไตย เพราะนโยบายใกล้เคียงกัน คือมุ่งเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่มากกว่ากลุ่มนายทุนส่วนน้อย

สหพันธพรรคกรีนทั่วโลก (Global Green) ได้ประกาศหลักการหรือกฎหมายสำคัญ (Charter) ไว้ 6 ข้อ คือ

  1. ประชาธิปไตยแบบที่พลเมืองมีส่วนร่วมได้อย่างแท้จริง
  2. การปฏิเสธความรุนแรง
  3. ความยุติธรรมทางสังคม
  4. การพัฒนาอย่างยั่งยืน
  5. การเคารพความหลากหลาย (ทางชีววิทยา และอื่นๆ)
  6. ภูมิปัญญาของระบบนิเวศ

ในโลกยุคปัจจุบัน การพัฒนาอุตสาหกรรมกำลังสร้างปัญหาที่สำคัญทั้งด้านระบบนิเวศ ความเหลื่อมล้ำต่ำสูง การว่างงาน ความยากจน ปัญหาทางสังคมด้านต่างๆ พรรคกรีนและพรรคสังคมประชาธิปไตย น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าแนวนโยบายของพรรคจารีตนิยมหรือพรรคเสรีนิยมที่เน้นการเติบโตทางวัตถุและการแสวงหาความมั่งคั่งเพื่อการบริโภคแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา

โลกถูกครอบงำด้วยกระแสความคิดและความใฝ่ฝันของการพัฒนาแบบทุนนิยม ทำให้คนส่วนใหญ่อยากร่ำรวย อยากบริโภค และมีความหวังว่าตนเองจะรวยขึ้นสักวันหนึ่ง พวกเขาจึงมักสนับสนุนพรรคที่มีเงินในการโฆษณานโยบายทำให้เศรษฐกิจเติบโต ประชาชนมีเงินจับจ่ายใช้สอยรวมทั้งเป็นหนี้ได้มาก โดยไม่เข้าใจว่าแท้จริงแล้วพรรคเหล่านี้สร้างปัญหาให้กับพวกเขา และคนรุ่นลูกหลานต่อไปอย่างไร

ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำ ชะลอตัว การว่างงาน และมีแรงงานจากประเทศที่ค่าจ้างถูกกว่า อพยพไปหางานในประเทศที่ค่าจ้างแพงกว่า ก็ยิ่งทำให้นักการเมืองแนวจารีตนิยม ชาตินิยม เช่น โดนัลด์ ทรัมป์ และคนอื่นๆ หาเสียงแนวชาตินิยมขวาจัด โทษว่าปัญหามาจากแรงงานต่างชาติ การเสียเปรียบดุลการค้าให้ชาติอื่น ฯลฯ ได้เพิ่มขึ้น โดยที่ประชาชนไม่เข้าใจว่าตัวปัญหาที่แท้จริงมาจากระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมอุตสาหกรรม ที่เอื้อให้นายทุนใหญ่ได้กำไรและสะสมทุนมาก โดยไม่กระจายความมั่งคั่งไปสู่คนส่วนใหญ่ ไม่ใช่ประเด็นเรื่องแรงงานต่างชาติที่ยากจนมาแย่งงานคนในประเทศที่ร่ำรวยกว่า

พรรคกรีนเติบโตมากพอสมควรในเยอรมัน ไอร์แลนด์ อังกฤษ ฝรั่งเศส เบเนลักซ์ ที่พัฒนาเศรษฐกิจได้ดี คนมีการศึกษา ตื่นตัวต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น ต่อต้านโรงงานไฟฟ้าที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ โดยเฉพาะประเทศที่มีการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ที่คนทั่วประเทศสามารถเลือกพรรคกรีนหรือพรรคเล็กอื่นๆ ได้ (กาได้ 2 บัตร) พรรคกรีนมักจะโตมาจากขบวนการเรื่องสิ่งแวดล้อมของภาคประชาชน ซึ่งทำงานจริงจัง แม้แต่เด็กและเยาวชนก็ตื่นตัวเรื่องสิ่งแวดล้อม พวกเขาสามัคคีกับขบวนการภาคประชาชนที่เคลื่อนไหวเรื่องสิทธิเสรีภาพความเป็นธรรมอื่นๆ ด้วย

ในประเทศที่มีปัญหาเศรษฐกิจและการว่างงานมาก ประชาชนมักจะฝากความหวังไว้ที่พรรคใหญ่อื่นๆ มากกว่า พวกเขาถูกทำให้เชื่อว่า เรื่องปากท้องขึ้นอยู่กับการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่วนเรื่องสิ่งแวดล้อม เก็บไว้ทีหลังได้ ทั้งๆ ที่ความจริงเรื่องทั้ง 2 เชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก อย่างในไทย การที่นายทุนตัดไม้ทำลายป่า ส่งเสริมการปลูกพืชไร่เชิงเดี่ยวที่ใช้สารเคมี เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพด ฯลฯ คือตัวการทำลายป่า ทำลายระบบนิเวศ ทำให้ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรต้องเจอปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม การเจ็บป่วย เสียชีวิตจากสารเคมี ยากจนลง ฯลฯ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังมองแบบเชื่อมโยงปัญหาเหล่านี้เข้าด้วยกันไม่ค่อยเป็น และถูกสอนให้มองแบบแยกส่วนเป็นเรื่องๆ เช่น ถ้าอยากเพาะปลูกในได้พืชผลมากๆ ก็ต้องใช้ปุ๋ย ใช้สารเคมีมาก ทั้งๆ ที่ต้นทุนสูง ทำให้ผู้ปลูกเป็นหนี้เพิ่มขึ้น และทำลายสุขภาพ ทำให้ทั้งผู้ปลูกและผู้บริโภคเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และทำงานได้ประสิทธิภาพลดลงอีก

เราควรอ่าน ฟัง หาความรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม/ระบบนิเวศมากขึ้น และผลักดันให้พรรคการเมืองสนใจปัญหานี้มากขึ้น หรือที่ดีกว่าคือทำอย่างไรจะช่วยให้เกิดพรรคแนวกรีน/สังคมประชาธิปไตยที่เข้มแข็งเพราะพรรคนายทุนอาจจะสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมเฉพาะเรื่องเพื่อการหาเสียงและหาประโยชน์มากกว่าจะสนใจปัญหาการปฏิรูปประเทศทั้งระบบเพื่อสร้างความเป็นธรรม และความยั่งยืนของระบบนิเวศอย่างแท้จริง

คำว่ากรีน คนไทยส่วนใหญ่อาจจะไม่คุ้น ไม่ค่อยเข้าใจมากนัก คำว่าเพื่อ “ธรรมชาติ” น่าจะใช้แทนกันได้ เฉพาะคำว่า “ธรรม” นั้น มีความหมายกว้างในทางที่ดี ทั้ง 1. ความถูกต้อง ความดีงามนั้น 2.ความเป็นธรรม ความยุติธรรมทางสังคม และ 3.คือธรรมชาติ ความหมายของธรรม ทั้ง 3 แง่นี้ได้น่าจะเป็นแนวคิดนโยบายการพัฒนาประเทศที่ก้าวหน้าและครอบคลุม 3 เรื่องที่สำคัญที่สุดไปพร้อมๆ กัน อย่างบูรณาการ

ความเป็นธรรมทางสังคมและการปกป้องธรรมชาติเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่คนไทยต้องช่วยกันศึกษาและเผยแพร่องค์ความรู้และแนวทางการปฏิรูปเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองอย่างถึงรากถึงโคน ประชาชนส่วนใหญ่ที่ยังยากจนจึงจะมีโอกาสเข้าถึงธรรมข้อแรก (ความดีงาม, ความสงบสุขทางใจ) ได้อย่างแท้จริง