'บิ๊กตู่' ขาลง

เพราะแม้จะตั้งรัฐบาลมาได้เพียง 6 เดือน แต่การบริหารงานต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 6 ทำให้ความคาดหวังของประชาชน พุ่งสูงปรี๊ดขึ้นไปด้วย

สวนทางกับความนิยมในตัว “บิ๊กตู่” กลับลดน้อยถอยลง เพราะเจอศึกหลายด้าน เจอปัญหารุมเร้า จนกระทบการทำงานในภาพรวมเกือบทั้งหมด

ที่สำคัญการนั่งควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม พ่วงด้วยควบคุมดู สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ยิ่งทำให้สารพัดปัญหาพุ่งเข้าหาตัว “บิ๊กตู่” โดยตรง ไม่มีใครมาช่วยแบ่งเบา

ยิ่งเกิดปัญหา ส.ส.ขั้วรัฐบาล เสียบบัตรแทนกันในการโหวต ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ยิ่งทำให้ “บิ๊กตู่” ต้องหาทางแก้ไขปัญหา เพราะหาก พ.ร.บ.งบประมาณ ต้องล่าช้าออกไป การเบิกจ่ายงบประมาณที่ตั้งเป้ากันเอาไว้ว่า กลางเดือน ก.พ. จะสามารถเบิกใช้ได้จะต้องสะดุด

บรรดาเมกะโปรเจค ที่เตรียมจะขับเคลื่อนก็ต้องร้องเพลงรอออกไปอีก ทำให้ “บิ๊กตู่” ออกอาการหัวเสีย

นอกจากนี้ยังมีปัญหา ฝุ่น PM2.5 ที่คอยกวนใจ หลังโดนชาวกรุงกร่นด่า หาว่ารัฐบาลไม่มีมาตรการออกมาช่วยลดปริมาณฝุ่นพิษ จนตั้งออกแอ๊คชั่น ออกมาตรการมาควบคุม แต่ถามกลับว่าหากใช้ “ยาแรง” ประชาชนจะรับได้หรือไม่ แถมยังโดน “พรรคเพื่อไทย-พรรคอนาคตใหม่” แท๊กทีมปั่นกระแสดิสเครดิตอีกด้วย

แถมยังมีปมทุจริตใน สตช. ที่รอให้สะสางกันอยู่ หลัง “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ออกมาแฉแหลก “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีเอี่ยวโครงการทุจริต 3 คดี ประกอบด้วย คดีซื้อรถไฟฟ้าอัจฉริยะ 900 ล้านบาท คดีจัดซื้อไบโอเมทริกซ์ วงเงิน 2,100 ล้านบาท คดีจัดซื้อเรือตรวจการณ์ 27 ลำ วงเงิน 348 ล้านบาท

ว่ากันว่าหากสาวกันให้ลึก คดีจัดซื้อไบโอเมทริกซ์ อาจจะสะเทือน “บิ๊กรัฐบาล”

ทั้งหมดทำให้ “บิ๊กตู่” ร้อนใจ อยู่ในช่วง “ขาลง” ของจริง