'โจ๊ก' ใส่ไข่

'โจ๊ก' ใส่ไข่

เรื่อง "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปๆ มาๆ เป้าไม่ได้อยู่ที่ "รถถูกยิง"

แต่กลายเป็นเรื่อง ไบโอแมททริกซ์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ไปเฉยเลย

กระสุน 8 นัดแลบไปโดน "บิ๊กแป๊ะ" พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ได้ยังไง

มีคนถามว่า หาก “บิ๊กโจ๊ก” จัดฉากยิงรถตัวเองเพื่อให้ข่าวเรื่องไบโอแมททริกซ์ดัง เพื่อเชื่อมโยงว่าใครได้ใครเสียจากโครงการ 2,000 ล้านนั้น “บิ๊กโจ๊ก” จะลงทุนไปเพื่ออะไร?

แต่จะบอกว่าไม่ใช่การจัดฉาก มันก็ตอบชัดเจนหรือยืนยันแบบนั้นไม่ได้ เพราะทั้งตัว ทนายตั้ม ษิทธา เบี้ยบังเกิด และ “บิ๊กโจ๊ก” ต่างออกมารับลูกกันทันทีว่า เป้าที่เขาถูกยิงถล่มรถมาจากการร้องเรียนเรื่อง ไบโอแมททริกซ์ ต่อปปช.

พูดเหมือนกับจะบอกว่า คนร้ายหมายสังหาร “บิ๊กโจ๊ก” เพื่อปิดปาก”พยาน” ไม่ให้ไปให้ข้อมูลต่อปปช.

ดังนั้น คดีนี้จึงมีประเด็นให้ต้องติดตามคือ

1. การยิงรถบิ๊กโจ๊กเป็นการจัดฉากหรือไม่ สอง โครงการจัดซื้อไบโอแมททริกซ์ มีการทุจริตหรือไม่

2. ประเด็นใหญ่ๆ ที่มันมีความเชื่อมโยงและต่อเนื่องกัน

ความจริงทนายตั้ม ยื่นร้องปปช.นานแล้ว หากจะยิง “บิ๊กโจ๊ก” เพื่อปิดปากก็น่าจะยิงนานแล้ว แต่ทนายตั้มก็มีข้อโต้แย้งว่า ที่มายิงตอนนี้เพราะว่าคดีดังกล่าว ปปช.กำลังจะเรียกบิ๊กโจ๊กไปให้ปากคำ ว่าอย่างนั้น

มีคำถามตามมาอีกว่า ใน สตม. มีโครงการอะไรอีกหรือไม่ ที่ส่อไปในทางว่าจะมีคนได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ แล้วในยุคที่ บิ๊กโจ๊ก เป็นผบช.สตม. มีอะไรที่มีการทุจริตหรือไม่ เรื่องนี้ บิ๊กอู๊ด ต้องนำมาเปิดเผยต่อสาธารณะเหมือนกัน

ไม่งั้นบิ๊กอู๊ดกับบิ๊กแป๊ะ จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

ใครก็ทราบว่า บิ๊กโจ๊ก นั้นเข้านอกออกในบ้าน ลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ เป็นประจำ แม้นว่า บิ๊กโจ๊ก จะไม่ได้เป็นตำรวจ และบิ๊กป้อม จะไม่ได้คุม สตช.แล้วก็ตาม

ก่อนหน้านี้มีความพยายามปล่อยข่าวว่า บิ๊กโจ๊ก จะกลับคืนสู่เก้าอี้ระดับรอง ผบ.ตร. ข่าวนี้สะเทือนไปทั้งปทุมวัน เพราะตำรวจกลุ่มที่ไม่รับประทานเส้นกับกลุ่มบิ๊กโจ๊ก รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ว่าหากบิ๊กโจ๊กกลับมาใหญ่อีก น่าจะมีการย้ายล้างบางเกิดขึ้น เพราะห้วงเวลาที่ สตช. ปลอด บิ๊กโจ๊ก และบิ๊กป้อม ปรากฏว่า บิ๊กแป๊ะ ทำการ”ล้างบาง” คนของบิ๊กโจ๊กและบิ๊กป้อม เสียเหี้ยนเตียนไม่เหลือ

นี่จะทำให้ บิ๊กป้อม ไม่พอใจไปด้วยหรือเปล่า

เนื่องจากคำสั่งแต่งตั้งโยกย้าย บิ๊กตู่ ที่มากำกับดูแล สตช. ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวเลย อำนาจเบ็ดเสร็จแบบเต็มไม้เต็มมือจึงอยู่ในมือ บิ๊กแป๊ะ คนเดียว

เห็นชัดเจนจากการให้สัมภาษณ์ของบิ๊กโจ๊กว่า นายตำรวจใหญ่ใน สตม.ยุคบิ๊กโจ๊ก ถูกย้ายออกจาก สตม.หมดเกลี้ยง และคนเหล่านี้จะมาเป็น ”พยาน” ให้การต่อปปช.กรณีความไม่ชอบมาพากลในการจัดซื้อเครื่องไบโอแมททริกซ์

แต่แหล่งข่าวใน สตม.ปล่อยของออกมาว่า การที่บิ๊กโจ๊กทำหนังสือให้เลิกการจัดซื้อเครื่องนี้กับบริษัทหนึ่ง เพื่อจะนำไปซื้อกับอีกบริษัทหนึ่ง แทน เมื่อไม่ได้เลยไปร้องปปช.นั้น

เห็นว่า เรื่องนี้ อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดหน้าขอร่วมวงไพบูลย์ด้วย พร้อมกับแฉว่า มีบริษัทของ ผู้หญิงชื่อ ก. ที่สนิทกับบิ๊กโจ๊ก จะเข้ามารับงานนี้แทนบริษัทเดิม เลยกลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา

ฝ่ายข่าวของบิ๊กโจ๊ก ออกมาโต้กลับทันทีว่า อัจฉริยะ เป็นเพื่อนกับ บิ๊กอู๊ด

เรื่องนี้จะสาวใส้กันอีกนานแค่ไหนยังไม่ทราบ รับรองว่า คนที่อยู่เบื้องหลังเกมนี้ น่าจะใหญ่กว่า บิ๊กแป๊ะ และบิ๊กโจ๊ก แน่นอน เพราะลงทุนดักฟังหรืออัดเทปการคุยกันระหว่าง บิ๊กแป๊ะ กับ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร.ได้นี้ย่อมไม่ธรรมดา

เจตนาคือต้องการฉีกหน้า บิ๊กแป๊ะ

แล้วใครล่ะ นอกจากบิ๊กโจ๊กที่แค้น บิ๊กแป๊ะ ว่าการแต่งตั้งโยกย้าย นั้นไม่สามารถ ”ฝากเด็ก” ได้เลย เนื่องจาก บิ๊กแป๊ะ มีนักการเมืองใหญ่คนหนึ่ง”หนุนหลัง”อยู่เหมือนกัน เลยไม่กลัว ต่างฝ่ายต่างใหญ่ แถมอยู่ในรัฐบาลเดียวกันด้วย

ถึงกับมีข่าวว่าเกษียณแล้ว บิ๊กแป๊ะ มีเก้าอี้รัฐมนตรีรออยู่

งานนี้จะยาวไปถึงขนาดกระเทือนเก้าอี้ผบ.ตร.หรือไม่ หรือแค่ สั่งสอน จากนั้นก็เคลียร์กันจูบปากแล้วจบลงดื้อๆ

แต่ได้เห็นและพูดได้คือ บิ๊กโจ๊ก ยังทำทุกอย่างเพื่อนายได้ ไม่ว่าจะอยู่ในสตช.หรือไม่ได้อยู่แล้วก็ตาม “ไบโอแมททริกซ์ จึงเป็นแค่เครื่องต่อรองอำนาจ ในสตช.เท่านั้นเอง

 เรื่องของบิ๊กโจ๊ก มันจึงเหมือนโจ๊กใส่ไข่ดีๆนี่เอง.

...

โดย ทีมข่าวเนชั่นสุดสัปดาห์