เพื่อไทยขาลง

เพื่อไทยขาลง

ถ้าเปรียบ “ฟอร์มมวย” กับการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ขอนแก่น เขต 7 ที่ช่วงรณรงค์หาเสียง พรรคเพื่อไทย เชิญชวนพี่น้องขอนแก่น เขต 7 กาเพื่อไทย

เพื่อสะท้อนเสียงชาวบ้านไม่เลือกข้างรัฐบาล เหมือนครั้ง พรรคอนาคตใหม่ ต้องการให้การเลือกตั้งซ่อมที่นครปฐม เป็น โดมิโน่” ล้มรัฐบาล

ผลการลงคะแนนเสียง อย่างไม่เป็นทางการ “สมศักดิ์ คุณเงิน จากพรรคพลังประชารัฐ ได้ 40,252 คะแนน ส่วน ธนิก มาสีพิทักษ์ จากพรรคเพื่อไทย ได้ 38,010 คะแนน

เขตเลือกตั้งที่ 7 จ.ขอนแก่น มีผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้ง 132,063 คน มีผู้มาใช้สิทธิ 81,063 คน คิดเป็น 61.38% บัตรดี 78,568 บัตร คิดเป็น 96.32% บัตรเสีย 1,680 บัตร คิดเป็น 2.07% และบัตรที่ไม่เลือกผู้สมัครรายใด 815 บัตร คิดเป็น 1.01%

ประธานกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย สมยศ พฤกษาเกษมสุข มองผลการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นความเสื่อมถอยและจุดจบพรรคเพื่อไทย

เหตุผล เพราะพรรคเพื่อไทยแพ้พรรคพลังประชารัฐ ยับเยิน การพยายามอ้างว่า มีการใช้เงินซื้อเสียง (แต่จับไม่ได้สักที) เป็นเหตุผลเก่า แค่ปลอบใจกันเอง ความพ่ายแพ้สะท้อนได้หลายแง่มุมด้วยกันทั้งตัวบุคคล การลงพื้นที่หาเสียง ยุทธวิธีหาเสียง นโยบายการหาเสียง ภาวะผู้นำภายในพรรค และบทบาทของพรรค

พรรคเพื่อไทยกำลังเสื่อมถอยด้วยเหตุที่มีแต่ นักเลือกตั้ง และนักการเมืองที่ “ไร้ศักยภาพ” ขาดความมุ่งมั่นจริงจังในการต่อสู้ทางการเมือง เหินห่างจากชาวบ้านและทำได้แค่สร้างภาพฉาบฉวย อาศัยบุญเก่าที่สะสมกันมาแต่ทว่าไร้มนต์ขลังไปแล้ว ไม่มีสิ่งที่ดีกว่าและเหนือกว่าเดิม

หากพรรคเพื่อไทย ยังอาศัยแค่ บุญเก่า” ห่างเหินจากชาวบ้าน ขาดความมุ่งมั่นจริงจังและขาดความกล้าหาญทางการเมือง ไม่ได้ต่อสู้เป็นปากเสียงแทนความเดือดร้อนของชาวบ้าน ก็ต้องพบกับความเสื่อมถอยในที่สุด

ผมหยิบยกความเห็น คุณสมยศ เพราะเคยมีบทบาทอยู่ฟากฝั่งเดียวกับเพื่อไทย น่าจะมีน้ำหนักกว่าความเห็นฝ่ายตรงข้าม

ผมเห็นด้วย ว่า เพื่อไทย ไม่มีอะไรใหม่น้องจากที่เคยหาเสียงแบบเดิมๆ ที่ชาวบ้านจับต้องไม่ได้

ขณะที่รัฐบาล ให้ประชาชนจับต้องผลงาน ทั้งมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร และสารพัดชอป ที่คลอดออกมาอย่างต่อเนื่อง

ประการหนึ่งคือ ความไร้เอกภาพของพรรคฝ่ายค้าน ที่มุ่ง สร้างดาวกันคนละดวง การช่วงชิงที่แฝงไปด้วยผลประโยชน์ระดับ แกนนำ นี่แหล่ะคือปัจจัยของการแพ้หมดรูปเป็นขาลงของพรรคเพื่อไทย ขาลงของพรรคฝ่ายค้าน