ไทยแลนด์:Golf for all seasons

ไทยแลนด์:Golf for all seasons

ตลาดกอล์ฟเป็นตลาดกีฬาเชิงนันทนาการที่ใหญ่มากของโลก ตามรายงานของ ดร.รัชพงษ์ กลิ่นศรีสุข มหาวิทยาลัยมหิดล

ซึ่งศึกษาเรื่องการจัดการห่วงโซ่อุปทานท่องเที่ยวเชิงกอล์ฟให้กับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ตลาดกอล์ฟมีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านปอนด์ มีผู้เล่นกอล์ฟทั่วโลกประมาณ 56 ล้านคน มีสนามกอล์ฟ 32,000 แห่งใน 140 ประเทศทั่วโลก กำลังเป็นตลาดที่ขยายตัวมากในทวีปเอเชีย เพราะมีเศรษฐีใหม่เพิ่มขึ้นในประเทศจีนเป็นจำนวนมาก จีนเองก็มีนโยบายพัฒนาเกาะไหหลำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงกอล์ฟ ที่จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ ด้วยปัจจุบันมีสนามกอล์ฟถึง 38 สนามแล้ว

ในประเทศไทยได้โปรโมทการท่องเที่ยวเชิงกอล์ฟมานานแล้ว ตั้งแต่เรามีการรณรงค์ Amazing Thailand การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยร่วมกับบริษัทการบินไทย และสมาคมสนามกอล์ฟแห่งประเทศไทยก็ได้เริ่มจัดงานไทยแลนด์กอล์ฟเทรเวิล มาร์ทขึ้นเป็นครั้งแรกในวันที่ 24 - 29 พ.ค.2541 ส่งเสริมให้มีการจัดแพ็กเกจทัวร์จากต่างประเทศมาท่องเที่ยวเล่นกอล์ฟในประเทศไทย หลังจากนั้นจำนวนนักกอล์ฟต่างชาติที่มาเล่นกอล์ฟในประเทศไทยก็สูงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งสูงถึงเกือบ 9 แสนคนในปี 2558 และประเทศไทยติดอันดับ 5 ของเอเชียในฐานะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักกอล์ฟนานาชาติเพราะมีสิ่งอำนวยสะดวกต่อการเล่นกอล์ฟอย่างครบครัน ในปีเดียวกันยังมีสนามกอล์ฟของประเทศไทยติดอันดับสนามกอล์ฟยอดเยี่ยมของโลกถึง 100 สนามด้วยกัน ในปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนสนามกอล์ฟถึง 238 สนาม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสนามที่ออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ และที่ติดมาตรฐานโลกมีไม่ต่ำกว่า 6 สนาม

ปัจจุบันไทยเป็นประเทศยอดนิยมด้านการท่องเที่ยวของจีน เพราะสะดวกทั้งเรื่องการเดินทาง ผู้คนอัธยาศัยดี ที่พักราคาไม่แพง กระทั่งนักท่องเที่ยวจีนกลายเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท่องเที่ยวไทย แต่จีนยังไม่ใช่ลูกค้าใหญ่ด้านการท่องเที่ยวเชิงกอล์ฟของไทย ดังนั้น เราจึงยังมีโอกาสที่จะดึงนักท่องเที่ยวจีนที่มาเล่นกอล์ฟได้อีกมาก เพราะตลาดของจีนด้านกอล์ฟใหญ่มาก ข้อมูลของ ดร.ดนัยธัญ พงศ์พัชรวาท นักวิจัยในทีม ดร.รัชพงษ์ ระบุว่าประชากรที่ตีกอล์ฟในจีนมีไม่ต่ำกว่า 18 ล้านคน และเติบโตรวดเร็วมาก คือคาดว่าจะเป็น 20 ล้านคนในปี 2563

การสำรวจข้อมูลออนไลน์ที่สอบถามนักท่องเที่ยวเชิงกอล์ฟชาวจีน ที่เผยแพร่ในวารสารเศรษฐศาสตร์ท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2558 ใน www.eee.199it.com/archives/ 411418.html นักท่องเที่ยวจีนที่เล่นกอล์ฟส่วนใหญ่เป็นชายถึง 90% และเป็นนักกอล์ฟมือใหม่ ซึ่งเล่นกอล์ฟมาเป็นระยะเวลา 3-5 ปีการท่องเที่ยวกอล์ฟกำลังขยายไปสู่นักท่องเที่ยวที่มีรายได้ปานกลางและอายุน้อยลง คือมีอายุระหว่าง 30-39 ปีถึง 1 ใน 4 และมีอายุระหว่าง 40-49 ปีถึง 50% ที่น่าสนใจก็คือนักท่องเที่ยวกอล์ฟจีนประมาณ 1 ใน 3 เล่นกอล์ฟประมาณปีละ 30-60 ครั้ง และอีกประมาณ 22% เล่น 60-90 ครั้ง คือตีกอล์ฟเป็นประจำถึงสัปดาห์ละกว่า 1 ครั้ง อย่างไรก็ดี กลุ่มนักเล่นกอล์ฟจีนส่วนใหญ่ยังตีกอล์ฟอยู่ภายในประเทศเป็นส่วนใหญ่เพียง 14% เท่านั้นที่เคยเดินทางไปเล่นกอล์ฟในต่างประเทศ เวลาที่ใช้ในการเดินทางแต่ละครั้งก็ประมาณ 3-7 วัน และครึ่งหนึ่งใช้เงินท่องเที่ยวเชิงกอล์ฟถึง 1-2.5 แสนบาท ในแต่ละครั้ง และมี 10% ซึ่งใช้เงินมากกว่า 5 แสนบาทต่อครั้ง (แต่กลุ่มนี้น่าจะเป็นกลุ่มที่เรียกว่า Crazy Rich Asians) นักท่องเที่ยวเชิงกอล์ฟของจีนส่วนใหญ่นิยมวางแผนเดินทางด้วยตนเองมากกว่า

การเข้าร่วมกลุ่มทัวร์กอล์ฟ และที่น่าสนใจคือกลุ่มนี้ประมาณ 67% จะเลือกไปเที่ยวตีกอล์ฟในวันธรรมดาที่ไม่ใช่วันหยุดหรือวันเทศกาล หมายความว่ากลุ่มนี้อาจจะเป็นกลุ่มของผู้ประกอบการที่สามารถจัดการเวลาของตัวเองได้ประมาณ 1 ใน 4 ของกลุ่มนี้เลือกเดินทางชั้นธุรกิจ และประมาณ 12-13% เลือกเดินทางในชั้นเฟิร์สคลาส จุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวกอล์ฟจีนในปัจจุบันได้แก่ สหรัฐ ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร ส่วนทางเอเชีย นิยมเดินทางมาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และญี่ปุ่น

นอกจากการมาใช้จ่ายโดยตรงกับการเล่นกอล์ฟแล้ว นักท่องเที่ยวจีนเหล่านี้ก็มักจะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในเรื่องของการรับประทานอาหาร นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ยังนิยมซื้อเครื่องแต่งกาย เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องประดับ เครื่องมือ และอุปกรณ์กีฬากอล์ฟเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ

นักท่องเที่ยวเชิงกอล์ฟของจีน จึงเป็นนักท่องเที่ยวที่พึงปรารถนาของประเทศไทย ด้วยมีค่าใช้จ่ายสูงและมาพักผ่อนตีกอล์ฟในช่วงวันธรรมดาที่ไม่ใช่วันหยุดเทศกาลที่สถานที่ท่องเที่ยวของเราค่อนข้างจะคับคั่งอยู่แล้ว และในขณะนี้ทัวร์จีนประเภท Mass Tourism มีแนวโน้มลดลง ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงโอกาสดีของไทยเพราะเราเป็นประเทศที่มีชัยภูมิอยู่ใกล้ประเทศจีนใช้เวลาเดินทางไม่มากนัก บริษัทท่องเที่ยวไทยจำเป็นต้องหาช่องทางใหม่ๆ ทีจะจัดทัวร์กลุ่มเล็ก และเจาะตลาดเฉพาะทางมากขึ้น รวมทั้งมีโอกาสจัดทัวร์สำหรับผู้ที่ต้องการมาฝึกฝีมือในทำนองเดียวกับที่เราได้เคยรับนักท่องเที่ยวกอล์ฟเกาหลี

รศ.ดร.สมบัติ อ่อนสิริ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เสนอว่าควรมีการรณรงค์ให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงกอล์ฟทุกฤดู(Thailand Golf for all Seasons) ซึ่งควรมีการศึกษาความเป็นฤดูกาล(Seasonality) ของสนามกอล์ฟต่างๆ เพื่อจะได้จัดแคมเปญรณรงค์สนามกอล์ฟในจังหวัดต่างๆ ทุกเดือนได้อย่างเหมาะสมกับดินฟ้าอากาศของแต่ละพื้นที่ จัดทำ Golf Pass ที่นักท่องเที่ยวสามารถเล่นได้ทุกสนาม ทุกเดือนโดยมีบริการพิเศษ

เห็นช่องทางแล้วก็ลุยได้เลยนะคะ!