การเสพติดการพนันและแนวทางแก้ไข

การเสพติดการพนันและแนวทางแก้ไข

การสำรวจกลุ่มตัวอย่างอายุ 15 ปีขึ้นไป ทั่วประเทศในปี 2560 โดยศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย www.gamblingstudy-th.org

พบว่า คนเล่นการพนันมีสัดส่วน 54.6% ของกลุ่มตัวอย่าง(ประมาณ 29 ล้านคน) โดยนิยมเล่นหวยรัฐบาล หวยใต้ดิน ไพ่ และทายผลการแข่งฟุตบอลมากตามลำดับ ที่น่าสนใจ คือคนเล่นการพนันที่ประเมินตนเองติดการพนัน คือเล่นมาก เล่นบ่อย เลิกไม่ได้ มีปัญหาด้านต่างๆ ถึง 16.1% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงกว่ารายงานของประเทศอื่นๆ(ประมาณ 4.663 ล้านคน)

มีเว็บไซต์เล่นการพนันออนไลน์(จากทั่วโลก) ให้คนไทยเข้าถึงได้มากกว่า 2 แสนเว็บไซต์ ทำให้มีการนิยมเล่นการพนันกันได้สะดวก และแพร่หลายเพิ่มขึ้น(ทั้งการพนันการแข่งฟุตบอล คาสิโนออนไลน์ และอื่นๆ) สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทยอ้างอิงสถิติจากหนังสือ กลไกเชิงพื้นที่ในการป้องกันและลดผลกระทบจากการพนัน: บทเรียนทรงพลัง ว่าเด็กเยาวชนไทยเล่นการพนัน 3.69 ล้านคน ในจำนวนนี้กว่า 1 แสนคน ติดหนี้การพนันเป็นเงินราว 335 ล้านบาท (ไทยโพสต์ 12 ก.ย. 2562)

ไทยมีทั้งการเล่นการพนันที่ถูกกฎหมาย เช่น สลากกินแบ่งรัฐบาล การแข่งม้า การเล่นการพนันในเทศกาล เช่น ประเพณีบุญบั้งไฟ หรือในงานศพ และมีการพนันที่ไม่ถูกกฎหมาย ที่รัฐบาลไม่สามารถควบคุมดูแลได้ทั่วถึง

สลากกินแบ่งรัฐบาล หน่วยงานรัฐบาลที่ผูกขาดในเรื่องนี้มีรายได้มาก รายได้เหล่านี้นำส่งกระทรวงการคลังส่วนหนึ่ง และบริจาคให้กับกิจกรรมต่างๆ ตามแต่นโยบายของรัฐบาลแต่ละชุด ไทยยังไม่มีองค์กรกลาง เช่น คณะกรรมาธิการหรือสถาบันได้รับงบประมาณจากรัฐเพื่อทำหน้าที่วิจัยป้องกันและบำบัด ในเรื่องปัญหาการติดการพนันเหมือนในประเทศพัฒนาอุตสาหกรรมส่วนใหญ่

ควรจะมีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการ หรือสถาบันที่เป็นองค์กรกลางทำหน้าที่วิจัยป้องกันและบำบัดการติดการพนัน ที่ได้รับงบสนับสนุนจากรายได้ส่วนที่เป็นกำไรของกองสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อทำหน้าที่วิจัยเผยแพร่องค์ความรู้ในการ รู้เท่าทัน ป้องกันและแก้ไขปัญหาการติดการพนัน โดยเฉพาะในหมู่เด็กเยาวชน ซึ่งอยู่ในวัยที่มีความเสี่ยงสูง ขณะเดียวกันก็ควรวิจัยสถานะการณ์ปัจจุบันที่ผู้หญิง และผู้สูงวัยมีแนวโน้มที่จะเล่นการพนันและติดการพนันเพิ่มขึ้นด้วย

ถัดจากเรื่องการวิจัยและเผยแพร่ความรู้ในเชิงป้องกันแล้ว รัฐควรลงทุนในการฝึกอบรมจิตแพทย์ นักจิตวิทยา แพทย์ นักบำบัด นักสังคมสงเคราะห์ให้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องปัญหาเชิงจิตวิทยาและสังคมวิทยาของการพนัน และแนวทางในการบำบัดผู้ติดการพนันเพิ่มขึ้น เพราะไทยยังขาดแคลนบุคลากรด้านนี้อยู่มาก ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐฯ มีสถาบันที่ฝึกอบรมนักบำบัดที่ใช้หลักสูตรไม่ยาวนัก ที่ไทยน่าจะส่งบุคลากรไปเข้ารับการฝึกอบรม หรือขอความร่วมมือกับสถาบันที่เชี่ยวชาญในเรื่องนี้มาจัดการอบรมในเมืองไทย (นอกจากสหรัฐฯ แล้ว น่าจะมีประเทศอื่นๆ ด้วย)

กระทรวงสาธารณสุข ทั้งกรมสุขภาพจิต และกรมอื่นๆ และกระทรวงอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ควรจะสนใจวิจัยติดตามปัญหาเรื่องการติดพนัน มีทุนให้แพทย์ จิตแพทย์ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ ฯลฯ ทำวิจัย ให้ทุนไปเรียนต่อหรือไปรับการฝึกอบรมระยะสั้นในเรื่องการบำบัดคนติดการพนันเพิ่มขึ้น มีโครงการให้ความรู้เรื่องปัญหาการติดการพนันอย่างถือเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญปัญหาหนึ่ง

รัฐบาลควรพิจารณาพัฒนาสายด่วนศูนย์ให้คำปรึกษา (Help Line) คนติดการพนัน ที่มีผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ได้รับการฝึกอบรมมาคอยให้คำปรึกษาทั้งทางโทรศัพท์ ทางไลน์ ทางเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ช่องทางต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ปัจจุบันอยู่แต่รองรับคนที่โทรมาถามได้จำกัด ควรจะลงทุนเพิ่มสายโทรศัพท์ เพิ่มคนรับโทรศัพท์ ซึ่งอาจจะประสานงานส่งสายต่อให้นักบำบัดตัวจริงซึ่งจะอยู่ที่ไหนก็รับโทรศัพท์ได้ แต่ควรมีการจัดเวรและมีค่าตอบแทนให้ด้วย

แนวทางให้ความรู้ให้เด็กเยาวชนเพื่อป้องกันการติดการพนันที่ในต่างประเทศมีการทำโปรแกรมเป็นคลิปวิดีโอ เป็นโปรแกรมผ่านสื่อสังคมต่างๆ เป็นหนังสือคู่มือสำหรับคนที่ต้องการแก้ปัญหาด้วยตนเอง น่าจะเลือกใช้โปรแกรมที่ต่างประเทศเขาทำกันมาแปลเป็นไทย หรือนำมาดัดแปลงประยุกต์ให้เหมาะกับสังคมไทย ที่มีวัฒนธรรม มีบริบท สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจสังคมที่แตกต่าง เช่น คนไทย เชื่อเรื่องดวง เชื่อโชคลาง ไสยศาสตร์ ที่ทำให้พวกเขาเชื่อว่าจะเล่นการพนันได้ชนะอยู่มาก

การให้เด็ก เยาวชน ประชาชน มีความรู้เท่าทันในเรื่องคณิตศาสตร์ หลักความเป็นไปได้ว่าในการเล่นพนันนั้นคนเล่นมีโอกาสเสียมากกว่าได้ในระยะยาวเป็นแนวทางการให้การศึกษาที่ควรทำ น่าจะแทรกเข้าไปในหลักสูตรการสอน การเรียน ตั้งแต่ชั้นประถมปลายด้วยแล้ว

ประสบการณ์ในต่างประเทศมองว่าการป้องกันด้วยการส่งเสริมพัฒนาการทางจิตใจของเด็กเยาวชนในแง่บวก ทำให้เด็กเยาวชน รู้จักดูแลอารมณ์ พฤติกรรมของตัวเอง มีวินัยในตัวเอง รู้จักใช้เวลาในการทำกิจกรรมที่สนุก สร้างสรรค์ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เป็นประโยชน์ มีความฉลาดทางอารมณ์ ความฉลาด/ทักษะทางสังคม หรือทักษะชีวิต การแก้ปัญหาเป็น การรู้จักผ่อนคลายความเครียด เป็นช่องทางสำคัญในการเสริมภูมิต้านทานไม่ให้คนเราเผลอไผลหลงไปติดการพนันหรือติดสารเสพติดอื่นได้ง่าย เรื่องนี้ควรสนับสนุนให้ครูอาจารย์เรียนรู้เรื่องจิตวิทยาแนวบวกมากพอที่จะอธิบายต่อให้นักเรียนนักศึกษาเข้าใจได้ แนวทางที่สำคัญคือควนปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจสังคมเพื่อกระจายทรัพย์สิน รายได้ การศึกษาที่มีคุณภาพสู่ประชาชนทั้งประเทศอย่างเป็นธรรม เป้าหมายการพัฒนาเน้นการคุณภาพชีวิตคนทั้งประเทศมากกว่าการเพิ่มความมั่งคั่งทางวัตถุ ปฏิรูประบบประกันสังคม และรัฐสวัสดิการที่ดี ประกันให้ประชาชนคนพอมีรายได้ยังชีพอย่างพอเพียง มีความมั่งคั่งในชีวิต การปฏิรูปในแนวนี้จะมีผลดีทางเศรษฐกิจสังคมในหลายด้าน รวมถึงช่วยลดปัญหาการติดการพนันได้ด้วย

จากหนังสือ การเสพติดการพนัน ความใหญ่โตของปัญหาและแนวทางแก้ไข เปิดดูได้จากเว็บของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน www.gamblingstudy-th.org หรือขอหนังสือเล่มได้ที่ [email protected] โทร02-218-6299