ข่าวพวกนี้หายไปอยู่แห่งหนใดวานบอก

ข่าวพวกนี้หายไปอยู่แห่งหนใดวานบอก

ผมมีเพื่อนชาวต่างชาติหลายคนมาบ่นๆ เรื่องการทำงานของสื่อให้ฟังว่า เขาสนใจติดตามข่าวหลายเรื่องทั้งทางทีวีและหนังสือพิมพ์

 เพื่อนต่างชาติของผมเหล่านี้ส่วนใหญ่จะรอบรู้ภาษาไทยดีมาก แถมบางคนยังเสพสื่อโซเชียลโพสต์แสดงความเห็นเกี่ยวกับสังคมไทยอยู่เนืองๆ เรื่องที่เขาหงุดหงิดคือกรณีที่เขาติดตามข่าวที่อยู่ในความสนใจแต่ปรากฏว่า “สื่อของเราไม่เกาะติด เวลานำเสนอต่างพากันเสนอเรื่องเดียวกันทุกสถานีทุกสายสื่อ ประเดี๋ยวประด๋าวข่าวเหล่านั้นก็หายไป ผมเองในฐานะคนกลางต้องให้ความเห็นปกป้องสื่อที่ตั้งใจทำงานไปว่า จะโทษสื่ออย่างเดียวคงไม่ได้ บางทีเขาอาจทำเต็มที่แล้ว ทางหน่วยราชการที่รับผิดชอบไม่ทำงานหรือไม่ เรื่องเลยค้างคาไม่มีผลใดๆ มาให้รับรู้กัน ลองมาดูกันนะครับว่ามีอะไรกันบ้าง

ข่าวแรก กรณีรถของผู้มีอันจะกิน เจ้าของเครื่องดื่มชูกำลังแบรนด์ดัง ขับชนจ่าตำรวจถึงแก่ชีวิต เรื่องนี้เริ่มต้นถึงขนาดสื่อพากันไปล้อมบ้าน มีข่าวเปลี่ยนตัวผู้ต้องหากระทั่งคนหนึ่งต้องพ้นจากราชการไปเพราะเข้าข่ายประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง เรื่องยังไม่จบ การตั้งข้อหาบางข้อหาไม่อาจดำเนินการอะไรได้เพราะเลื่อนแล้วเลื่อนอีก อันเนื่องด้วยความไม่สะดวกของผู้ต้องหา ในที่สุดบางข้อหาต้องยุติเพราะขาดอายุความ มาถึงวันนี้เคยมีข่าวผู้พบเห็นบุคคลดังกล่าวในที่ต่างๆ แต่เรื่องดูเหมือนจะเงียบไป อย่างไร้ร่องรอย

ข่าวต่อมา คือ กรณ๊ดารานักแสดงไปพัวพันทั้งรีวิวสินค้าและการค้าเงินตรา มาถึงวันนี้เกือบทุกสำนักข่าวเงียบสนิท หลายเว้ปไซต์ไม่ปรากฏกระทั่งลิ้งค์ข่าวที่ว่านี้ให้ตามค้นหา รวมไปถึงคดีแชร์ลูกโซ่ที่สร้างความเสียหายล่าสุดหลายพันล้านบาท

เรื่องการรุกที่สาธารณะก็เหมือนกัน อาจมีประเด็น ส ส บางคนกำลังเผชิญกับการที่อาจถูกดำเนินคดี แต่ถึงวันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพากันตั้งโต๊ะแถลงข่าวอย่างขึงขังปรากฎว่ายังไม่อาจแจ้งความดำเนินคดีได้เพราะยังต้องรวบรวมพยานหลักฐานและยังไม่แน่ใจว่าจะตั้งข้อหาอะไรเป็นที่แน่ชัด ไม่น่าขำเท่ากับเรื่องที่คนติดตามข่าวพากันงงงวยกับการที่เจ้าหน้าที่นำรถแบ๊กโฮไปรื้อถอนรีสอร์ทรุกป่าที่ภูทับเบิก ตามข่าวมีกันเป็นร้อยๆ ราย มาบัดนี้เหมือนไม่มีใครตอบได้ว่าเจ้าหน้าที่ทำอะไรกันอยู่ ผู้ประกอบการยังคงเดินหน้าเปิดกิจการเป็นปกติ หรือเขาจะคิดเหมือนกรณีรีสอร์ทหรูบนเกาะแห่งหนึ่งทางภาคใต้ ที่สู้กันถึงฎีกามา 30 ปี ตลอดเวลาเขาก็ทำมาหากินของเขาไประหว่างสู้คดี พอทางราชการชนะคดีก็คืนกรรมสิทธิ์กลับมา ง่ายๆ แบบนี้เลย แถมมีความคิดของผู้ปรารถนาดีแต่ไม่ทราบความประสงค์โดยแท้ มาแนะนำให้เยียวยาให้เขาทำกินต่อไปให้รัฐเก็บค่าเช่าค่าธรรมเนียมเอา จริงๆ ก่อนหน้านี้หลายๆ คนยังสงสัยสับสนกับการที่ดารามาเป็นเจ้าของเกาะอยู่กลางทะเลได้อย่างไร บางคนบอกเรื่องถึงฎีกาแล้วบางคนบอกคนละเรื่องกัน เลยมีคนทวงถามสื่อให้ช่วยติดตามหาข่าวให้ชัดเจน

ขยับมาการเมือง เพราะฝ่ายค้านบางพรรคตั้งธงเล่นงานรัฐมนตรีท่านหนึ่งในรัฐบาลชุดนี้แบบขุดประวัติในอดีตมาตีแผ่อย่างฉาวโฉ่ ประกาศจะสืบค้นหาข้อเท็จจริงกันถึงต่างประเทศ ผมเดิมทีให้เครดิตฝ่ายค้านนี้มาก เพราะข้อกล่าวหานั้นร้ายแรงและเป็นเรื่องไม่กระทบภาพลักษณ์รัฐบาลเท่านั้นแต่เป็นผลประโยชน์ของชาติและประชาชนจะได้ไม่มีใครกล้ามาดูถูกดูแคลนได้ว่าปกป้องคนผิด นึกว่าจะมีอะไรเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง ทราบมาว่าการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจคราวนี้น่าจะไม่มีอะไรไปพาดพิงรัฐมนตรีท่านนี้ให้ระคายผิว ถ้าเป็นจริงตามนี้ต้องถือเป็นการเสียเครดิตความน่าเชื่อถือของฝ่ายค้านอย่างรุนแรงที่เอาเข้าจริงกลายเป็นปาหี่ให้คนดูครื้นเครงได้เฮแต่เรื่องจริงเป็นเช่นไรต้องฝากสื่ออีกเคสหนึ่ง

มาคดีจราจรกันบ้าง เรื่องแรกเกิดที่บางนามีภาพถ่ายคลิปชายขับรถกระบะคว้าแป๊บเหล็กทุบรถเบนซ์ ข่าวว่าผู้หญิงเป็นคนขับได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากเศษกระจกและคงตกใจด้วย เรื่องนี้มีภาพเป็นข่าวแล้วก็หายไปเฉยๆ เหมือนเรื่องมีผู้อ้างเป็นผู้บังคับใช้กฏหมายมีรถเสียกลางสะพาน ซึ่งเมื่อรถอื่นต้องหลบหลีกกะทันหันจึงเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน แต่ได้ชักปืนยิงสามสี่นัดบนสะพานไทยญี่ปุ่นใกล้จุฬาฯ แถมคว้าเอากล้องหน้ารถกู้ภัยไปด้วย เหตุอุกอาจลักษณะนี้ ควรที่ทุกฝ่ายต้องทำความจริงให้ปรากฏ ด้วยกฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนว่าหากเจ้าหน้าที่รัฐเป็นโจรหรือประพฤติตนชั่วช้าสามานย์เยี่ยงโจรต้องได้รับโทษสถานหนัก ประชาชนจะได้นอนตาหลับและยำเกรงเคารพกฎหมายไม่ต้องตัดสินกันเองเหมือนที่บางคดีลากปืนไปฆ่าแกงกันถึงในสถานที่ราชการอย่างไม่ใยดีกับกฎหมายบ้านเมือง