โอกาสของ "ไทย" ในการรับมือ การบุกเข้ามาของ "สินค้าจีน"
บอกได้เลยว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายที่เราจะไปแข่งขันราคากับสินค้าจีน
การลงทุนในธุรกิจอีคอมเมิร์ซจากจีนมีความน่ากังวลมากกว่าการลงทุนธุรกิจจากต่างประเทศแบบเดิม ๆ อย่างพวกญี่ปุ่นที่มักจะเข้ามาตั้งโรงงานผลิตต่าง ๆ ก็มักจะมีการสร้างงานให้กับคนไทยด้วย แต่การลงทุนอีคอมเมิร์ซของจีนหรือโดยเฉพาะลงไปในกระแสเรื่องของ EEC ที่อาลีบาบาเข้ามาลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน แม้ว่าเขาบอกว่าจะเอาสินค้าจากไทยกระจายออกไปสู่จีนให้ด้วย แต่มองกลับกันการลงทุนเป็นการใช้พื้นที่ของเรามากกว่า ไม่ได้มีการลงทุนแบบตั้งโรงงานหรือมาสร้างเครื่องจักรใด ๆ
ขณะเดียวกันก็เป็นการเอาสินค้าจากจีนเข้ามากองไว้ในพื้นที่ที่เป็น Free Trade Zone แล้วเอามาขายให้คนไทยและในอาเซียนต่ออีกที หากมองให้ลึกแล้วแม้ว่าจะเป็นการเข้ามาลงทุนแต่ก็เป็นคนละโมเดลกับของญี่ปุ่นที่ผ่านมาเลย
ในเรื่องของจำนวนสินค้าอีคอมเมิร์ซจากจีน ผมได้ลองเก็บข้อมูลในเว็บ Lazada ในวันที่ 11 ตุลาคม 2562 (ก่อนวัน 11.11) บอกได้เลยว่ามีจำนวนเยอะมาก แบ่งตามหมวดหมู่ โดยแยกเป็นสินค้าในประเทศและสินค้าจากจีน ปรากฏว่า จำนวนสินค้าใน Lazada ทั้งหมด 41,777,029 ล้านชิ้น มีสินค้าในประเทศไทย 21,994,514 ล้านชิ้น คิดเป็น 52.65% มีสินค้าจีน 18,652,606 ล้านชิ้น คิดเป็น 44.65% ซึ่งถือว่าเยอะมากและสินค้าจากประเทศอื่น ๆ ซึ่งมีไม่มาก
เมื่อดูในแต่ละหมวดหมู่แล้ว บางหมวดมีจำนวนสินค้าจีนจำนวนเยอะมาก เช่น รองเท้า นาฬิกา กระเป๋าเดินทาง อุปกรณ์กีฬา มีสินค้าจีนถึง 60-70% หรือสินค้าในกลุ่มเด็กอ่อน ของเล่น พวกสมาร์ทดีไวซ์ สินค้าพวกไอทีหรือแก็ดเจ็ททั้งหลายโดยเฉพาะใน Lazada เป็นสินค้าจากจีนเกิน 50% ฉะนั้นของที่เราซื้อ ๆ กันอยู่แน่นอนเป็นสินค้าจากจีนแทบทั้งนั้น
และยิ่งมี EEC ด้วยแล้ว จากที่เคยต้องรอสินค้าจากจีนเป็นเวลานาน ตอนนี้สินค้าจากจีนมีพื้นที่มาฝากไว้ในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ทำให้สินค้าจากจีนจะถูกส่งเข้ามาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และความกังวลของผมอย่างหนึ่งก็คือคนไทยที่เป็นผู้ที่ค้าขายสินค้าดังกล่าวอยู่ บอกได้เลยว่าโอกาสในการแข่งขันแทบจะมีน้อยมาก หากใครต้องการที่จะดูข้อมูลเหล่านี้สามารถไปดูที่เฟซบุ๊กของผมได้ ผมสรุปไว้ให้คร่าว ๆ แยกเป็นหมวดหมู่ไว้ให้แล้วครับ
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจลองดูว่าจากสินค้าที่เป็นค้าปลีก แบ่งหมวดหมู่ได้ 32 หมวดนั้น ธุรกิจของคุณได้รับผลกระทบจากสินค้าจีนเหล่านี้หรือไม่ ถูกสินค้าจีนบุกเข้ามามากขนาดไหน ถ้าสินค้าในหมวดหมู่ของคุณมีสินค้าจีนที่อยู่ใน Lazada เกิน 50% ลองเข้าไปดูว่าราคาของคุณนั้นแข่งกับเขาได้หรือไม่ บอกได้ว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายที่เราจะไปแข่งขันในเรื่องของราคากับจีน
มีบางคนบอกว่าอีกไม่เกิน 2 ปีอีคอมเมิร์ซไทยคงไม่เหลือ จริงอยู่ที่ว่าในส่วนของอีมาร์เก็ตเพลสตอนนี้ของไทยไม่เหลือแล้วเพราะคงไม่มีใครสู้ Lazada หรือ Shopee ได้ แต่ยังมีอีกเซกเมนต์หนึ่งที่ยังมีโอกาสอยู่ นั่นคือในฝั่งของโซเชียลคอมเมิร์ซ ซึ่งทั้งบรรดาพ่อค้า แม่ค้าที่ไลฟ์ขายของบนเฟซบุ๊ก บนไลน์ สินค้าบางตัวก็ยังมีโอกาสอยู่ หากเราเจาะเข้าไปในบางหมวดหมู่ เช่น อาหารเสริม สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าประเภทความงาม สินค้าจีนยังไม่ค่อยมีเข้ามามากเท่าไหร่ เพราะยังมีปัญหาในเรื่องของอย.อยู่
ดังนั้น ทั้งหมดนี้ ก็ไปสอดคล้องกับเรื่องที่ผมได้พูดคุยกับคณะอนุกรรมการด้านพาณิชย์ฯ ของทางรัฐสภา ซึ่งก็มีความเป็นห่วงในเรื่องนี้ ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำการสำรวจอยู่ว่าจะทำกันอย่างไร จะป้องกันอย่างไร ภาครัฐเองก็ดูอยู่และกฎหมายหลาย ๆ ตัวกำลังเริ่มจะออกมาแต่ก็ต้องรอดูก่อนว่าจะเป็นอย่างไร อย่างเช่น
กรมสรรพากรเองก็พยายามจะออกกฎหมายตัวหนึ่ง ที่ว่าต่อไปไม่ว่าสินค้าอะไรก็ตาม ที่นำเข้าส่งออกจะมีการเก็บภาษีหมด ไม่คิดแบบเดิมที่ต้องมีมูลค่าเกิน 1,500 บาทก่อนถึงจัดเก็บ ในแง่ประชาชนอาจต้องแบกรับภาระมากขึ้น แต่อาจจะเกิดผลดีในด้วยของความเท่าเทียมกันของธุรกิจ ไม่เช่นนั้น สินค้าจากต่างประเทศอาจมาฉกฉวยโอกาสตรงนี้ไปจากเราได้ทั้งหมด