เงินบาป9,900ล.

เงินบาป9,900ล.

ภายหลังจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษา “ยกฟ้อง” พานทองแท้ ชินวัตร

บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่มีความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินกู้ธนาคารกรุงไทย 9,900 ล้านบาท

ศาลให้เหตุผลในคำพิพากษา สรุปความว่า พยานหลักฐานโจทก์ ยังไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่า พานทองแท้ รู้ที่มาของเงิน 10 ล้านบาท ที่ วิชัย กฤษดาธานนท์ โอนเข้าบัญชี ได้มาจากการกระทำผิดทุจริตการปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย

ศาลให้เหตุผลด้วยว่า ขณะรับโอนเงิน 10 ล้าน พานทองแท้ อายุ 26 ปี ขณะนั้นมีเงินรายได้จากหุ้นในบริษัทอยู่แล้ว ถึง 4,000 ล้านบาท เมื่อเทียบเงิน 10 ล้านบาท คิดเป็น 0.0025 เปอร์เซ็นต์ จากยอดเงินดังกล่าว

กรณีเงิน 10 ล้านบาท ในทางสอบสวน เริ่มด้วยการตาม เงินบาป 9,900 ล้าน เมื่อกรุงไทย ปล่อยกู้โดยทุจริต ฉะนั้น ในทางกฎหมายฟอกเงิน เงินทุกบาททุกสตางค์ ที่มาจาก เงินบาป ย่อมถือว่า เป็นการร่วมกันฟอกเงิน

คนที่ตามเส้นทางเงิน 10 ล้านบาท นี้ คือ ปปง. ย่อมมีความน่าเชื่อมาก เพราะเมื่อไล่ย้อนเส้นทางเงินจากบัญชี พานทองแท้ กลับไปที่ 9,900 บ้านบาท มันผ่านบัญชี วิชัย เป็น วิชัย ที่ศาลฎีกานักการเมืองตัดสินจำคุก เพราะร่วมทุจริตปล่อยกู้

ดังนั้น ในคำตัดสิน “ไม่เป็นเอกฉันท์” คือมีผู้พิพากษา 1 คน ลงความเห็นว่า พานทองแท้” กระทำความผิดให้จำคุก 4 ปี

ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 บอกว่า ถ้าในองค์คณะผู้พิพากษา มีความเห็นแย้งกันให้ผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็น ผลร้ายแก่จำเลยมากยอม เห็นด้วยผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็น ผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า

ด้วยความเคารพ คดีนี้อัยการ ต้องอุทธรณ์ให้ศาลสูงชี้ขาดปมเงินบาป 9,900 ล้านนี้ อย่าชิงตัดตอนสั่งไม่ฟ้อง รีบปิดคดีเสียก่อน