ขี่ลิง-จับงูเห่า ยุทธการผ่านงบประมาณ!

คือการ เข็นร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ให้ผ่านสภาไปให้ได้ เพราะถ้าผลักดันไม่ผ่าน นายกรัฐมนตรีมีทางเลือกเพียง 2 ทางเท่านั้น คือ ลาออกหรือยุบสภา เพราะฉะนั้นเดิมพันครั้งนี้จึงสูง

การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท นับเป็นกฎหมายการเงินฉบับแรก ที่รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำชุดนี้ ผลักดันกฎหมายเข้าสภา ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามหลีกเลี่ยงเสนอกฎหมายโดยคณะรัฐมนตรีเพราะมีความเสี่ยงสูง ในการระดมเสียงปริ่มน้ำ ที่ฝ่ายค้านมีเสียง “จ่อคอหอย” รัฐบาล แต่ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ เป็นภาคบังคับที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องเสนอโดยคณะรัฐมนตรี

ขณะนี้ รัฐบาลมีเสียงอย่างเป็นทางการ 251 เสียง ลงมติไม่ได้ 2 เสียง คือ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ชวน หลีกภัย เพราะต้องทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ส่วนฝ่ายค้านมีเสียงที่ลงคะแนนได้ 247 คน ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ 1 คน คือ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ถูกพักการทำหน้าที่ และกำลังเลือกตั้งซ่อมในนครปฐมอีก 1 คน เสียงจึงใกล้กันมาก

ตัวแปรที่จะกำหนดการแพ้-ชนะต่อการโหวตครั้งนี้ จึงมีสองส่วน คือ พรรคเล็ก (พรรค 1 เสียง) ที่ร่วมรัฐบาลทั้ง 9 พรรค และ “งูเห่า” ที่ซ่อนตัวอยู่ในฝ่ายค้าน ที่การลงมติครั้งนี้ นอกจากจะต้องลุ้นผล “แพ้-ชนะ”แล้วยังต้องลุ้นว่า “ลิงในพรรคร่วมรัฐบาล” ยังเหนียวแน่นกับพลเอกประยุทธ์ หรือ “ปันใจ” ไปอยู่กับฝ่ายค้าน ขณะที่ฝ่ายค้านถ้าจะเอาชนะน็อกรัฐบาล ก็ต้องดึงพรรคเล็กไปโหวตให้ฝั่งตน สรุป “ลิงอิ่ม” เพราะได้กล้วยจากทั้งสองฝั่ง

ที่ฝ่ายค้านต้องป้องกันคือ “งูเห่า” ด้วยการลงมติกฎหมายไม่มีการขานชื่อ แค่กดบัตรลงคะแนน จึง “เช็คชื่อ” ไม่ได้ว่า ใครโหวตให้ฝั่งรัฐบาลบ้าง ก่อนหน้านี้มี ส.ส.เพื่อไทย บางราย ประกาศจะสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณของรัฐบาล และมีความพยายามของฝั่งพรรคพลังประชารัฐติดต่อ 11 ส.ส.เพื่อไทยให้สนับสนุนรัฐ 

ผลโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ในวันพรุ่งนี้ (18 ตุลาคม) คงมีคำตอบในสองเรื่องข้างต้น

และผลโหวตในวันพรุ่งนี้ จะเป็นสิ่งตัดสินว่า “ลุงตู่” จะต้อง “หยุด” หรือไปต่อ โหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณจึงเป็นปัจจัย “ชี้ชะตา” ที่ต้อง ลุ้นระทึก!