จับตา... สาธารณสุข

จับตา... สาธารณสุข

ถึงแม้ว่าไม่เคยเป็นบุคคลากรในกระทรวงสาธารณสุขในชีวิตนี้ แต่ก็ติดตามด้วยความสนใจว่าทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนผ่านผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง

ได้สร้างแรงกระเพื่อมต่อการบริหารจัดการกระทรวงสาธารณสุข และระบบสาธารณสุขอย่างไรหรือไม่

ถ้าจะพูดถึงงานสาธารณสุข ในแง่ความรู้เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ การรักษาพยาบาลผู้ป่วย การสร้างเสริมสุขภาพประชาชน ก็ต้องตอบตามความจริงว่า ไม่รู้อะไรเลย แต่ระบบสาธารณสุข เป็นระบบย่อยของสังคมที่เป็นระบบใหญ่ เช่นเดียวกับระบบการศึกษา การเปลี่ยนแปลงในระบบสาธารณสุขจึงสามารถส่งผลกระเพื่อมถึงระบบสังคมที่เป็นระบบใหญ่ ฉันใดก็ฉันนั้น การเปลี่ยนแปลงระบบทางสังคมก็ย่อมส่งผลถึงระบบสาธารณสุขอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในอดีต 100 ปีที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข ผ่านร้อนผ่านหนาวมาไม่น้อย มีลักษณะการบริหารจัดการในองค์กรแบบเมตตาปราณี แบบผู้ใหญ่เมตตาเด็ก แบบผู้อาวุโสมากเมตตาผู้อาวุโสน้อย เป็นผู้ใหญ่ที่ให้อภัยผู้น้อยที่ผิดพลาดหลงผิด และผู้น้อยก็ยอมรับนับถือผู้ใหญ่ ไม่ละลาบละล้วง ไม่ค้ำหัว ไม่โอหังสามหาว กับคนที่มาจากภายนอก การบริหารจัดการกระทรวงสาธารณสุข เป็นแบบม้าอารีมาโดยตลอด ไม่มีกลยุทธ์ ไม่มีการป้องกันกรณีเลวร้ายที่อาจเกิดขึ้น ไม่เคยวางแผนรับมือคนที่ประสงค์ร้าย ไม่เคยเห็นการวางแผนแบบที่มีหลายมุมมองมีหลาย scenario ไม่เคยมีแผนตั้งรับกรณี worst case, normal case, best case เปรียบเทียบให้เห็น มองคนนอกที่เข้ามาด้วยจิตใจซื่อบริสุทธิ์ และด้วยการบริหารจัดการแบบนี้ ก.สาธารณสุข จึงไม่มีกลยุทธ์ในการรับมืออะไร กับใคร ได้แต่ขอรับครับผมอย่างเดียว

กระทรวงสาธารณสุข เป็นฝ่ายตั้งรับมาโดยตลอด ใครจะมาแบ่งแยกอำนาจบริหารจัดการ ตั้งหน่วยงานใหม่ แยกหน่วยงาน แล้วก็เข้ามาปกครองคนกระทรวงที่เป็นระดับมันสมองของประเทศ ก็ไม่มีใครว่าอะไร รัฐมนตรีบางคนเข้ามากอบโกย ทุจริตคอรัปชั่น โกงกินเป็นจำนวนเงินหลายร้อยล้าน ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ติดคุกติดตาราง คนสาธารณสุขก็ไม่ได้ทำอะไร มีแต่คนนอกที่เข้ามาสืบหาจนพบการกระทำความผิด ส่งตัวให้ ปปช.จัดการรัฐมนตรีบางคนเข้ามาเปลี่ยนจากยาม้าที่ใช้กันเฉพาะพวกคนขับรถบรรทุก เป็นยาบ้า ที่ส่งผลให้เกิดธุรกิจด้านมืดมหาศาล คนกระทรวงสาธารณสุขก็ไม่มีปฏิกริยาอย่างใด คนกระทรวงสาธารณสุข ไม่ค่อยมีคนกล้า ทั้งๆ ที่เป็นถิ่นของคนเก่งสมองดีระดับประเทศมารวมกันนับพันนับหมื่นคน แต่ไม่มีใครเลยที่กล้าออกมาเป็นหัวหอกคัดค้านการกระทำที่ไม่ชอบของคนที่มาจากภายนอก มีแต่หมอบราบคาบแก้ว

รัฐมนตรีคนใหม่ของกระทรวงสาธารณสุข มีแนวทางที่ค่อนข้างแน่ชัดว่าจะผลักดันบางภาระกิจที่ยังไม่ชัดเจน ยังไม่เป็นที่รับรองทางการแพทย์อย่างแน่ชัด ให้เป็นกิจการใหญ่ของกระทรวง และอาจมีผลต่อโครงสร้างของระบบสาธารณสุขอย่างที่คิดไม่ถึง และแน่นอนว่า นี่จะเป็นกลยุทธ์ในการสร้างฐานทางการเมืองขนาดใหญ่ของนักการเมืองและพรรคการเมืองบางพรรค คนสาธารณสุขอาจไม่มองว่าเป็นเรื่องเลวร้าย เป็นเรื่องปกติ เป็นนโยบายของรัฐบาล แล้วก็ปล่อยผ่าน 

ไม่ได้มองคนนอกที่มาบริหารกระทรวงว่าจะเลวร้าย แต่ก็ต้องระมัดระวัง เตรียมพร้อม เตรียมกลยุทธ์ พร้อมๆ กับให้ความร่วมมือในเรื่องดีๆ สำหรับคนนอกอย่างเราคงไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าการจับตามองพฤติกรรม การกระทำ ว่าจะพูดอย่างทำอย่าง กับ กระทรวงสาธารณสุข อย่างไรหรือไม่ แล้วกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นเพียงม้าอารี เหมือนที่เคยเป็นหรือไม่

หวังว่าคนกระทรวงสาธารณสุข จะจับมือกันแน่น ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ