จาก “ดิ่น ท่าราบ” ถึง “พโยม จุลานนท์”

จาก “ดิ่น ท่าราบ”  ถึง “พโยม จุลานนท์”

ชื่อ “พระยาศรีสิทธิสงคราม” (ดิ่น ท่าราบ) ถูกค้นหาในกูเกิลมากขึ้นช่วงสองวันนี้ อันเนื่องมาจากมีพิธีเปิด “ห้องศรีสิทธิสงคราม” กับ “ห้องบวรเดช”

ภายในอาคารพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ ถนนราชดำเนิน

พระยาศรีสิทธิสงคราม นามเดิม “ดิ่น” เกิดที่ ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.เพชรบุรี เข้าเรียนที่โรงเรียนนายร้อยทหารบก และได้ทุนรัฐบาลไปเรียนวิชาทหารต่อที่โรงเรียนนายร้อยทหารบกเยอรมัน สำเร็จกลับมารับราชการทหาร

กล่าวกันว่า พระยาศรีสิทธิสงครามเป็นคนเก่ง จึงเจริญก้าวหน้าในการรับราชการทหาร ได้เป็นนายพันเอกของกองทัพ ตั้งแต่อายุ 37 ปี

เมื่อมีเหตุการณ์พระองค์เจ้าบวรเดช นำกำลังของทหารหัวเมือง เข้ามายึดดอนเมือง หมายล้มรัฐบาลฝ่ายคณะราษฎร รัฐบาลของพระยาพหลพลพยุหเสนา สั่งทหารปราบฝ่ายก่อการอย่างเด็ดขาด

กำลังทหารฝ่ายพระองค์เจ้าบวรเดชพ่ายแพ้ ส่วนพระยาศรีสิทธิสงคราม นายทหารที่เข้าร่วมกับฝ่ายพระองค์เจ้าบวรเดช ถูกยิงเสียชีวิตที่นครราชสีมา

พระยาศรีสิทธิสงคราม มีลูกเขยชื่อ พ.ท.พโยม จุลานนท์ เมื่อธิดาคนโตชื่อ อัมโภช ท่าราบ เข้าพิธีวิวาห์กับคนตำบลท่าราบเหมือนกัน ขณะที่ พ.ท.พโยม มียศร้อยตรี ทั้งคู่มีบุตรธิดาด้วยกัน 3 คนคือ อัมพร ทีขะระ (จุลานนท์), พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และนภาวดี ศิริภักดี (จุลานนท์)

พ.ท.พโยม จุลานนท์ ชาวเพชรบุรี เป็นบุตรของพระยาวิเศษสิงหนาถ (ยิ่ง จุลานนท์) เลือกตั้ง 29 ม.ค.2491 พ.ท.พโยมได้ลาออกจากราชการไปลงสมัคร ส.ส. และได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.เพชรบุรี

ปีเดียวกัน พ.ท.พโยมเข้าร่วมคณะนายทหารเสนาธิการ เตรียมการรัฐประหาร แต่แผนรั่ว จอมพล ป.พิบูลสงคราม จึงสั่งตำรวจเข้าจับกุมนายทหารเหล่านั้น

พ.ท.พโยมหนีรอด หลบเข้าชายแดนพม่า เดินเท้าเข้าสู่สิบสองปันนา และเข้าศึกษาในสถาบันมาร์กซ-เลนินที่กรุงปักกิ่ง พร้อมกับยื่นใบสมัครเข้าเป็นสมาชิก พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย” (พคท.)

ปี 2509 พ.ท.พโยม จัดตั้งองค์การไทยกู้ชาติ มีสำนักงานอยู่ในกรุงปักกิ่ง มีหน้าที่แสวงหาพันธมิตรเพื่อการปฏิวัติไทย

ปี 2518 คณะกรมการเมือง พคท. แต่งตั้ง สหายคำตันหรือ พ.ท.พโยม เป็น เสนาธิการกองทัพปลดแอกประชาชนตั้งกองบัญชาการอยู่ที่ภูพยัคฆ์ น่านเหนือ

ปี 2520 สหายคำตันรับภารกิจจัดตั้ง “กองพันพิเศษ” ที่ฝายน้ำตาล แขวงไชยะบุลี ลาว เตรียมการปลดปล่อย จ.น่าน

ปี 2521 พ.ท.พโยมหรือสหายคำตัน ประสบอุบัติเหตุตกจากหลังช้าง เข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในปักกิ่งอยู่ประมาณ 8 เดือน แต่อาการป่วยไม่ดีขึ้นเริ่มทรุดหนัก และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 ก.ย.2523

ครั้งที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี สื่อมวลชนสายทหารจึงเรียกขานท่านว่า “หลานกบฎบวรเดช” และ “ลูกคอมมิวนิสต์”

เรื่องราวของ ดิ่น ท่าราบ” ,สหายคำตัน และ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ น่าจะเป็นแบบเรียนประวัติศาสตร์การปรองดองและสมานฉันท์ของไทย