ฤา บอริส จอห์นสัน จะเสี่ยง ‘เล่นของสูง’ ?

ฤา บอริส จอห์นสัน จะเสี่ยง ‘เล่นของสูง’ ?

สัปดาห์ที่แล้ว ถือว่า บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ถือว่าเพลี้ยงพล้ำในการโหวตวาระต่างๆ ในสภาล่างของอังกฤษ ถึง 6 ครั้ง

กระนั้นก็ดี ในแวดวงการเมืองในอังกฤษ ถือว่าไม่ได้มีผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลมากนัก โดยส่วนใหญ่จะมองว่าเป็นความเห็นในประเด็นที่พิจารณาซึ่งฝ่ายค้านและรัฐบาลสามารถเห็นต่างกันได้ ยกเว้น จะเป็นวาระการโหวตไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ที่จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงใหญ่ทางการเมือง

คำถามของหลายท่านในตอนนี้ คือ เบรกซิท จะมีการยืดเวลาการตัดสินใจออกไปจากเส้นตายวันที่ 31 ต.ค.นี้ แน่นอนแล้วใช่ไหม? คำตอบคือ ยังไม่แน่ โดยโอกาสที่จะเป็นเช่นนั้น ถือว่ามีสูงกว่า ทว่าโอกาสที่จะจบลงในวันดังกล่าวก็มีอยู่ไม่น้อย ด้วยเหตุผลที่เกมจะพลิกจากทางแก้ 2 ทางของนายจอห์นสัน ดังนี้

ทางแรก คือวิธีการที่เป็น ทางออกแบบนิ่มนวล นั่นคือ นายจอห์นสันมีกำหนดการที่จะหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพยุโรปหรืออียูอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 16 ต.ค.นี้ หลังการเปิดประชุมสภาอังกฤษเพียง 2 วันเพื่อจะถกกันถึงข้อตกลงในประเด็นหลัก Irish Backstop ที่ผมได้เขียนลงในคอลัมน์นี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่จะถึงเส้นตายของวันที่ 19 ต.ค. ของสภาอังกฤษ ซึ่งโค้งสุดท้ายอีกกว่า 1 เดือนถัดจากนี้ ผมมองว่า นายจอห์นสัน อาจจะสามารถโน้มน้าวในประเด็นดังกล่าวกับทางไอร์แลนด์ได้สำเร็จ ส่วนหนึ่งเนื่องจากพรรค DUP ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของไอร์แลนด์เหนือ เริ่มมีเสียงที่อ่อนลงเล็กน้อยในประเด็นดังกล่าว เมื่อเทียบกับจุดยืนที่แข็งกว่านี้ในสมัยที่นางเทเรซ่า เมย์เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อช่วงต้นปีนี้ ซึ่งอาจจะทำให้สามารถพูดคุยตกลงกับอียูได้สำเร็จก่อนเส้นตายของสภาอังกฤษ

โดยทางออกนี้ ถึงแม้นายจอห์นสันอาจจะไม่สามารถโน้มน้าวให้ไอร์แลนด์ยอมเปิดพรมแดนได้แบบเบ็ดเสร็จ ขอเพียงแค่ให้ท่าทีของไอร์แลนด์ผ่อนปรนลง จากนั้นนายจอห์นสันก็นำไปเป็นข้อต่อรองกับอียูว่า จะขอใช้การเลือกตั้งใหญ่ในอังกฤษ เป็นตัวตัดสินอนาคตของอังกฤษต่ออียูเพื่อให้มีข้อยืดหยุ่นในเส้นตายวันที่ 31 ต.ค.นี้ ออกไปเป็นระยะเวลาภายในปีนี้

หากจะถามว่า เพราะเหตุใด นายจอห์นสัน จึงเร่งพยายามเร่งปิดเกมให้จบเร็ว โดยพยายามที่จะให้เกิดมีการเลือกตั้งใหญ่ ผ่านการเสนอเป็นวาระเพื่อโหวตในสภาอังกฤษ ส่วนหนึ่งสำหรับคำตอบของผมแสดงไว้ดังตาราง ดังนี้

ฤา บอริส จอห์นสัน จะเสี่ยง ‘เล่นของสูง’ ?

กรณีแรก หากการเลือกตั้งใหญ่ของอังกฤษเกิดก่อนวันที่ 31 ต.ค.นี้ หรือ ก่อนที่อังกฤษจะขยายเวลาเส้นตายเบรกซิท อย่างเป็นทางการนั้น พรรคอนุรักษ์นิยม (Tory) ของนายจอห์นสัน มีแนวโน้มทื่จะชนะสูง เนื่องจากเขาได้เปรียบที่เคยรณรงค์ทำให้ประชามติเบรกซิทในปี 2016 สามารถผ่านฉลุยมาแล้ว โดยเนื้อหาการรณรงค์ในครั้งนี้ก็มีตรรกะในการโน้มน้าวให้ประชาชนตัดสินใจเลือกพรรคอนุรักษ์นิยมคล้ายกัน โดยใช้ธีมในการรักชาติของอังกฤษและการเป็นเบี้ยล่างของอียู ด้วยความภูมิใจในความเป็นชาติที่เคยยิ่งใหญ่ของชาวอังกฤษ การคล้อยตามสามารถเกิดขึ้นได้ในวันต้องตัดสินใจกากากบาทเลือกตั้งในคูหา โดยนายจอห์นสันมีโอกาสทำสำเร็จได้อีกครั้งอย่างไม่น่าจะยากเย็นนัก

กรณีที่สอง หากการเลือกตั้งใหญ่เกิดขึ้นหลังวันที่ 31 ต.ค.นี้ โดยการขยายเวลาเส้นตายของ Article 50 ออกไป หากเป็นเช่นนี้ ถือว่าเข้าทางพรรค Brexit ภาพใต้การนำทัพของนายไนเจล ฟาราจ เนื่องจากเขาจะใช้การที่นายจอห์นสันไม่สามาถทำให้เบรกซิทเกิดขึ้นในเวลาที่กำหนดตามที่สัญญาไว้ และพรรคของเขาจะอาสานำพาอังกฤษออกจากยุโรปแบบที่เจ็บปวดน้อยที่สุด

กรณีที่สาม หากเกิดการทำประชามติรอบที่สอง ก่อนวันที่ 31 ต.ค.นี้ กรณีนี้แม้จะถือว่าโอกาสไม่สูงมาก ทว่าอาจจะเกิดขึ้นด้วยเงื่อนไขที่ทางเลือกอื่นๆไม่สามารถทำได้ หากออกมาเป็นแบบนี้ ทั้งพรรคอนุรักษ์นิยมและพรรคแรงงานมีโอกาสไม่ต่างกันเท่าไหร่ในการเอาชนะการเลือกตั้ง แม้นายจอห์นสันจะดูเหนือกว่านายเจอโรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคแรงงาน ในแง่ลีลาและโวหารการหาเสียงอยู่เล็กน้อยก็ตาม

และในกรณีสุดท้าย หากเกิดการทำประชามติรอบที่สอง หลังวันที่ 31 ต.ค.นี้ โดยการขยายเวลาเส้นตายของ Article 50 หากออกมาแบบนี้ พรรคแรงงานมีโอกาสสูงที่จะชนะด้วยกลยุทธ์การรณรงค์แบบที่ใช้ข้อดีของการอยู่ร่วมกับยุโรป จากการที่เหมือนล้างไพ่ใหม่ในการทำประชามติ โดยจะอ้างว่าเมื่อผลการทำประชามติในปี 2016 หากว่าถ้าดีแล้ว จะต้องทำใหม่ด้วยเหตุผลใด

หรือหากว่าแผนการณ์ดังกล่าวไม่สำเร็จก่อนวันที่ 19 ต.ค.นี้ ก็จะเกิดทางที่สองขึ้นทันที สำหรับ บอริส จอห์นสัน นั่นคือวิธีการที่เป็น ‘ทางออกแบบหักดิบ โดยนายจอห์นสัน อาจจะเสี่ยงแหวกมติตามบรรทัดฐานของกฎหมายการยืดเวลาเส้นตายเบรกซิท หากยังตกลงกันไม่ได้ภายในวันที่ 19 ต.ค.นี้ ด้วยความเป็นไปได้ที่จะเสนอให้หน่วยงานยุติธรรมระดับสูง ช่วยตีความกฎหมายนี้ว่าจะขัดกับเจตนารมย์ของ Article 50 หรือไม่ จากนั้น ก็ตัดสินใจนำอังกฤษออกจากยุโรปในวันที่ 31 ต.ค.นี้ ด้วยข้ออ้างที่ว่ากฎหมายการยืดเวลาเบรกซิทที่เพิ่งผ่านออกมานั้น น่าจะขัดกับเจตนารมย์เดิมและกำลังอยู่ระหว่างการตีความจากหน่วยงานยุติธรรม

โดยจะขอให้ประชาชนเป็นเสียงสวรรค์สำหรับการตัดสินใจครั้งสุดท้ายของประเทศอังกฤษ ในการนำตนเองออกจากยุโรป ด้วยการจัดการเลือกตั้งใหญ่ในทันที

ด้วยการเลือกตั้งแบบที่ทันควันและมีอารมณ์ความรักชาติอยู่ในตัวเอง ถือว่าเข้าทางการรณรงค์หาเสียงของนายจอห์นสันได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ โอกาสที่จะคว้าชัยดูแล้วถือว่าสดใสอยู่

นี่คือรายละเอียดความเป็นไปได้ทั้งหมดของเบรกซิทในอีก 7 สัปดาห์ข้างหน้า ที่กำลังเกิดขึ้นและจะกลายเป็นบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่อังกฤษสามารถเอาชนะเยอรมันแบบลุ้นสุดๆ ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายใต้การนำของเซอร์ วินสตัน เชอร์ชิลครับ