พลังประชารัฐ กำลังกลายเป็นพรรคทหารเต็มตัว!

พลังประชารัฐ กำลังกลายเป็นพรรคทหารเต็มตัว!

ในที่สุด "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้อยู่เบื้องหลังทั้งพลังขับเคลื่อนการเลือกตั้งส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ

ได้ก้าวมายืนข้างหน้า ด้วยการเข้ามาเป็น ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค อย่างเต็มตัว

แม้ในทางกฎหมาย ตำแหน่งประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค จะไม่มีผลในโครงสร้างกรรมการบริหารพรรค ตามความหมายของ กกต. แต่การก้าวขึ้นมาครั้งนี้ เพื่อเตรียมการคุมบังเหียนพรรค ที่จะตามมาด้วยการเปิดหน้าของ บิ๊กตู่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ปล่อยข่าวกันหนาหูในพรรคพลังประชารัฐว่า จะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ของพลังประชารัฐ แทน อุตตม สาวนายน ในการเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่ ที่จะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้ 

และอาจจะมีการจัดทัพใหม่ในการบริหารพรรค โดยจะเลือกระหว่าง ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ หรือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สองรัฐมนตรีในสายบิ๊กป้อม ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค แทนสนธิรัตน์ สนธิจิระวงศ์

จะเรียกหรือให้เหตุผลว่าเพื่อ “ความเป็นเอกภาพ”ในการบริหาร และป้องกันความแตกแยก จึงต้องให้ สองพี่น้องแห่งบูรพาพยัคฆ์” เข้ามาเป็นศูนย์กลางพรรค หรือให้เหตุผลอื่นใดก็แล้วแต่ ทันทีที่ทั้งสองลุง ลุงป้อม-ลุงตู่บริหารพรรค ย่อมมี เสธ.” ต่าง ๆ เดินว่อนในพรรคนี้ และระบบบริหารจัดการในพรรค จะเปลี่ยนไป ตามมาด้วยภาพลักษณ์ ที่ง่ายต่อการ ระบายสีว่านี่คือพรรคทหาร

ก่อนหน้านี้ พรรคคู่แข่งและคนในและนอกการเมือง ต่างพยายามระบายสีอยู่แล้วว่า พรรคนี้คือพรรคทหาร ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นกลไกในการสืบทอดอำนาจ แต่เมื่อ “สองบิ๊กยังไม่เคยแสดงตัวตน จึง “จุดไม่ติด” วันนี้เมื่อออกมาแสดงตนในแถวหน้า การระบายสีจะง่ายขึ้น

พรรคฝ่ายค้านทั้ง 7 คงจะยินดีปรีดา ต้อนรับการปรากฏตัวยืนแถวหน้า ของทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ที่มาขับเคลื่อนพรรคพลังประชารัฐ เพราะง่ายต่อการสร้างความเข้าใจต่อสังคมประชาธิปไตยว่า นี่คือพรรคอันเป็นกลไกในการสืบทอดอำนาจโดยแท้

เสธ.คนไหน นักการเมืองคนใดหนอ ที่ช่วยคิดให้ นายมาติดบ่วง! จะได้คุ้มเสียกับการก้าวมายืนแถวหน้าหรือไม่ คิดเอาเองก็แล้วกัน