ถ้าไม่ต่ออายุกองทุน LTF จะเป็นอย่างไร

ถ้าไม่ต่ออายุกองทุน LTF จะเป็นอย่างไร

หลายๆท่านคงได้ยินข่าว เรื่องที่จะมีการยกเลิกการต่ออายุ LTF กันไปบ้างแล้ว

หลายท่านอาจมีคำถามในใจแล้วว่า อย่างนี้จะลงทุนตัวไหนเพื่อใช้ลดหย่อนภาษีดี วันนี้ผมมีผู้เชี่ยวชาญในด้านการวางแผนการลงทุนของบริษัท Wealth Creation International Co., Ltd. คุณธีรพัฒน์ มีอำพล CFP® จะมาเล่ารายละเอียดให้ทุกท่านได้ลองอ่านดูครับ

“เป็นประเด็นมาตั้งแต่ต้นปี ว่า “ปีนี้ควรซื้อกองทุน LTF ไหม ?”  ก่อนอื่นผมขอกล่าวสั้นๆ  ให้ทุกท่านได้เข้าใจก่อนว่า LTF คืออะไร  LTF คือ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund) เป็นกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งผู้ลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดาจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เพื่อนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยในปี 2562 จะเป็นปีสุดท้ายของการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับผู้ซื้อกองทุน LTF หากรัฐบาลไม่ต่ออายุออกไปอีก หลังจากเมื่อปี 2559 ได้มีการ “ต่ออายุ” มาแล้วครั้งหนึ่ง โดยเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการถือครองให้ยาวขึ้น จาก 5 ปีปฎิทิน เป็น 7 ปีปฎิทิน

 การที่รัฐบาล “ไม่ต่ออายุออกไป” อีก คือการที่ไม่ต่ออายุการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับผู้ซื้อกองทุน LTF ต่างหาก ไม่ใช่ว่าไม่ต่ออายุกองทุน แล้วหลังจากปีนี้จะยุบกองทุน LTF แต่กองทุน LTF ก็ยังคงมีอยู่อีกอย่างน้อย 7 ปีปฎิทิน เพราะผู้ที่ซื้อในปี 2562 ก็ยังคงต้องถือครองให้ครบตามเงื่อนไขทางภาษี เพียงแต่หลังจาก 7 ปี กองทุน LTF ก็อาจจะแปรสภาพกลายเป็นกองทุนรวมทั่วไปแทน  แต่สิ่งที่ผู้ลงทุนหลายคนทั้งผู้ที่จะลงทุนในปีนี้ และผู้ที่มีเงินลงทุนในกองทุน LTF อยู่แล้ว มีความกังวล คือ หากรัฐบาลไม่มีการต่ออายุการให้สิทธิลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา สำหรับการลงทุนในกองทุน LTF ออกไปอีก จะทำให้ปีต่อๆไป ไม่มีผู้ลงทุน หรือเม็ดเงินใหม่ๆเข้ามาในกองทุน LTF อีก และผู้ที่ลงทุนครบตามเงื่อนไขการถือครองจะพากันทยอยขายเงินลงทุนออกเรื่อยๆ จะทำให้ราคา NAV ของกองทุนลดลงเรื่อยๆ

 ต้องอธิบายก่อนว่า ราคา NAV คือราคาของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวมของกองทุนหารด้วยจำนวนหน่วย กำหนดเป็นราคา NAV ต่อหน่วย (Net Asset Value) เกิดจากการคำนวณมูลค่าสินทรัพย์ หรือตราสารแต่ละตัว ที่กองทุนถือครองอยู่ในขณะนั้น ในแต่วันตามราคาตลาด ราคา NAV ใช้เป็นเพียงตัวเลขสำหรับอ้างอิง ในการคำนวณจำนวนหน่วยลงทุนที่ได้รับในการซื้อขายเท่านั้น

 ดังนั้นการที่รัฐบาลไม่ต่ออายุ ปีต่อๆไปก็จะไม่มีผู้ซื้อกองทุน LTF เพิ่ม ทำให้ไม่มีเงินใหม่เข้ามาลงทุนในกองทุน LTF กลับกันมีแต่คนทยอยขายกอง LTF ออกไปย่อมทำให้ขนาดกองทุนนั้นเล็กลง แต่ไม่ใช่ทำให้มูลค่าสินทรัพย์ต่อหน่วย (NAV) ลดลง

 ราคา NAV ของกองทุน LTF ขึ้นอยู่กับตลาดหุ้นไทย ความสามารถและกลยุทธ์การลงทุนของผู้จัดการกองทุนไม่เกี่ยวกับขนาดกองทุน และ NAV กองทุนรวมจะไม่เหมือนกับราคาของหุ้นที่สามารถเพิ่มขึ้นลดลงจากปริมาณความต้องการซื้อขาย

 ดังนั้น ถ้าเป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนเหมือนๆกัน แม้จะคนละประเภทกันคือ LTF RMF หรือกองทุนรวมทั่วไป เมื่อราคาสินทรัพย์ที่กองทุนถือครอง ยกตัวอย่างหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลง NAV ของกองทุนก็จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน

คำถามต่อมา ถ้าถือครองครบเงื่อนไขแล้วไม่ขายออก แล้วถ้าถือต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น?

กรณีกองทุนมีขนาดเล็กลงมากจนเข้าเกณฑ์ของทาง ก.ล.ต. หรือทาง บลจ. ประเมินว่าค่าใช้จ่ายจากกองทุนสูงเกินไปอาจเสนอให้รวมกับกองทุนที่มีนโยบายลงทุนคล้ายกัน แต่สำหรับผู้ที่ซื้อกองทุน LTF มาในปีก่อนหน้า และยังไม่ครบกำหนดก็ต้องถือครองให้ครบตามเงื่อนไข ซื้อปี 2562 ก็ยังคงต้องถือครอง 7 ปีปฎิทิน ไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่ต่ออายุออกไป แล้วจะถือโอกาสขายได้เลยนะครับ ทั้งนี้จะมีการต่ออายุการลดหย่อนภาษีจากการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) หรือไม่นั้น หรือรูปแบบกองทุนลดหย่อนภาษีใหม่จะเป็นแบบไหนนั้น ผมแนะนำว่าอยากให้รอประกาศอย่างเป็นทางการก่อน เพราะทุกวันนี้เป็นเพียงข้อเสนอเข้าไปยังรัฐบาลเท่านั้น ยังไม่ได้มีอนุมัตเรื่องลงมาแต่อย่างใดครับ”