รอยร้าวเพื่อไทย

รอยร้าวเพื่อไทย

หลังเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 พรรคเพื่อไทย ออกตัวแรง ชิงการนำจัดตั้งรัฐบาล

ทั้งอ้างความชอบธรรมในฐานะที่กวาด ส.ส.แบบแบ่งเขตได้มากที่สุด 136 เสียง ใน 350 เสียง

เพื่อไทย ชิงจับมือกับพรรคแนวรวม 7 พรรค แต่ยังกั๊กว่าจะเสนอชื่อใครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

กระทั่ง 5 มิ.ย. ฟากฝั่งเพื่อไทยไม่เสนอชื่อแคนดิเดตพรรคตัวเอง โดยให้ น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส. เชียงใหม่ พรรคอนาคตใหม่ เสนอชื่อ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรค เป็นนายกฯ

พรรคเพื่อไทย ที่กวาด ส.ส.อันดับ 1 ไม่ส่งคนชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

พอจะเข้าใจได้ว่า ทั้ง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และชัยเกษม นิติสิริ สอบตก

ชูศักดิ์ ศิรินิล” ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยอมรับว่า ไม่ว่าแคนดิเดตจะเป็นใครก็ตามจากซีกนี้เสนอชื่อไปก็ไม่ประสบความสำเร็จในการได้เป็นนายกฯ ไม่ทำให้พลิกผันกลับมาเป็นนายกฯ ได้ พรรคเพื่อไทย จึงเห็นว่าการรวมเสียง 246 เสียงเอาไว้ เป็นแนวร่วมที่มีความสำคัญของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

เพื่อไทย ยกธงขาวเพราะรวมเสียงส.ส.ในสภา ได้ไม่เกินกึ่งหนึ่ง จึงผลัก “ธนาธร” เข้าสู้

แต่ที่ผลักคนอื่นสู้แทนไม่ได้ คือตำแหน่ง ผู้นำฝ่ายค้าน” จะต้องเป็นส.ส.และหัวหน้าพรรค ที่มีเสียงข้างมากที่ไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ เป็นส.ส.สอบตก ต้องตั้งหน้าหน้าพรรคที่เป็นส.ส. มาทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้าน

นี่แหละที่ทำให้เห็นรอยร้าวในพรรคเพื่อไทย

คุณหญิงสุดารัตน์ ต้องการผลักดัน อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” ส.ส.กทม.

ขณะที่เจ๊ ด” ต้องการผลักดัน สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ส.ส.เชียงใหม่ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อธรรม

นี่คือการวัดบารมี “2 เจ๊ คือ คุณหญิงสุดารัตน์ และ “เจ๊ ด.”

ถึงกระนั้นมีข่าว ว่าหลังจาก “คุณหญิงหน่อย” กลับมาจากไปหาคนแดนไกล ที่ต่างประเทศ

คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เคยผลักดัน “อนุดิษฐ์” เป็นหัวหน้าพรรค เพื่อทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้าน

ท่าทีของคุณหญิงสุดารัตน์ ทำให้เกิดกระแสว่า “คนแดนไกล” ไม่ปลื้ม ที่พรรคเพื่อไทยจะให้ “อนุดิษฐ์” เป็นหัวหน้าพรรค

รอยร้าวในพรรคเพื่อไทย นี้นับวันแต่จะเป็น “น้ำแยกสาย ไผ่แยกกอ” ไปทุกวันๆ

รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โชคร้าย ที่มีเสียงปริ่มน้ำ

แต่ก็ยังโชคดีที่มีพรรคฝ่ายค้าน อ่อนแอ