รักน้อยๆ แต่รักนานๆ

รักน้อยๆ แต่รักนานๆ

ท่านผู้อ่านแฟนคอลัมน์อายุพ้น 45 ปี หรือ 50 ปี หากมีบุตรหลานเป็นเยาวชนในช่วงวัย 25 ปีขึ้นไป คงอาจได้เห็นบุคลิกนิสัยใจคอที่แท้จริง

คงอาจได้เห็นบุคลิกนิสัยใจคอที่แท้จริงของบุตรหลานพอสมควร อาจกล่าวได้ว่าเยาวชน สมัยปัจจุบันค่อนข้างแตกต่างจากเมื่อสมัยอดีต ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดประการหนึ่ง ได้แก่ เมื่อเยาวชนบุตรหลานเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ พบว่ามีความเป็นตัวเองที่มากขึ้น มีความคิดความอ่านที่ดีรักความก้าวหน้ามากขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากหลากหลายสาเหตุ ทั้งการเลี้ยงดูของผู้ปกครองในวัยเยาว์ การศึกษาการสั่งสอนอบรมสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็กเยาวชน อนึ่ง เยาวชนส่วนใหญ่ในปัจจุบัน นอกจากมีความคิดความอ่านก้าวหน้าที่ดีมีเหตุมีผลแล้ว ยังพบว่าเยาวชนอีกจำนวนไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จในวิชาชีพ หรือสาขาอาชีพที่ตนถนัด ชำนาญ มีความรับผิดชอบ สามารถสร้างชื่อสร้างเสียงให้แก่ประเทศชาติในอีกทางหนึ่งด้วย

 ยกตัวอย่างเช่น น้องรัชนก นักแบดมินตันทีมชาติไทย มือวางอันดับต้นๆ ของโลก รวมถึงน้องเมย์ หรือโปรเมย์ นักกอล์ฟเยาวชนชื่อดัง มือ 1 ของโลก เป็นต้น แต่กลับพบว่าเยาวชนอีกส่วน ซึ่งส่วนใหญ่ เมื่อสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษา เมื่อเข้าปฏิบัติงาน หรือทำงานเลี้ยงชีพตนเองได้แล้ว มักขาดความอดทน ไม่ชอบรับแรงกดดันจากการทำงาน ฯลฯ เป็นต้น หากมีทางเลือกอาชีพอื่นที่ดีกว่า เยาวชนเหล่านั้น ก็โบกมือ อำลาองค์กรเดิมทันที 

โดย...

พิสิฐ ชูประสิทธิ์

นายกสมาคมนักบริหารอาคารชุด – หมู่บ้านจัดสรรไทย และ

“ที่ปรึกษา” ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำ

[email protected] 

อย่างไรก็ดี เยาวชนที่สำเร็จการศึกษาคุณวุฒิระดับปริญญาตรี ส่วนใหญ่ไม่เลือกที่จะทำงาน หรือปฏิบัติงานกับองค์กร ร้านค้าบริษัทจำกัดประเภทธุรกิจการให้บริการ โดยเฉพาะธุรกิจการให้บริการอสังหาริมทรัพย์ประเภทการบริหารทรัพย์สิน (Property Management) ในขณะที่ทั้งโครงการอาคารชุด อาคารสูง ประเภทอื่นๆ ทั้งอาคารสำนักงาน โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ หรืออพาร์ทเม้นท์ หอพัก มีจำนวนมากราวกับดอกเห็ดในปัจจุบัน มีงานบริการหลายสาขาอาชีพ รองรับ สร้างเงิน สร้างรายได้ มีโอกาสความก้าวหน้า อาจมีมากกว่าอาชีพอื่น แต่เยาวชนส่วนใหญ่ดังกล่าวกลับปฏิเสธ มองว่าอาชีพอื่น ซึ่งมิใช่อาชีพบริการดีกว่าอาชีพบริการ หรือไม่ประสงค์ทำงานโดยรับแรงกดดันมากกว่าอาชีพอื่น เหตุเพราะมีทางเลือกอื่นอาชีพอื่นที่ดีกว่า 

ข้อแตกต่างดังกล่าวข้างต้น อาจสามารถยกกรณีศึกษาเปรียบเทียบ กรณีสมาคมนักบริหารอาคารชุด - หมู่บ้านจัดสรรไทย ร่วมกับองค์กรธุรกิจเอกชน “บีจีเอ กรุ๊ป” หรือสถาบันการศึกษาอื่น จัดอบรมหลักสูตรการบริหารทรัพย์สิน ประเภทอาคารชุด คอนโดมิเนียม และหมู่บ้านจัดสรร ปีละ 1-2 ครั้ง 

พบว่าในการเปิดรับสมัครบุคลากรเข้ารับการอบรมหลักสูตรดังกล่าวในแต่ละรุ่น ซึ่งเป็นเยาวชน อายุระหว่าง 20 - 30 ปี จำนวน 80- 100 คน เมื่อสำเร็จหลักสูตร สอบผ่าน รับวุฒิบัตร จากสมาคมฯ พบว่า มีเยาวชนเข้าร่วมงานในสังกัดบริษัทฯ หรือผู้ประกอบธุรกิจ เจ้าของโครงการ นิติบุคคลอาคารชุด - หมู่บ้านจัดสรร จำนวนไม่เกิน 20% หรือ 20 ราย จาก 100 ราย เยาวชนผู้เข้ารับการอบรมให้เหตุผล ไม่ประสงค์เข้าสู่อาชีพบริการด้านการบริหารทรัพย์สิน การให้บริการ เป็นเพราะไม่ใช่นิสัยตัวตน ที่แท้จริง อีกทั้งไม่ประสงค์รับแรงกดดันจากการทำงานในลักษณะ หรือธุรกิจดังกล่าว อาจอาศัยวุฒิบัตร ที่ได้รับ สร้างเครดิตให้แก่ตน หรือการสมัครเข้าทำงานกับองค์กรเอกชนอื่น 

ปัจจุบัน บุคลากรด้านการบริหารทรัพย์สิน การให้บริการที่เป็นมืออาชีพ มีประสบการณ์ จึงหาได้น้อย หาได้ยากมากขึ้นโดยลำดับ ภาระจึงตกหนักแก่ผู้ประกอบธุรกิจ เจ้าของโครงการ นิติบุคคลอาคารชุด - หมู่บ้านจัดสรร จะทำอย่างไรให้เยาวชนรุ่นหลัง หรือรุ่นต่อๆ ไป เห็นความสำคัญต่ออาชีพการบริหารทรัพย์สิน การให้บริการ อีกทั้งมีบุคลากรที่ดี มีคุณภาพ รองรับธุรกิจของผู้ประกอบการ เจ้าของโครงการ นิติบุคคลอาคารชุด - หมู่บ้านจัดสรรอย่างเพียงพอแทนการอาศัยการซื้อตัวด้วยค่าจ้างแสนแพง เพื่อดึงบุคลากรที่เก่ง มีคุณภาพ มีประสบการณ์เข้าทำงานให้แก่องค์กรของตน 

เห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องใหญ่ และสำคัญยิ่ง ผู้เขียน มิอาจกล้าหาญ แสดงความคิดเห็น เสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว คงต้องอาศัยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องร่วมกับองค์กรภาคเอกชน พิจารณาหาทางออก ทางแก้ไขปัญหาข้างต้นร่วมกัน จะเหมาะสมกว่า ในขณะที่ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่เออีซี (AEC) ร่วมกับประเทศอื่นในอาเซียนภูมิภาคเดียวกันแล้ว อาจเกิดผลกระทบต่อบุคลากรด้านบริหารทรัพย์สินสัญชาติไทยได้ในที่สุด 

อย่างไรก็ดี อาจมี “ตัวอย่าง” บุคลากรด้านการบริหารทรัพย์สิน หลายท่านที่สังคมยอมรับ จำนวนมาก สามารถนำเป็นแบบอย่าง หรือตัวอย่างที่ดีแก่การศึกษาได้ แต่กว่าบุคลากรดังกล่าว จะประสบความสำเร็จในสาขาวิชาชีพดังกล่าวได้ เห็นว่าบุคคลท่านนั้นๆ ย่อมต้องมีคุณสมบัติ (Qualifications) อย่างน้อย ดังต่อไปนี้

1.รักอาชีพการให้บริการ มากกว่าการเลือกอาชีพอื่น

2.มีความอดทน อดกลั้น เก็บความรู้สึกได้เป็นอย่างดี

3.มีภาวะทางอารมณ์ที่ดี มีความยิ้มแย้ม แจ่มใสตลอดเวลา 

4.ทำงานภายใต้แรงกดดันได้เป็นอย่างดี มีทักษะการเป็นผู้นำ และ

5.รู้จักมองวิกฤติให้เป็นโอกาส รักการเรียนรู้ หมั่นเพิ่มทักษะให้แก่ตน และองค์กรอย่าง ต่อเนื่อง 

จริงอยู่ คุณสมบัติเบื้องต้นทั้ง 5 ประการข้างต้น อาจหาได้ไม่ยาก หรือไม่ง่าย ก็ตาม แต่เมื่อองค์กร มีบุคลากร ซึ่งมีคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้นครบถ้วน เสนอแนะให้ผู้ประกอบธุรกิจ เจ้าของโครงการ นิติบุคคลอาคารชุด - หมู่บ้านจัดสรร เก็บรักษา ดูแลบุคลากรให้ดี ทั้งนี้ เพื่อให้บุคลากร (ที่ดี) อยู่กับท่าน และองค์กรของท่าน อย่างยืนยาว ..... รัก (บุคลากร) น้อยๆ แต่รักนานๆ