เวเนซุเอลา มาดูโร

เวเนซุเอลา มาดูโร

ความเจริญรุ่งเรืองขึ้นกับคน ไม่ได้อยู่ที่วัตถุสิ่งของ หลักการนี้เป็นจริงเสมอ การขาดทรัพยากรไม่ได้ทำให้ประเทศลำบากยากจน

สิงค์โปร์อิสราเอลคือตัวอย่างที่ดี การมีทรัพยากรมหาศาลก็ไม่ใช่หลักประกันความมั่งคั่งร่ำรวย เวเนซุเอลาคือกรณีศึกษาล่าสุด

เวเนฯมีน้ำมันสำรองมากที่สุดและส่งออกเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก แต่น้ำมันกลับเป็นเหมือนคำสาปจากสวรรค์มากกว่าคำอวยพร หลังจากพบแหล่งน้ำมันช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มันกลายเป็นแหล่งรายได้หลักแทนสินค้าเกษตร แต่เพราะถูกปกครองโดยเผด็จการทหารตั้งแต่ประกาศอิสรภาพจากสเปนปี 1811 จนถึงปี 1958 เมื่อเศรษฐกิจเติบโตมากจากน้ำมัน คอร์รัปชั่นที่ฝังลึกมานานย่อมเติบใหญ่ไปด้วย

สิ่งที่ตามมาคือภาครัฐใหญ่กว่าเอกชนจนฮุบกลืนเศรษฐกิจส่วนใหญ่เอาไว้ ที่แย่สุดคือการพึ่งพาน้ำมันเป็นรายได้หลักเพียงหนึ่งเดียว  ทศวรรษ 1970 เกิดวิกฤติน้ำมันทั่วโลก ราคาพุ่งสูงมาก ภาครัฐแม้มีรายได้มาก แต่ก็ยิ่งใช้จ่ายและกู้หนี้มากมาย ทศวรรษต่อมาราคาน้ำมันลดลง เศรษฐกิจจึงพังพินาศ ประชาชนทนทุกข์และสิ้นหวังกับการเมือง เมื่อฮูโก ชาเวซเสนอนโยบายประชานิยมสุดขั้ว จึงชนะเลือกตั้งและเป็นประธานาธิบดี 2 กุมภาพันธ์ 1999

ชาเวซเป็นคนดวงดี ช่วงที่ครองอำนาจ ราคาน้ำมันเป็นขาขึ้น รัฐบาลมีเงินมหาศาลมาใช้จ่าย เขาจึงอยู่ในอำนาจได้นานถึง 14 ปี แต่เงินที่ได้มาง่ายย่อมบดบังสติปัญญาและวิสัยทัศน์ที่ยาวไกล  ชาเวซไม่ได้ปฏิรูปโครงสร้างรายได้กว่า 90 % ของประเทศที่พึ่งพาน้ำมัน เมื่อวัฏจักรราคากลับเป็นขาลง เวเนฯตกสู่วิกฤติอีกครั้ง ซ้ำยังหนักหนาสาหัสกว่าเดิมมากเพราะผลของประชานิยม โชคดีที่เขาเสียชีวิตไปก่อนเมื่อ 5 มีนาคม 2013 จึงไม่ได้เห็นมันกับตา

นิโคลัส มาดูโรคือทายาททางการเมืองของชาเวซ ทั้งคู่ลัคน์เมถุนเหมือนกัน เมถุนเป็นราศีของนักขาย พวกเขาหัวไว รู้ว่าต้องนำเสนอ (หรือหยิบยื่น) อะไรเพื่อให้ผู้คนตอบสนองความต้องการของตน ชาวเมถุนโฟกัสที่รายละเอียด ไม่สนใจภาพใหญ่ พลิ้วและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่ง แต่ด้อยเรื่องมองการณ์ไกล (อ่านดวงชาเวซและมาดูโรใน “เวเนซุเอลา” เมื่อ 21/09/2018 ที่ http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/645574)

เวเนซุเอลา มาดูโร

ชาเวซเลือกประชานิยมเป็นหนทางไปสู่อำนาจ มาดูโรก็ไม่เห็นทางอื่นที่ดีกว่า แต่ปัญหาของมาดูโรใหญ่กว่าเยอะ เขาไม่กล้าลดรายจ่าย ซ้ำยังพิมพ์เงินเพิ่ม ทำให้เกิดเงินเฟ้อสูงมาก วิกฤติยิ่งรุนแรง เมื่อไร้ทางแก้ มาดูโรเอาตัวรอดด้วยการดึงทหาร ศาล และสภามาเป็นพวก ปี 2017 มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามด้วยเลือกตั้งประธานาธิบดี (ล่วงหน้า) 20 พฤษภาคม 2018 เขาชนะและสาบานตนรับตำแหน่งสมัยที่ 2 เมื่อ 10 มกราคม 2019 เวลา 12:04 น.

อเมริกาและพรรคพวกไม่ยอมรับการเลือกตั้งครั้งนี้ ขณะที่ฝ่ายจีนรัสเซียยอมรับ เกิดการประท้วงวุ่นวายไปทั่ว จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อฮวน ไกวโด-ประธานสภาล่างซึ่งสาบานตน 5 มกราคม ได้ประกาศตัวเป็นประธานาธิบดี (รักษาการ) และสาบานตนต่อหน้าฝูงชนวันที่ 23 มกราคม เวลา 13:50 น. อเมริกาประกาศรับรองทันที ทั้งเรียกร้องมาดูโรลาออกและเลือกตั้งใหม่ เขาปฏิเสธ อเมริกาจึงคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนฯ และประกาศพร้อมใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้การเปลี่ยนถ่ายอำนาจเกิดขึ้น

ไกวโดอายุแค่ 35 เพิ่งเป็นสส.ได้ 3 ปี มีคนรู้จักน้อยมาก ทำไมเขากล้าขนาดนี้ มันต้องมีเบื้องหลังแน่ ไกวโดแต่งตั้งตัวเองเพื่อล้มประธานาธิบดีตัวจริงที่มาจากการเลือกตั้ง ประเทศประชาธิปไตยอย่างอเมริกายอมรับได้อย่างไร ? นี่ไม่ต่างจากกบฏเลย มาดูโรที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพและภาครัฐ คงไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ สถานการณ์เหมือนในซีเรียยูเครนไม่มีผิด ความโลภและบ้าอำนาจของใครบางคนพยายามทำให้มันกลายเป็นสงครามกลางเมือง เพื่อจะได้ส่งกองทหารเข้าไปแทรกแซงและควบคุม ก็ผลประโยชน์เรื่องน้ำมันนั้นมากมายมหาศาลนี่นา

มาดูโรอยู่ในช่วงดวงตกมาก ลัคน์เมถุนที่ 27:31 องศา ถูกพลูโตธนูเล็ง 180 สนิท เขาเผชิญศัตรูที่มีอำนาจมาก เสาร์จรเข้าเล็งสนิทอีกดวง เสาร์เดิมเป็นมรณะเกษตร์ หลังจาก 23 มีนาคม ราหูยกเข้าปลายเมถุนทับลัคน์อีกด้วย พฤหัสพิจิกไม่ช่วยคุ้มลัคน์ แต่ทับพุธ-ดาวเจ้าเรือนลัคน์และอาทิตย์เดิมในภพ 6 (อริ) มีส่วนดีอยู่บ้างแต่ไม่มากนัก พฤหัสยกเข้าธนูเล็งลัคน์ 5 พฤศจิกายน ต้องรอถึงวันนั้นพฤหัสจึงให้คุณได้มาก ช่วงเวลานี้จึงเสี่ยงต่อการหลุดจากตำแหน่งอำนาจและเผชิญวิบากกรรมทั้งหลาย

ฮวน ไกวโดเกิด 28 กรกฎาคม 1983 ไม่รู้เวลา เสาร์อุจจ์กุมสนิทกับพลูโตที่เกาะวรโคตมนวางค์ ชี้ถึงอำนาจสูงสุดทางการเมือง ศุกร์สิงห์เกาะวรโคตมนวางค์และเพ็ญ 33 องศา บอกถึงความสำเร็จอย่างสูงทางโลก เขาก้าวหน้ายิ่งใหญ่แน่ แต่แค่ไหนและเมื่อไหร่ไม่รู้ จุดเสี่ยงคือพฤหัสมฤตยู (พักร) ที่กุมกันสนิท หมายถึงความสำเร็จหรือล้มเหลวอย่างใหญ่หลวงและไม่คาดคิด ราหูเมถุน 180 เนปจูนธนูสนิท หลงผิดเชื่อคนง่าย

ดวงสาบานตนให้ข้อมูลได้ดีกว่า ลัคนาพฤษภ 5:18 องศา พฤหัสพิจิกกุมศุกร์สนิทในภพ 7 ประสบความสำเร็จเพราะหุ้นส่วน เสียดายที่พฤหัสคือดาวมรณะ ศุกร์คือดาวอริ ทั้งคู่ 90 เนปจูนสนิท ความสำเร็จไม่ยั่งยืนหรือกลับให้โทษ ดวงสาบานตนของมาดูโรน่าห่วง ลัคน์มีน 22:20 องศา พลูโตดับสนิท 90 ลัคน์ เสาร์กุมทศมลัคน์สนิท เจอปัญหาอุปสรรคและแรงกดดันมหาศาลจากผู้มีอำนาจ ยังดีที่พฤหัสพิจิก 120 ลัคน์ช่วยคุ้ม

ทั้งคู่สาบานตนภายใน 7 วันหลังคราส ไกวโด-จันทรคราส (T-square มฤตยูราหู) มาดูโร-สุริยคราส (ดับเสาร์พลูโต) ตำแหน่งอำนาจนำมาซึ่งเภทภัย ไกวโดพบเหตุเปลี่ยนแปลงไม่คาดหมาย มาดูโรเผชิญความทุกข์ยากแสนสาหัส

ผู้เขียนทำนายดวงเมือง “เวเนซุเอลา” ไว้ว่า “...ครึ่งหลังของปี 2019 เกิดการเปลี่ยนแปลง (ผู้นำ) ทางการเมือง...” ดวงสาบานตนของทั้งคู่สอดคล้องกับดวงเมืองอย่างไม่น่าเชื่อ

วิกฤติเวเนซุเอลาจะนำพาโลกไปสู่อะไรต่อไป