ICO มันจบแล้วครับนาย?

ICO มันจบแล้วครับนาย?

เกิดอะไรขึ้นกับ Altcoin (เหรียญทางเลือก) ที่ได้รับการยอมรับให้มีมูลค่าอันดับที่สองรองจาก Bitcoin

ระหว่างที่เขียนบทความนี้ราคา Crypto ทั่วโลกได้ปรับฐานลงอย่างรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Etherium (ETH) ที่ดูเหมือนจะราคาลงแรงที่สุดลงมาต่ำกว่า 200 เหรียญแล้ว โดยราคา ETH เคยขึ้นไปบนจุดสูงสุดระดับ 1,000 เหรียญมาแล้ว 

คำถามคือเกิดอะไรขึ้นกับ Altcoin (เหรียญทางเลือก) ที่ได้รับการยอมรับให้มีมูลค่าอันดับที่สองรองจาก Bitcoin ?

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ ETH ถูกเทขายอย่างหนักเป็นเพราะโปรเจคท์ ICO ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะปลายไตรมาสแรกของปีนี้ (ผลพวงจากตลาด Bullish ปลายปี 2017) ต่างแห่กัน Cashout ออกมาเป็น Fiat Currency เพื่อนำเงินไปพัฒนาโปรเจคท์ตามที่เคยประกาศไว้ 

หรืออีกประการคือเริ่มเห็นสัญญาณของการ “วงแตก” ของวงการ ICO ทั่วโลกทำให้แห่กันแปลงเป็นเงินสดออกมา แต่ไม่มีแรงซื้อเข้ามารับเพิ่มทำให้ราคา ETH ปรับตัวลงแรงเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะสำนักใดก็ตามต่างระบุว่าโปรเจคท์ ICO ส่วนใหญ่ต่างประสบความล้มเหลวมากกว่าสำเร็จ ทำให้นักลงทุนที่เข้าไปซื้อ ICO ในช่วงประมาณต้นปี 2018 (ซึ่งเป็นช่วงยอดดอยของราคา Crypto พอดี) ต่างเจ็บตัวอย่างหนักและเข็ดขยาดกันทั่วหน้า 

ผมได้สำรวจการ Cashout ETH ของโปรเจคท์ ICO ชื่อดังหลายเจ้า บอกได้เลยว่าแม้จะระดมเงินได้มาแต่ก็ขาดทุนจากราคา ETH ที่ลดลงจากตอนที่เสนอขายทั้งสิ้น บางรายขาดทุนไปมากกว่า 50% ทีเดียว นอกจากนี้ยังได้รับการติดต่อจากเพื่อนต่างชาติหลายคนที่เคยพูดคุยเรื่องโปรเจคท์ ICO ไว้ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าตลาดตอนนี้แย่มากๆ

ขณะที่โปรเจคท์ที่ระดมทุนไปในช่วงปลายปี 2017 ต้องถือว่าโชคดีเพราะต่อให้โปรเจคท์ล้มเหลวแต่ด้วยราคาของ Crypto ที่ปรับตัวขึ้น นักลงทุนก็มีกำไรแล้ว (แค่ถือ ETH ไว้เฉยๆโดยที่ไม่ทำอะไรเลย) ก็ต้องบอกว่าระดมทุนได้ในจังหวะที่เหมาะสมมากๆ

คำถามคือ แล้วแบบนี้การระดมทุนด้วยวิธีการ ICO จะถึงจุดจบแล้วหรือยัง? 

มุมมองส่วนตัวผมคิดว่าโปรเจคท์ที่หลอกลวง (Scam) จะถึงจุดอวสานอย่างแท้จริงแล้วในเวลานี้ จากการที่นักลงทุนจะหันมามองพื้นฐานของโปรเจคท์มากขึ้นมากกว่าการเก็งกำไร และการที่โปรเจคท์จะมีพื้นฐานที่ดี บริษัทผู้ออกจะต้องมีพื้นฐานกิจการที่ดีด้วย

ใช่ครับ ผมมองว่าเกมส์การทำ ICO อาจจะเปลี่ยนมือจากบริษัทสตาร์ทอัพมาเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์หรือบริษัทขนาดใหญ่แทน เพราะด้วย Eco System ที่พวกเขามีอยู่หากนำ Blockchain และ Crypto นำมาใช้ได้อย่างถูกทางจะเป็นการเพิ่มแวลูทางธุรกิจให้กับพวกเขาได้อย่างมากที่สำคัญคือมีโปรดักต์และบริการพร้อมใช้อยู่แล้วด้วย 

เวลาที่ผมไปพูดในงานเสวนาเรื่อง Crypto ต่างๆ ผมย้ำเสมอว่า Crypto อาจจะก้ำกึ่งว่าจะเป็นฝันกลางวันที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติ แต่กับBlockchain มันคือเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกอย่างแท้จริง ยกเว้นแต่ผู้มีอำนาจเก่าไม่ต้องการให้เกิด ซึ่งเป็นไปได้ยากมากด้วยคอนเซบท์ Decentralized 

ส่วนกระแสของการเสนอขาย STO (Securities Token Offering) ที่เริ่มมีการพูดถึงกัน จะขอยกไปคุยกันสัปดาห์ต่อไปนะครับ