รวมตัวค้าน ‘สารเคมีเกษตร’
ที่ผ่านมารัฐบาลมีนโยบายชัดเจนในการผลักดัน“เกษตรอินทรีย์”
โดยเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี เพิ่งมีมติเห็นชอบยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ พ.ศ.2560-2564
กำหนดวิสัยทัศน์ให้ “ประเทศไทยเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคด้านการผลิต การบริโภค การค้าสินค้า และการบริการเกษตรอินทรีย์ ที่มีความยั่งยืนและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล”
มีเป้าหมายที่จะเพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ให้เป็น 6 แสนไร่ในปี 2564 และมีเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์ไม่น้อยกว่า 3 หมื่นราย
ซึ่งหมายความว่าประเทศไทยจะลด ละ ไปจนถึงยกเลิกการใช้สารเคมีอันตรายในกระบวนการผลิตทางเกษตรกรรม ทั้งยากำจัดวัชพืชและแมลงศัตรูพืช
สอดคล้องกับข้อเสนอของคณะกรรมการขับเคลื่อนปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันและจำกัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง กระทรวงสาธารณสุข ที่ขอให้ยกเลิกการใช้พาราควอต คลอร์ไพริฟอส ภายในปี2562 เนื่องจากเป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
แต่ขณะเดียวกันวานนี้(12 ก.ย.) สุวิทย์ ชัยเกียรติยศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ออกมาบอกว่าจะต้องขอคำปรึกษาจากคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่มีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานก่อน
และจะมีมติออกมาเมื่อไรหรืออย่างไร ระบุแน่ชัดไม่ได้
เป็นเหตุให้ในทันทีเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช และเครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรง ที่เคยคัดค้านมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมเสนอข้อมูลความไม่ชอบมาพากล ก็ร่วมกับ 40 องค์กรเครือข่าย ออกแถลงการณ์แสดงความผิดหวัง
มองว่าการโยนลูกไปให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายฯ พิจารณา เป็นการหมกเม็ด ยื้อเวลาใช้สารพิษดังกล่าวต่อไป
เพราะมติของคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ ที่ประกอบด้วย 4 กระทรวงหลัก ได้พิจารณาผลกระทบรอบด้านไปแล้ว
เรื่องนี้ทำท่าว่าจะไม่ใช่“เรื่องเล็ก” เพราะมีการเคลื่อนไหวคัดค้านกันมานานแต่ไม่เป็นผล
ต้องจับตาดูการประชุมคณะรัฐมนตรีอังคารที่ 19 ก.ย.นี้ อาจมีนัดหมายชุมนุมร้องเรียนที่หน้าทำเนียบรัฐบาล
รวมทั้งอาจมีการขยายประเด็นเกี่ยวเนื่องไปการทุจริตคอร์รัปชัน ที่เรื่องนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เคยบอกจะมีการตรวจสอบ และเคยสอบถามกรมวิชาการเกษตรไปแล้ว
แต่ทุกวันนี้ก็ยังเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น !!!