พลังศรัทธา อันน่ากลัว

ต่อให้แทบพลิกแผ่นดินอาณาจักร “ธรรมกาย" ค้นหา หลัง “คสช.” ใช้อำนาจตาม ม.44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ออกคำสั่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) สนธิกำลังหลายฝ่ายร่วมปฏิบัติการ ก็ตาม

ต่อให้ “ดีเอสไอ” ใช้ไม้แข็งให้พระภิกษุ สามเณร และประชาชน ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่หรือพระของวัดพระธรรมกาย ออกจากพื้นที่ภายในเวลา 15.00 น.(19 ก.พ.) โดยพระเณรจะต้องมีการตรวจใบสุทธิ ส่วนคนของวัดจะต้องตรวจบัตรประชาชน เพื่อคัดกรองเอาคนที่ปะปนอยู่ในวัดออกไป แถมมีบทลงโทษคนที่ฝ่าฝืน ข้อหาขัดคำสั่ง “คสช.” คือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาทด้วย

แต่สุดท้าย สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ การลุกฮือขึ้นมาต่อต้านของเหล่าสาวก “พระธัมมชโย” จน “ดีเอสไอ” ต้องถอยตั้งหลักใหม่

นี่คือ ความน่ากลัวของ “พลังศรัทธา” ที่พระและศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายมีต่อ พระธัมมชโย ที่แม้ “ดีเอสไอ” ไม่สามารถจับพระธัมมชโยได้ ก็ไม่ใช่ประเด็นอีกต่อไป

ประเด็นคือ “ดีเอสไอ” ต้องถอนกำลังออกจากวัดพระธรรมกาย และ “คสช.” ต้องยกเลิกคำสั่งตาม ม.44 เท่านั้น

ด้วยข้ออ้าง อย่างที่พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกายอ้างว่า พระ เณร เดือดร้อนต้องไปสอบภาษาบาลี วันที่ 21 กุมภาพันธ์ และมีข่าวจากโซเชียลเน็ตเวิร์ก ว่าเจ้าหน้าที่จะยึดทรัพย์สินของวัด ยึดรูปเหมือนทองคำหลวงปู่วัดปากน้ำ ยึดอาคารสถานที่ของวัดไปทำเป็นที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ นำของผิดกฎหมาย เช่น อาวุธ ยาเสพติด มายัดเยียดแล้วใส่ร้ายพระและวัด ฯลฯ

ขณะเดียวกัน ก็มีการปลุกเร้า โดยเฟซบุ๊ค เรารักวัดพระธรรมกาย โดยมีข้อความว่า“คณะสงฆ์ทุกภาคของประเทศไทย รับฎีกา เข้าร่วมปฏิบัติการ ชวนญาติมิตร เข้ากรุงเทพ ปทุมธานี ภายใน 48 ชั่วโมง ประชาชนชาวพุทธ 5 แสนคนในเขตภาคกลาง เพื่อกดดันเรียกร้องให้ยกเลิก มาตร 44 กับวัดพระธรรมกาย ภายใน 24 ชั่วโมง”

เห็นหรือยังว่า น่ากลัวแค่ไหน ที่ผ่านมา ม็อบอื่นยังพอเจรจากันได้ แต่ม็อบศรัทธาพระธัมมชโย ยืนกระต่ายขาเดียว “หลวงพ่อไม่ผิด” อย่างนี้มันก็สู้ตายเป็นตายเท่านั้นเอง