จัดพอร์ตการลงทุนเดือนกันยายน

จัดพอร์ตการลงทุนเดือนกันยายน

มองว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะเข้าสู่ช่วง 'ปรับฐาน' เนื่องจากมีความเสี่ยงที่เงินลงทุนจะไหลออก จากปัจจัยหลายด้าน

ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของเดือนสิงหาคมเนื่องจาก 1) นโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายจากธนาคารกลางหนุนให้สภาพคล่องไหลเข้าตลาดหุ้น 2) ดัชนี Economic Surprise ของหลายๆประเทศปรับตัวขึ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯและอังกฤษ และ 3) ผลประกอบการไตรมาส 2 ในหลายๆประเทศสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์

เรามองว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะเข้าสู่ช่วงปรับฐาน เนื่องจาก 1) มีความเสี่ยงที่เงินลงทุนจะไหลออกจากตลาดหุ้นเนื่องจากตลาดเพิ่มการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ปัจจุบันตลาดมองว่าโอกาสที่เฟดที่ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เป็น 50% ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 10% ในช่วง 1 เดือนก่อนหน้า 2) ปัจจุบันตลาดหุ้นหลายๆตลาดเทรดที่ระดับพีอีสูงกว่าค่าเฉลี่ย 1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (ได้แก่ ดัชนี S&P500, SET, MSCI Asia ex Japan และ MSCI Europe)

3) สำหรับยุโรป อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจะถูกกดดันจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ความเสี่ยงทางการเมืองที่สูงขึ้น และความตึงเครียดทางการเงิน 4) สำหรับปัจจัยเชิงพื้นฐานของญี่ปุ่น ตลาดได้ปรับลดประมาณการผลกำไรของบริษัทในตลาดหุ้น TOPIX ปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2560 ลง 10% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาและปรับลดลง 15% นับจากต้นปี ซึ่งถือเป็นการปรับลดลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นหลักอื่นๆทั่วโลก 5) สำหรับอินเดีย มีความเสี่ยงเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจนเกินเป้าหมายของธนาคารที่ 5% 

สำหรับแนวโน้มของสินค้าโภคภัณฑ์ เรามองว่าราคาน้ำมันมีโอกาสรีบาวด์ในช่วงปลายเดือนเนื่องจากการคาดการณ์ว่าโอเปคและผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่จะตรึงกำลังการผลิตเพื่อสร้างเสถียรภาพของราคา สำหรับทองคำเรามองว่าความต้องการลงทุนในทองคำน่าจะยังแข็งแกร่งเนื่องจากความเสี่ยงทางการเงินต่างๆจะหนุนความต้องการลงทุนในทองคำ

สำหรับกองทุนอสังหาริมทรัพย์ฯนั้นยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่นและเราเชื่อว่าจะยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูง

ทั้งนี้สำหรับน้ำหนักในการลงทุน เราแนะนำให้ลงทุนเราแนะนำให้ลงทุนในหุ้นไทย หุ้นสหรัฐฯ หุ้นเยอรมัน หุ้นญี่ปุ่น หุ้นอินเดีย และหุ้นกู้ภาคเอกชนในระดับน้อยกว่าปกติ (UNDERWEIGHT)

ส่วนทองคำ น้ำมัน และกองทุนรวมอสังหาฯ เราแนะนำให้ลงทุนในระดับเท่ากับปกติ (NEUTRAL) และให้เน้นถือเงินสดหรือสินทรัพย์เทียบเท่าเงินสด โดยแนะนำให้ลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้ในระดับมากกว่าปกติ (OVERWEIGHT)