30 บจ.ยีลด์ปันผลครึ่งปีเกิน 5%

งวดครึ่งปีแรกของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ในปีนี้ก็เช่นกัน

หากพิจารณาข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์พบว่า ตั้งแต่ 1-23 ส.ค.2559 มีบจ.ที่ประกาศจ่ายเงินปันผล 118 บริษัท ซึ่งจะทยอยขึ้นเครื่องหมายรับสิทธิเงินปันผล(XD) ตั้งแต่เดือนนี้ไปจนถึงเดือนก.ย. และเมื่อพิจารณาหุ้นที่ขึ้นเครื่องหมายดังกล่าวแล้วพบว่า อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (ยีลด์) งวดครึ่งแรกของปีนี้ ที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับจะอยู่ที่ระดับ 0.04-11.36%

ทั้งนี้ มีบจ.30 บริษัทที่ให้ยีลด์สูงเกินระดับ 5% โดยบริษัทที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย หุ้นของบริษัท ไทยแลนด์ไอออนเวิคส์ (TIW ) ยีลด์ 11.36%โดยมี “ประสิทธิ์ กาญจนศักดิ์ชัย” เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 76.92% รองลงมา บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) MBKET ให้ยีลด์ 8.06% มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ MAYBANK KIM ENG HOLDINGS LIMITED ถือหุ้น 83.25%

บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) ยีลด์ 7.91% มีผู้ถือหุ้นใหญ่ เทมาเส็ก หรือรัฐบาลสิงคโปร์ผ่าน บริษัท แอสเพน โฮลดิ้งส์ จำกัด 40.50%กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์(LHPF) 7.57% มีธนาคารออมสิน จีไอซี และบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่รวม 47%

จากข้อมูลจะเห็นว่า บริษัทที่จ่ายยีลด์ปันผลในอัตราที่สูงๆ ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นที่มีจำนวนหุ้นหมุนเวียนในตลาดหุ้น (ฟรีโฟลท) ระดับต่ำ หรือกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ถือครองหุ้นในสัดส่วนที่เกินกว่า 60-70% ดังนั้น ผลประโยชน์ก็จะตกอยู่กับผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นหลัก

ขณะที่หุ้นที่จ่ายยีลด์เกินระดับ 5% ที่เหลือประกอบด้วย หุ้นบล.เอเซียพลัส 6.9%กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก 6.15% กองอินฟราฯบีทีเอส 5.41% กองทุนอสังหาฯซีพีเอ็น คอมเมอร์เชียล โกรท 5.54% กองทุนอสังหาฯซีพีเอ็นรีเทล 5.04% กองทุนอสังหาฯคริสตัล รีเทล 6.56% กองทุนอินฟราโทรคมนาคม ดิจิทัล 6.35% หุ้นจีแคป 6.29% กองทุนอินฟราฯจัสมิน 6.22 หุ้น เค วาย อี 6.25 % กองรีท แอล เอช ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ 5.42% กองมิลเลียนแนร์5.75% พรอดดิจิ 5.98% ไพร์มออฟฟิศ 6.1%

กองทุนปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค6.58% ควอลิตี้ เฮ้าส์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์6.77% กองอสังหาฯควอลิตี้ เฮ้าส์ 6.21% กองอสังหาฯแสนสิริ ไพร์มออฟฟิศ 5.74% หุ้นเอสเอ็นซี6.16/%หุ้นเอสพีซีจี5.92% หุ้นยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม 6.45%

นอกจากผู้ถือหุ้นจะได้รับจะได้รับยีลด์จากเงินปันผลแล้ว ยังมีโอกาสได้รับกำไรจาส่วนต่างราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากตลาดหุ้นไทยครึ่งปีแรกคึกคัก ซึ่งได้รับอานิสงส์จากกระแสเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปี ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้ว 19.50% และหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงน้้นย่อมได้รับความสนใจจากนักลงทุน แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องฟรีโฟลทอยู่ในระดับต่ำอาจเป็นอุปสรรคต่อการเข้าลงทุนของผู้ลงทุนรายย่อย