ลุ้นรายได้ 'ไฮซีซัน'
ตามเป้าหมาย ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
คุมทัพโดย “กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร” รมว.ท่องเที่ยว ออกมาบอกก่อนหน้านี้ว่า รายได้จากการท่องเที่ยวกำลังจะไปได้สวย
โดยเปิดแถลงข่าวประเมินว่าในช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.) ของปีนี้ จะทำรายได้จากการท่องเที่ยวได้ถึง 1.84 ล้านล้านบาท เข้าใกล้เป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้ที่ 2.41 ล้านล้านบาท พร้อมเชื่อมั่นว่า ช่วง 3 เดือนสุดท้าย(ต.ค.-ธ.ค.)ของปี จะดันรายได้ท่องเที่ยวให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ไม่ยาก เนื่องจากเป็นฤดูขาย หรือ ไฮซีซัน ของภาคท่องเที่ยว
ทว่า สิ้นเสียงระเบิดในคืนวันที่ 11 ส.ค.ต่อเนื่องวันที่ 12 ส.ค. นอกจากจะทำให้นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติผวากับเหตุการณ์นี้แล้ว เชื่อว่าในฟากฝั่งของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ รวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คงผวาไม่แพ้กัน ว่าสุดท้ายแล้วรายได้ท่องเที่ยวปีนี้จะ“ปลิวหาย"ไปกับแรงระเบิดหรือไม่
คำนวณแล้ว ในช่วง 3 เดือนสุดท้าย ไทยต้องการรายได้จากการท่องเที่ยวเข้ามาสบทบอีก 5.6 แสนล้านบาท จึงจะบรรลุเป้าหมาย
แต่ด้วยหน้าที่ของหน่วยงานที่กำกับดูแลการท่องเที่ยว “กอบกาญจน์” รวมถึง “ยุทธศักดิ์ สุภสร” (ผู้ว่าททท.) จำต้อง“เก็บอาการกังวล”นั้นไว้ แม้ว่ายุทธศักดิ์ จะหลุดปากออกมาว่า จากเหตุระเบิดอาจส่งผลกระทบให้ไทยสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวราว 5,000-10,000 ล้านบาท ก็ตาม
ที่ผ่านมา “แอ็คชั่นหลัก” จากหน่วยงานรัฐคือการ “เรียกคืนความเชื่อมั่น” ฟื้นท่องเที่ยวให้กลับมาเร็วที่สุด!
อาทิ การเร่งเรียกประชุมผู้บริหารระดับรองผู้ว่าฯททท.เพื่อประเมินผลกระทบทันทีในวันที่ 12 ส.ค. รุ่งขึ้นอีกวัน กระทรวงท่องเที่ยวฯ ยังเปิดแถลงข่าวใหญ่ รวมกับหน่วยงานรัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง 20 หน่วยงาน เพื่อบอกเล่าถึงแผนเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมไปกับมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว รวมถึงยืนยันการเป็นเจ้าภาพการประชุมวันท่องเที่ยวโลก (World Tourism Day) ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-29 ก.ย.ที่ประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการประชุมด้านท่องเที่ยวระดับโลก ที่จะเชิญคนใหญ่คนโตทั้งรัฐและเอกชนเข้าร่วมงานหลายร้อยราย โดยกระทรวงท่องเที่ยวฯเชื่อมั่นว่า งานนี้จะส่งผลให้ไทยสามารถเรียกคือความเชื่อมั่นการท่องเที่ยวกลับมาได้มาก
ผสมกับข้อดีของการท่องเที่ยว คือ แม้จะเป็นเซ็คเตอร์ที่อ่อนไหวกับเหตุการณ์ต่างๆที่เข้ามาปะทะก่อนใคร แต่พิสูจน์แล้วว่า หลังเหตุการณ์เหล่านั้นคลี่คลายลง “ภาคท่องเที่ยว”อีกเช่นกันที่จะฟื้นธุรกิจกลับมาได้ก่อนเซ็คเตอร์อื่น
ประเมินจากเหตุการณ์การเมืองในช่วงที่ผ่านมา เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2554 หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์ระเบิดที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ที่ไม่นานจากนั้น ตัวเลขการท่องเที่ยว ก็ฟื้นตัวกลับมา จนรัฐวาดหวังว่า เซ็คเตอร์นี้จะเป็นอีกรายได้หลักในการขับดันเศรษฐกิจในปีนี้ ในภาวะที่เครื่องยนต์เศรษฐกกิจอื่นๆยังง่อยเปลี้ย
กลายเป็นการเปิดแถลงคาดการณ์ตัวเลขท่องเที่ยว 9 เดือนที่ปลาบปลื้ม
จนมาเจอระเบิด7จังหวัดอีกรอบ