“พูด” อย่างไรให้ลูกน้องเชื่อ

“พูด” อย่างไรให้ลูกน้องเชื่อ

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ดิฉันได้มีโอกาสให้คำปรึกษากับผู้บริหาร 2 ท่าน แต่ละท่านต้องนำองค์กรใหญ่ให้ผ่านการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ต่างกำลังเผชิญ

แม้จะต่างเชื้อชาติ ต่างองค์กร ต่างกรรม ต่างวาระ

แต่บริบทของปัญหาและคำถามของทั้งสองท่าน ไม่ต่างกัน และดิฉันเชื่อว่า ไม่ต่างจากผู้นำและหัวหน้าทั่วไปหลายท่านเช่นกัน

คำถาม คือ ทำไมๆๆลูกทีมไม่ยอมเปลี่ยน แม้ท่านจะพร่ำ จะเพียรบอก จะตอกย้ำซ้ำซากเพียงใด

ลองมาฟังประเด็นที่เราหารือกันค่ะ

1.ข้อแนะนำแรก Words are cheap!

คำพูดมีราคาถูกนัก

ถ้ารักจะให้คนเชื่อ

ต้อง “ทำ” เพื่อตอกย้ำคำพูด

การทำให้ “เห็น” เป็นวิธีแรกที่จะส่งสัญญาณว่า หัวหน้า “Walk the talk” หรือ ทำจริง ทำทุกสิ่งที่พูด

ทั้งนี้ ตั้งหลักที่การสื่อสาร หรือ การพูด ถือเป็นงานชิ้นสำคัญของผู้นำที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง

แต่ สื่อสารผ่านการกระทำ โดย ทำให้ดู อยู่ให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม เป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่งกว่า..ก็ว่าได้

2.ทำให้ทีมประหลาดใจ”! Surprise!

สมองมนุษย์ ล้วนอุดมสั่งสมไปด้วย อคติ

ยิ่งอะไรไม่ดีที่หัวหน้าทำ ลูกน้องยิ่งจำฝังใจ

อาทิ หากลูกน้องมองว่า หัวหน้าเป็นมนุษย์ “บ้าอำนาจ”

ขาดสนิทซึ่งทักษะ “การฟัง”

ไม่ว่าหัวหน้าจะเห็นด้วยหรือไม่ จะเป็นเรื่องจริง หรืออิงนิยายเพียงใด อาจยังไม่ใช่ประเด็น

เพราะลูกน้อง คิดอย่างไร เขาก็ เชื่ออย่างนั้น

และ “เชื่อเช่นใด ก็จะมี พฤติกรรมเช่นนั้น

เมื่อเขาเชื่อว่าพูดไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะคิดว่าพี่ไม่ฟังอยู่ดี

เขาก็จะอมพะนำ คิดว่าพูดไปทำไม เปลืองลมหายใจเปล่าๆ

หากพี่หัวหน้าอยากเปลี่ยนพฤติกรรมลูกน้อง เช่น ให้เขากล้าคิด กล้าพูดมากขึ้น

สิ่งหนึ่งที่ลูกพี่ทำได้ คือ เริ่มปรับที่พฤติกรรมตนเอง

และ มิใช่ปรับระดับธรรมดา

อย่าลืมว่า เรากำลังรื้อ อคติที่น้องมี พี่จึงต้องลงแรงมากกว่าปกติหลายเท่า

เพราะสมองของคนเรา หากเชื่ออะไรแล้ว มักยึดมั่นถือมั่น ยันกระต่ายขาเดียวก็ไหว

หัวหน้าจึงต้องทำอะไรให้สมองสั่นสะเทือน เพื่อเคลื่อนและคลายปม

ดังนั้น การทำให้ทีม “แปลกใจ” ได้ ถือเป็นก้าวแรกของการทำให้สมองน้องกระเพื่อม

ปมที่ผูกไว้ จะได้เริ่มคลายตัวบ้าง

อาทิ ลูกพี่คนที่น้อง “มั่นใจ” ว่าไม่เคยฟังใคร ลุกขึ้นมา Surprise เขา โดยวันหนึ่ง พี่เริ่มฟังทุกคนอย่างตั้งใจ อย่างมีสติ อย่างมีสมาธิยิ่ง

ซ้ำให้ “พื้นที่” สนับสนุน ลุ้นให้ใครๆ มีโอกาสออกความเห็นในที่ประชุม

ในอดีตเคยหงุดหงิด ชอบ “ตัดบท” ก็งดเสียสิ้น!

หากพี่สามารถทำให้น้องเริ่มงงๆ และคาดเดาไปสารพัดว่า วันนี้พี่เราน่าจะกินยาผิดมากระมัง!?

จงถือว่า พี่มาถูกทางแล้ว!

3.ครั้งเดียวไม่เคยพอ!  Once is never enough!

การทำให้คนประหลาดใจได้ว่าทำไมวันนี้พี่ดีจัง! เช่น พี่ฟังเราเป็นพิเศษ

จะไร้เสียซึ่งประโยชน์ทั้งปวง

หากพี่ไม่มีแผนต่อเนื่อง ที่ต้องใช้ความฮึด ความอึดและอดทน ที่จะทำให้คนเริ่มไว้วางใจว่า จริงๆ พี่ไม่ได้ “บ้าอำนาจ” อย่างที่เขาคิด

ดังนั้น ต้องทำเยอะ ทำย้ำ ทำซ้ำ ทำสม่ำเสมอ

ปรับพฤติกรรมของตน คนว่ายาก

ปรับ “ทัศนคติ” ของคนอื่นที่มีต่อเรา..ยากกว่า

ก็ใครว่าการเป็นหัวหน้าง่าย..จริงไหมคะ