การลงทุนสำหรับผู้หญิง

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสร่วมงาน Invest Fair ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ทำให้ผมเห็นความแตกต่างบางอย่างของการลงทุนบ้านเรา นักลงทุนสิงคโปร์ค่อนข้างค้นหาข้อมูล สอบถาม วิเคราะห์ และติดตาม แต่ที่สำคัญคือนักลงทุนที่มาในงานที่ผมพบ ส่วนใหญ่เน้นออมและลงทุนเป็นประจำ แม้จะเป็นเงินเพียงเล็กน้อยก็ตาม ซึ่งถือว่าเป็นรากฐานในการพัฒนาตลาดทุนด้วยส่วนหนึ่ง นอกเหนือจากการลงทุนในหุ้น กองทุนรวม กองทุนอีทีเอฟ ประกันชีวิตแล้ว อีกทั้งคนสิงคโปร์ยังสนใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทั้งในรูปของกองทุนและที่ดิน อาคาร

หลังการสัมมนาหลายหัวข้อที่เกี่ยวกับมุมมองการลงทุน ผมพบกับคำถามของนักลงทุนคนหนึ่งที่ถามผมง่ายๆ สั้นๆ ว่า ดิฉันเป็นผู้หญิงฟังแล้วควรจะลงทุนอย่างไร ทำให้ผมฉุกคิดขึ้นมาว่า ไม่ว่าเรารับฟังภาวะเศรษฐกิจ มุมมองการลงทุนจากข้อมูลการวิเคราะห์ของกูรูอย่างไร สิ่งสำคัญคืออะไรที่เหมาะกับตัวเรา วันนี้ผมขออนุญาตแนะนำข้อมูลครับ

เพิ่มแหล่งรายได้ : ปัจจุบันผู้หญิงทำงานมากขึ้น ความรับผิดชอบมากขึ้นหลายอย่าง การจัดการการเงินในแง่รายได้จึงมีความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ในงานวิจัยในอเมริกา US Bureau of Labor พบว่า 90% ของผู้หญิงจะต้องบริหารจัดการการเงินรายได้ด้วยตนเองในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต ซึ่งการวิเคราะห์แหล่งที่มาของรายได้ตนเองเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ท่านสามารถทราบความเสี่ยงของรายได้ตนเอง เช่น รายได้ที่เคยมีเข้ามาสม่ำเสมอจะหายไปเมื่อตกงาน การเตรียมตัวหาวิธีเพิ่มรายได้ให้เหมาะสมกับตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ อาทิ การหารายได้จากงานอดิเรก การมีอาชีพที่สองหลังงานประจำ หรือเริ่มเก็บออมมากขึ้น เพื่อให้มีเงินก้อนสำหรับเป็นเงินสำรองการใช้จ่ายยามฉุกเฉินอย่างน้อย 6 เดือน และการออมเพื่อการลงทุนเพื่อสร้าง passive income ให้กับตนเองอีกทางหนึ่ง เช่น ซื้ออสังหาริมทรัพย์ให้เช่า เป็นต้น ทั้งนี้ อัตราการออมเป็นประจำอย่างน้อยควรเป็นประมาณ 10-15% ของรายได้ต่อเดือน

ลดค่าใช้จ่าย หรือ แปรค่าใช้จ่ายเป็นสิ่งที่มีมูลค่า : วิเคราะห์สัดส่วนรายจ่ายต่อรายได้แต่ละเดือนว่าเกิดจากรายจ่ายประเภทใดบ้างมากน้อยเพียงใด และบริหารจัดการรายจ่ายเหล่านั้นเสีย โดยเฉพาะรายจ่ายที่จ่ายแล้วหายทิ้ง และต้องเริ่มสร้างรายจ่ายเพื่อสร้างมูลค่าในอนาคต เช่น รายจ่ายจากการผ่อนชำระเงินกู้บ้าน หรือ asset ที่สามารถแปรเปลี่ยนเป็นเงินหรือมีมูลค่า ซึ่งโดยทั่วไปรายจ่ายส่วนนี้มักไม่ควรเกิน 30% ก็จะทำให้ท่านสามารถใช้ชีวิตประจำวันพร้อมกับการสร้าง asset ได้อย่างสบายๆ ไม่เครียดจนเกินไป

ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพ : ผู้หญิงมักมีความเครียดมากกว่าคุณผู้ชาย ซึ่งจากสถิติค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลมักจะเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยปีละ 3-5% และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นมักสะท้อนเข้าไปในค่าเบี้ยประกันสุขภาพเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ดังนั้น สัดส่วนที่เหมาะสม คือ ทำประกันให้เพียงแค่ครอบคลุมในสิ่งที่พอเหมาะกับความเสี่ยงของท่านต้องการคุ้มครอง เนื่องจากโดยทั่วไปอัตราผลตอบแทนจากกรมธรรม์ประกันชีวิตอยู่ในระดับเฉลี่ยประมาณ 3-5% ส่วนที่เหลือท่านสามารถนำเงินเก็บไปหาดอกผลได้จากการลงทุนที่มีสภาพคล่องได้จะเป็นประโยชน์กับการเงินของท่านมากกว่าครับ 

รู้จักการลงทุนและจัดสรรเงินลงทุนให้เป็น การมีเป้าหมายทางการเงินที่ดีจะช่วยให้ท่านจัดสรรเงินลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากสถิติผู้หญิง 60% จะมีความกังวลเกี่ยวกับการไม่มีเงินพอใช้จ่ายด แต่มีเพียง 47% ที่จะเรียนรู้การลงทุนให้ตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงินของตนเองได้ ดังนั้น เราควรเริ่มศึกษาและวางแผนการลงทุนให้เหมาะสมกับความสามารถและความเสี่ยงของตนเอง โดยท่านสามารถปรึกษาและใช้ข้อมูลเหล่านั้นให้เป็นประโยชน์จากบทความหรือที่ปรึกษาทางการเงินต่างๆ แต่ที่สำคัญคือ ต้องมีวินัย และการจัดสรรเงินลงทุนไปในแต่ละสินทรัพย์ให้เหมาะสมกับภาวะตลาดและเป้าหมายทางการเงินของท่าน ซึ่งจะช่วยให้ท่านประสบความสำเร็จในการลงทุนครับ

“ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน"