จับสัญญาณแรงซื้อต่างชาติ

จับสัญญาณแรงซื้อต่างชาติ

ตอนนี้เชื่อว่า ประเด็นที่นักลงทุนตลาดหุ้นไทย

 กำลังให้ความสนใจคือกระแสเงินทุนต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่กำลังจะมองหาคำตอบว่า แรงซื้อหุ้นของต่างชาติใกล้จะหมดหรือยัง ขณะที่เป็นคำถามที่ยากจะหาคำตอบชัดเจนได้

หากพิจารณาปัจจัยสนับสนุน และนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ประเมินปัจจัยที่มีอิทธิพล ตอนนี้มีหลายประเด็นดูเหมือนว่า โอกาสที่แรงซื้อต่างชาติจะยังมีอยู่ แม้ว่าระยะสั้นอาจจะแผ่วลงไปบ้าง

 บล.บัวหลวง ให้ความเห็นว่าครึ่งแรกของเดือน กค.ดัชขึ้นตามคาด รับกระแส แนวโน้มเฟดเลื่อนขึ้นดอกเบี้ย, รัฐฯออกกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ส่วนช่วงครึ่งเดือนหลังผันผวน ตามการประกาศกำไรไตรมาส 2 ปีนี้ และมีแนวโน้มที่ปลายเดือน กค.-ครึ่งแรกของเดือนส.ค.ดัชนีหุ้นจะปรับขึ้นได้ดีกว่าคาด โดยมองดัชนีซิ๊กแซกขึ้นทดสอบ 1,550 จุด ภายในครึ่งแรกของเดือน ส.ค.นี้

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ประเมินระยะสั้น Fund flow เริ่มมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น แม้ยังเห็นการซื้อสุทธิจากต่างชาติ แต่ปริมาณเริ่มชะลอตัวลง และเงินที่เข้ามาในระยะหลัง น่าจะเป็นการสลับโยกเงินมาจากตลาดพันธบัตร โดยเห็นแรงขายพันธบัตรจากต่างชาติรวมถึงการปรับขึ้นของ Bond yield นอกจากนี้การแข็งค่าของค่าเงินบาทในระยะสั้นน่าจะเริ่มจำกัดแล้ว

หากจะมีลุ้น Fund flow ให้ไหลเข้ามาเพิ่มก็จำเป็นต้องมี Surprise จาก BOJ อาทิ ใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบเพิ่มขึ้น หรือต้องมีการประกาศเพิ่มขนาด QE มากกว่าที่ตลาดคาดไว้อย่างมาก ดังนั้นจึงมองเป้าดัชนีรอบนี้ที่ระดับ 1530 จุดก่อน เพราะยังต้องประเมินปัจจัยต่างๆ อย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะ 1) นโยบายการเงินของประเทศหลักและกระแสเงินทุน และ 2) กำไรตลาดที่กำลังอยู่ในฤดูประกาศผลประกอบการ

บล.ไอร่า ระบุว่า ขณะที่อยู่ระหว่างรอผลการประชุมเฟด และการประชุม BOJ ซึ่งมีคาดหวังในเชิงบวก โดยเฉพาะการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อให้พ้นจากภาวะเงินฝืดและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากประเด็น Brexit ส่วนประเด็นในประเทศคาดบรรยากาศการลงทุนยังเป็นบวก โดยเฉพาะกระแสเงินทุนจากแรงซื้อสุทธิของต่างชาติยังมีต่อเนื่อง

ขณะที่คาดยังมีแรงเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 2 ปีนี้ และเงินปันผลถึงกลางเดือนส.ค. และภายใต้ความชัดเจนในงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ ซึ่งคาดเพิ่มความเชื่อมั่นในการลงทุน เช่นรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลือง รวมถึงการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทยมูลค่า1แสนล้านบาท 

นอกจากนี้ หากดูข้อมูลย้อนหลัง 3 ปีพบว่า ยอดซื้อสุทธิของต่างชาติในเดือนก.ค.ปีนี้ถือเป็นยอดซื้อที่สูงสุด ในเดือนก.ค.ล่าสุดมียอดซื้อสุทธิ 3 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการซื้อ 12 วันติดต่อกัน ในปี2558 เดือนก.ค. มียอดขายสุทธิ 2.6 หมื่นล้านบาท ปี 2557 มยอดซื้อสุทธิ 1.37 หมื่นล้านบาท และปี 2556 มียอดซื้อสุทธิ 498.32 ล้านบาท ขณะที่รอบปีนี้มียอดซื้อสุทธิ 7 หมื่นล้านบาท ขณะที่ในช่วงที่ดัชนีหุ้นยืนเหนือระดับ 1500 จุด หุ้นที่มีมูลค่าตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) 100 อันดับแรกของตลาดหุ้นไทย พบว่า มีหุ้นที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินระดับ 10% มี 13 บริษัท