แหล่งเงินดอกเบี้ยต่ำ โอกาสทอง SMEs

คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ขยายระยะเวลาโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำไปถึง 31 ธ.ค. 2559 หรือจนกว่าจะเต็มวงเงิน ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมากที่ 4% ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี หลังจากนั้นปีที่ 4 และปีที่ 5 อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ MLR ต่อปี โดยให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 15 ล้านบาทต่อราย หาก SMEs ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันสามารถใช้ บสย. ค้ำประกันได้ โดย SMEs ขอกู้ได้รายละ 5 ล้านบาท เวลาผ่อนนาน 5 ปี ซึ่งเป็นโอกาสอันดีสำหรับ Start up และ SMEs ที่ต้องการขยายธุรกิจไปสู่ AEC

SMEs ที่เป็น Start up คือผู้ประกอบการที่ดำเนินกิจการมาแล้วไม่เกิน 3 ปี และมีนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์หรือการบริการ ทางธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อให้กลุ่ม Start up เช่น ธุรกิจพัฒนาสายพันธุ์ปลาหมอไทย สามารถแปลงเพศปลาหมอไทยเพื่อใช้เลี้ยงในเชิงพาณิชย์ ที่สกลนคร ล่าสุดได้รับรางวัล The best innovation ขององค์กรนักประดิษฐ์โลกปี 2559 หรือธุรกิจพัฒนาชุดหุ่นยนต์แขนกลประดิษฐ์ ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถลดต้นทุนนำเข้าหุ่นยนต์จากต่างประเทศ ปัจจุบันวงเงินคงเหลือ 1,684.28 ล้านบาท ขณะที่ SMEs ที่ต้องการขยายธุรกิจไปสู่ AEC มีวงเงินคงเหลือ 1,094.13 ล้านบาท

และเรื่องที่สอง คือ โครงการสินเชื่อบัญชีเดียว อัตราดอกเบี้ยต่ำมากแค่ 5% ต่อปี ไม่ต้องชำระคืนเงินต้น 5 เดือน หลังจากนั้นปีที่ 2-5 อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ MLR ต่อปี และวงเงินกู้ไม่เกิน 5 ล้านบาท กู้ได้สูงสุด 5 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนนาน 5 ปี หากไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน สามารถใช้ บสย.ค้ำประกันได้ คิดง่ายๆ หากกู้เงิน 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเดือนละ 2 หมื่นบาท โดยมีระยะเวลายื่นกู้ถึงวันที่ 10 พ.ค.2560 หรือจนกว่าจะหมดวงเงิน

โครงการสินเชื่อบัญชีเดียว เป็นโครงการสินเชื่อที่เกิดจากการรวมพลังกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าสู่ระบบการเงินที่มีมาตรฐานมากขึ้น หลังจากที่เปิดตัวโครงการสินเชื่อบัญชีเดียวไปแล้วเมื่อวันที่ 10 พ.ค. มี SMEs สนใจและยื่นขอกู้จำนวนมาก ปัจจุบันมีวงเงินคงเหลืออยู่ 1,177.56 ล้านบาท

จึงอยากเชิญชวนผู้ประกอบการที่สนใจสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ อย่ารอช้า ของดีมีน้อย สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 1357