ตลาดเศรษฐีแดนภารตะ โตไม่ยั้งรั้งไม่อยู่แล้ว

ตลาดเศรษฐีแดนภารตะ โตไม่ยั้งรั้งไม่อยู่แล้ว

เวลาพูดถึงอินเดีย คนไทยมักจะติดอยู่กับภาพเดิมๆ คือ ยังคิดว่าอินเดียมีแต่คนจน บ้านเมืองสกปรก

เต็มไปด้วยสลัมและขอทานอะไรประมาณนี้ เพราะคนไทยที่เดินทางไปอินเดียส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดมักจะเดินทางเพื่อไปแสวงบุญที่สังเวชนียสถาน โดยเฉพาะที่พุทธคยาในรัฐพิหารในภาคอีสานซึ่งเป็นรัฐที่ยากจนที่สุดของอินเดีย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่จะทำให้คนไทยที่เคยไปสัมผัสรัฐที่ยากจนที่สุดของอินเดียมา จะหลงเหลือแต่ความทรงจำที่ออกแนวสังเวชใจเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผมก็ไม่ปฏิเสธเพราะนั่นคือความจริง แต่เป็นความจริงแค่เพียงบางส่วนเท่านั้นจากประสบการณ์ตรงของคนไทยที่ได้ไปสัมผัสมา

แต่ท่ามกลางความจนก็ยังมีความจริงอีกด้านหนึ่งที่คนไทยส่วนใหญ่อาจจะยังไม่เคยทราบว่า อินเดียก็มีเศรษฐีอยู่จำนวนไม่น้อยเหมือนกันโดยคนกลุ่มนี้ถูกเรียกว่า HIG หรือ High Income Group ซึ่งก็คือกลุ่มผู้มีรายได้สูงนั่นเอง กลุ่มคนอินเดียเศรษฐีเหล่านี้มีวีรกรรมในการจับจ่ายใช้สอยที่เราคาดไม่ถึง เรียกว่ารูปแบบ ลีลาและระดับการใช้จ่ายเงินของเศรษฐีภารตะเหล่านี้ฟุ่มเฟือยชนิดที่เศรษฐีบ้านเรายังไม่กล้าทำเลยทีเดียว อย่างบ้านที่แพงที่สุดในโลกในปัจจุบันนี้ที่มีราคากว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.6 หมื่นล้านบาทก็เป็นของนายมูเกช อัมบานี เจ้าของกลุ่มบริษัท Reliance มหาเศรษฐีชาวภารตะที่มุมไบ ในรัฐมหาราษฏระทางฝั่งตะวันตกของประเทศ หรืออย่างงานแต่งงานของวาณิชชา มิตตาล บุตรสาวของนายลักษมี นิวาส มิตตาล เจ้าพ่อวงการค้าเหล็กของโลกชาวอินเดียที่มีกิจการอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

กับอมิต บาเตีย นายธนาคารจากกรุงนิวเดลี ก็ถึงกับเช่าพระราชวังแวร์ซายส์อันเลื่องชื่อของฝรั่งเศส เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการจัดงานเฉลิมฉลองงานวิวาห์เป็นเวลา 6 วัน เรียกว่าถึงขั้นเหมาพระราชวังแวร์ซายส์มาจัดงานกันเลยทีเดียว โดยมีค่าใช้จ่ายในการจัดงานทั้งสิ้นเป็นเงิน 55 ล้านดอลลาร์ หรือ 1,988 ล้านบาท อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างของการใช้จ่ายเงินของบรรดามหาเศรษฐีจากแดนภารตะที่คนไทย เราคาดไม่ถึงเท่านั้นจริงๆยังมีตัวอย่างวีรกรรมการใช้จ่ายเงินของบรรดามหาเศรษฐีเหล่านี้อีกมาก

ภาพของเศรษฐีจากแดนภารตะกลุ่ม HIG นี้จะจับจ่ายใช้สอยกันสนุกมือ และคนกลุ่มนี้นี่เองที่ทำให้ตลาดเศรษฐีของอินเดียเติบโตแบบรั้งไม่อยู่จริงๆ จากการสำรวจของสมาคมหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งอินเดียหรือ ASSOCHAM พบว่าตลาดเศรษฐีที่จับจ่ายใช้สอยสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือยในอินเดียคาดว่าจะมีมูลค่าทะลุ 18.3 พันล้านดอลลาร์ หรือ 6.6 แสนล้านบาทภายในสิ้นปี 2016 เพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันซึ่งมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 14.7 พันล้านดอลลาร์ หรือ 5.3 แสนล้านบาท ถึง 25% เลยทีเดียว อันนี้ ASSOCHAM ระบุในรายงานการศึกษาว่าเป็นผลมาจากการที่คนอินเดียมีรายได้ที่จับจ่ายใช้สอยได้เพิ่มขึ้น ในขณะที่เศรษฐีตามเมืองรอง (เมือง Tier II และเมือง Tier III) ก็มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญรวมถึงมีการเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ทได้มากขึ้นและการที่เยาวชนคนรุ่นใหม่ของอินเดียที่เป็นกุมารา/กุมารีเศรษฐีทั้งหลายหันมาสนใจสินค้าแบรนด์เนมแพงๆ มากขึ้น

จากการศึกษาของ ASSOCHAM ยังพบอีกว่าสินค้าและบริการที่เติบโตอย่างมากสำหรับตลาดเศรษฐีอินเดียในปี 2015 ก็คือ บริการโรงแรม 5 ดาว ภัตตาคารหรู อุปกรณ์เสริมอิเลคทรอนิกส์ สินค้าที่ใช้เพื่อดูแลตัวเอง และเครื่องประดับ ซึ่งสินค้าและบริการในกลุ่มนี้คาดว่าจะมีการเติบโต 30-35% ในอีก 3 ปีข้างหน้า

ASSOCHAM คาดว่าเศรษฐีอินเดียกลุ่ม HIG นี้จะยังคงขยายจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและจะเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญที่จะทำให้ตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยราคาแพงเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยยังพบว่าเศรษฐีอินเดียกลุ่ม HIG นี้เป็นกลุ่มลูกค้าชั้นดีที่ใช้จ่ายแบบมือหนัก โดยจะจับจ่ายใช้สอยสำหรับสินค้าแบรนด์เนมราคาแพงระดับโลกเป็นสัดส่วนถึง 40% ของรายได้ประจำเดือนของตนเลยทีเดียว เทียบกับลูกค้ากลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง ที่เรียกว่า MIG หรือ Middle Income Group ซึ่งจะจับจ่ายใช้สอยสำหรับสินค้าแบรนด์เนมราคาแพงในสัดส่วนเพียง 8-10% ของรายได้ประจำเดือนเท่านั้น

เศรษฐีอินเดียกลุ่ม HIG นี้จะยังคงมีพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยที่ฟุ่มเฟือย ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร เพราะเศรษฐีกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับวิถีชีวิตแบบหรูหราอย่างสุดโต่ง ประมาณว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนกลุ่มนี้ก็จะต้องดูดีมีสกุลอยู่เสมอ โดยที่จะไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงพวกเขาได้

สำหรับสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือยที่เศรษฐีอินเดียกลุ่ม HIG นิยมจับจ่ายใช้สอยกัน ได้แก่ เสื้อผ้าและเครื่องประดับ ปากกาแพงๆ ของตกแต่งบ้าน นาฬิกา ไวน์และสุรา รวมทั้งเครื่องประดับ ส่วนบริการหรูหราได้แก่ สปา การท่องเที่ยว ภัตตาคารหรู และโรงแรม 5 ดาว ส่วนสินทรัพย์ที่เศรษฐีอินเดียเหล่านี้นิยมสะสมได้แก่ เรือยอชท์ งานศิลปะ และรถยนต์หรู สำหรับสินค้าที่โดดเด่นเป็นอย่างมากคือ ไวน์แบรนด์เนมดังๆ ที่มีอัตราการขยายตัวสูงถึงกว่า 30% โดยจะเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในบรรดาเศรษฐีอินเดียในเมืองใหญ่

แต่ที่น่าสนใจก็คือ เศรษฐีอินเดียกลุ่ม HIG จากกรุงเดลี เป็นกลุ่มที่จับจ่ายใช้สอยในสินค้าแบรนด์เนมหรูมากเป็นอันดับ 1 รองลงมาคือ เศรษฐีจากมุมไบ อาห์เมดาบาด ปูเน่ และเบงกาลูรูหรือบังกาลอร์ ตามลำดับ

สำหรับเศรษฐีนีชาวอินเดียจะนิยมเลือกซื้อสินค้าประเภทเครื่องสำอาง น้ำหอม ผลิตภัณฑ์สปา เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และเครื่องประดับ ส่วนเศรษฐีชายชาวอินเดียจะนิยมซื้อสินค้าที่เกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นาฬิกา และรถยนต์หรู นอกจากนั้น ยังมีผลการศึกษาที่น่าสนใจอีกว่าเศรษฐีชาวอินเดียเหล่านี้ส่วนใหญ่จะนิยมซื้อสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือยประเภทเครื่องสำอาง นาฬิกา กระเป่า และน้ำหอม ในขณะที่เดินทางไปต่างประเทศ ราว 85% ของเศรษฐีเหล่านี้จะแสวงหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าแบรนด์เนมหรูหราทางอินเทอร์เน็ทอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง

อ่านบทความนี้จบ ผมหวังว่าท่านผู้อ่านคงจะรู้จักและยอมรับเศรษฐีอินเดียกันมากขึ้นและคงจะมีทัศนคติต่อคนอินเดียดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นมานะครับ...โอกาสสำหรับประเทศไทยอยู่ใกล้ๆ แค่นี้เองไม่ต้องกระเสือกกระสนกันไปไกลถึงยุโรป-อเมริกาหรอกครับ