ทรัมป์โดนขู่ฆ่า..กับเหตุการณ์โลกในวันอิสเตอร์

ทรัมป์โดนขู่ฆ่า..กับเหตุการณ์โลกในวันอิสเตอร์

มีมือดีเอาแท่นหินฝังศพสลักชื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ไปวางที่เซ็นทรัลปาร์ค เมืองนิวยอร์คในวันอิสเตอร์ หรือวันอาทิตย์

(27 มีนาคม) ที่ผ่านมา

บนแท่นหิน มีการสลักแต่ปีชาตะ 1946 แต่ไม่มีการสลักปีมรณะ แต่มีการสลักข้อความบนแท่นหินฝังศพ “ให้อเมริกาเกลียดกันใหม่” (Make America Hate Again) ที่ล้อเลียนสโลแกนทางการเมืองของทรัมป์ที่ว่า ให้อเมริกายิ่งใหญ่ใหม่ (Make America Great Again)

ขู่ให้ทรัมป์เสียวเล่นๆ เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องล้อเล่น เพราะว่ามีคนอเมริกันกลัวมากขึ้นว่า ทรัมป์อาจจะโดนลอบฆ่า

ทรัมป์ถูกขู่ฆ่า เพราะว่าเขามีโอกาสชนะเป็นตัวแทนของพรรครีพับลิกัน เพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐ ที่สำคัญเขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพวกอิลิทที่อยู่เบื้องหลังการการเมืองสหรัฐในเวลานี้

นิวท์ กิงริช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรครีพับลิกัน พูดชัดเจนในการให้สัมภาษณ์กับ Fox News เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ผู้ทรงอิทธิพลและบารมีของพรรครีพับลิกันกำลังระส่ำระสาย เพราะว่าทรัมป์มีโอกาสเป็นตัวแทนของพรรคเพื่อชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ เนื่องจากว่า “ทรัมป์เป็นคนนอก เขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอิทธิพลที่คุมพรรค ไม่มีใครคุมเขาได้ เขายังไม่เคยเข้าพิธีกรรมสาบานตน เขาไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคมลับ”

ปัญหาของทรัมป์อยู่ตรงนี้เองที่เขาไม่เป็นที่ยอมรับของผู้มีอิทธิพลของพรรครีพับลิกัน เพราะว่าเขาไม่เคยเข้าพิธีสาบานเพื่อเป็นสมาชิกของสมาคมลับ คำพูดของกิงริชสะท้อนให้เห็นว่าพรรครีพับลิกันมีสมาคมลับอยู่เบื้องหลังบทบาททางการเมือง

เล่นเปิดเผยกันโต้งๆ อย่างนี้เลยนะ

ที่ประเทศเม็กซิโก ในวันเทศกาลอีสเตอร์มีการเผาหุ่นทรัมป์เป็นการสาปแช่ง การเผาหุ่นทรัมป์เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมในช่วงสัปดาห์ที่ศักดิ์ของชาวเม็กซิโก โดยที่ชาวเม็กซิกันจะมีการเผาหุ่นของผู้ที่เปรียบเสมือนจูดาส์ ผู้ทรยศต่อพระเยซู โดยนักการเมืองที่ประชาชนไม่ชอบจะโดนเผาหุ่น แต่ปีนี้มีการเผาหุ่นทรัมป์ เนื่องจากคนเม็กซิกันเกลียดทรัมป์ เป็นเพราะว่าเขาหาเสียงด้วยนโยบายไม่เอาเม็กซิโก ทรัมป์บอกว่า ถ้าเขาเป็นประธานาธิบดี เขาจะให้มีการสร้างกำแพงกันเขตระหว่างอเมริกาและเม็กซิโก เพื่อสกัดผู้อพยพลี้ภัยที่ผิดกฎหมาย และตัดเส้นทางลำเลียงยาเสพติด โดยทรัมป์บอกว่ารัฐบาลเม็กซิกันต้องจ่ายค่าสร้างกำแพงอีกด้วย

ประธานาธิบดี Enrique Pena Nieto ของเม็กซิโก ตอบโต้ว่าถ้าทรัมป์จะสร้างกำแพงก็สร้างไป แต่เม็กซิโกจะไม่ออกเงิน เขาเปรียบเทียบทรัมป์เหมือนฮิตเลอร์ หรือมุสโสลินี

นอกจากนี้ หนึ่งในนโยบายหลักของทรัมป์ที่จะปกป้องแรงงานและอุตสาหกรรมอเมริกัน คือจะเก็บภาษีขาเข้าของสินค้าจากเม็กซิโก 35% และจากจีน 45%

Ross Douthat คอลัมนิสต์ของ The New York Times เขียนทวิตเตอร์ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ว่า การลอบสังหารจะเป็นวิธีการเดียวที่จะหยุดการหาเสียงเพื่อชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ได้ หลังจากนั้นเขาออกมาเขียนขอโทษและลบทวิตเตอร์ออกไป

จะเห็นได้ว่า การเมืองอเมริกันเริ่มรุนแรง ออกนอกลู่นอกทาง พรรครีพับลิกันกำลังทำทุกอย่างเพื่อสกัดไม่ให้ทรัมป์ชนะในช่วงการเลือกตั้งเบื้องต้น โดยขู่ว่าถ้าทรัมป์ไม่ได้คะแนนตัวแทน 1,237 เสียงตามกฎข้อบังคับของพรรค ทางพรรคจะให้ตัวแทนโหวตให้ผู้สมัครคนอื่นเป็นตัวแทนพรรคในการชิงชัยเลือกตั้งประธานาธิบดีแทน

ทรัมป์ขู่กลับว่า ถ้าเล่นอย่างนั้น ได้เห็นจลาจลแน่ๆ

ส่วนในอีกมุมหนึ่งของโลก เกิดการเคลื่อนไหวรุนแรงของกลุ่มก่อการร้ายในวันอีสเตอร์วันเดียวกัน จากเหตุก่อการร้ายระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีชาวคริสต์ที่เมืองลาฮอร์ทางภาคตะวันออกของปากีสถาน ทำให้ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 69 ราย โดยกลุ่มติดอาวุธเครือข่ายตอลิบานที่เคยประกาศตัวร่วมมือกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบแล้ว มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุระเบิดใกล้สวนสาธารณะในเมืองลาฮอร์ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็กที่ออกมาพักผ่อนหย่อนใจในช่วงเทศกาลอีสเตอร์

และในวันเดียวกันนี้ กองทัพของรัฐบาลซีเรียก็สามารถยึดเมือง Palmyra คืนจากที่ถูกกลุ่มไอซิสยึดไปเมื่อ 10 เดือนก่อนหน้านี้ ถือว่าเป็นชัยชนะที่สำคัญต่อพวกก่อการร้าย