‘เอ็นพีแอล’ แบงก์จีน ระเบิดเวลาเศรษฐกิจโลก

‘เอ็นพีแอล’ แบงก์จีน ระเบิดเวลาเศรษฐกิจโลก

การชะลอตัวของเศรษฐกิจ “จีน” อยู่ในความ “กังวล”

 ของ ชาวโลก มาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ดูจะมี เรื่องใหม่ เพิ่มเข้ามา นั่นคือ ความกังวลที่มีต่อปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพ หรือ เอ็นพีแอล ของสถาบันการเงินในจีน

เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2559 คณะกรรมการกำกับดูแลภาคธนาคารจีน รายงานตัวเลข เอ็นพีแอล ณ สิ้นปี 2558 ของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบในจีนออกมาที่ 1.67% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.25%

แม้สัดส่วนเอ็นพีแอลต่อสินเชื่อรวมที่ออกมา 1.67% ดูเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างต่ำ แต่ถ้า คิด จากมูลค่าที่เพิ่มขึ้น พบว่า เพิ่มขึ้นถึง 51% เป็นระดับการเพิ่มขึ้นมากสุดในรอบ 10 ปี ขณะเดียวกันยังมี หนี้ที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษ หรือ Special Mentioned Loan อีกกว่า 4.2 ล้านล้านหยวน คิดเป็นสัดส่วนราว 6% เมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจจีน นับว่าเป็นตัวเลขที่สูงไม่น้อย

ความจริงแล้วประเด็นเรื่อง เอ็นพีแอล ใน จีน ที่ตลาดให้ความกังวล ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพร์สนัก เพราะเริ่มมีการเตือนกันมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว

ในประเทศไทยจำได้ว่า ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ประธานกรรมการบริหาร สถาบันอนาคตไทยศึกษา หนึ่งในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เป็นคนแรกๆ ที่ออกมาเตือนในเรื่องนี้ ..ผมยังหยิบเอาคำพูดของ ดร.เศรษฐพุฒิ มาเขียนบทความลงในชื่อตอน ตั้งสติ..รับมือเศรษฐกิจจีน!

ดร.เศรษฐพุฒิ บอกว่า เขามี มุมมองเชิงลบ ต่อ เศรษฐกิจจีน มาโดยตลอด สาเหตุสำคัญเพราะ สินเชื่อ ในจีนโตเร็วมาก โดยช่วง 6 ปีที่ผ่านมา สินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ของจีนโตจาก 150% ของจีดีพี เป็น 240% ของจีดีพี ..เรียกว่าโตเร็วสุดในประวัติศาสตร์เลย

สิ่งที่ ดร.เศรษฐพุฒิ ห่วงคือ จากประสบการณ์ในอดีตของทุกประเทศที่สินเชื่อโตเร็ว ประเด็นที่มักตามมาหลังจากนั้นไม่นาน คือ ปัญหา “เอ็นพีแอล” ถ้าคุมไม่อยู่ อาจลุกลามกลายเป็นวิกฤติเศรษฐกิจได้

..ดังนั้นประเด็นที่ตลาดให้ความกังวลขณะนี้ จึงไม่ใช่เรื่องที่เซอร์ไพร์สมากนัก แต่สิ่งที่น่า ประหลาดใจมากกว่า คือ ตัวเลขสินเชื่อใหม่ของจีนที่ยังคง พุ่งแรงต่อเนื่อง

สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางจีนรายงานตัวเลขสินเชื่อปล่อยใหม่ ของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบในจีนเดือนม.ค.2559 ออกมาที่ 2.51 ล้านล้านหยวน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้อย่างมาก และยังเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเมื่อเทียบกับเดือนธ.ค.2558 ซึ่งมียอดสินเชื่อปล่อยใหม่ราว 5.9 แสนล้านหยวน

มีรายงานว่าสินเชื่อปล่อยใหม่เดือนม.ค.2559 ที่เพิ่มขึ้นร้อนแรง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยเรื่องฤดูกาล เพราะโดยปกติแล้วช่วงต้นปีมักเป็นช่วงที่มีการกู้ยืมเงินกันมาก ขณะเดียวกันยังเป็นความพยายามของทางการจีนในการอัดฉีดเงินเพื่อหล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจ แต่ก็มีไม่น้อยที่ถูกกู้ยืมไปเพื่อการเคหะด้วย

ที่น่าคิด คือ สินเชื่อใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนหนึ่งอาจทำให้สัดส่วน “เอ็นพีแอล” ต่อสินเชื่อรวม “ปรับลดลง” มองผิวเผินจึงเป็นเรื่องดี แต่ถ้าวิเคราะห์กันจริงๆ แล้ว คงเป็นเพียงแค่ “ม่านบังตา” ทำให้คนส่วนใหญ่ละเลยต่อปัญหาดังกล่าวได้

ปัญหาหนี้สินในจีนจึง ไม่ต่างจาก ระเบิดเวลาที่รอวันปะทุ และนับวันระเบิดลูกนี้ดูจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หากมีประเด็นความเสี่ยงใดที่จุดชนวนขึ้นมา แล้วสถาบันการเงินไม่สามารถควบคุมคุณภาพสินเชื่อไว้ได้ ถึงเวลานั้นเชื่อว่าแรงสั่นสะเทือนคงดังไกลไปทั่วโลก!