เจอกันอีกที 15 ธันวาคม

เจอกันอีกที 15 ธันวาคม

ที่เจอกันนั้นไม่ได้เจอกับใครหรอกครับ แต่เป็นไปเจอกับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา(Fed)

ที่จะมีในครั้งต่อไปและเป็นครั้งสุดท้ายของปี 2558 นี้ การประชุมจะมี 2 วันเช่นเคย คือ 15 และ 16 ธ.ค. และน่าจะเป็นการประชุม Fed ครั้งที่สำคัญที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมาและจะมีอิทธิพลต่อตลาดการเงินของโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 


ในปีนี้ในส่วนของตัวผมเองการเขียนถึง Fed และกิจกรรม / การตัดสินใจของ Fed ผมน่าจะมีโอกาสเรียนท่านผู้อ่านมาไม่น้อยกว่า 4 ถึง 5 ครั้ง ผมเองนั้น ถ้าท่านผู้อ่านติดตามก็พอจะทราบว่ามีความหวังและความเชื่อว่า Fed และกิจกรรมของ Fed นี่แหละที่จะนำพาเศรษฐกิจของอเมริกาและของโลกด้วยออกจากภาวะชะลอตัวได้ ผ่านกลไกที่สำคัญที่สุดของธนาคารกลางคืออัตราดอกเบี้ย และก็ได้เคยเรียนท่านผู้อ่านมาก่อนหน้านี้แล้วว่า Fed น่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย Fed Fund ในการประชุมเดือนธันวาคม ที่จะถึงนี้

การวิเคราะห์ของผมเอง ผมก็”เดินตาม” ทางที่ Fed เดินตลอดกล่าวคือให้ความสำคัญกับเป้าหมายหลัก 2 เป้าหมายคือ การจ้างงานและเสถียรภาพของราคา(maximum employment and price stability) การ”เดินตาม” ดังกล่าวผมก็จะไปวิเคราะห์ในสิ่งที่ “Fed” “อยากบอก”กับสาธารณชนคือข้อความในการพบปะสื่อมวลชน(Federal Reserve Press Release) หรือที่เราเรียกกันโดยทั่วไปว่า Fed Statement ของการประชุมในแต่ละครั้ง และในครั้งที่ผ่านมาก็เช่นเดิม ผมก็มานั่งอ่านและตีความเอาว่า Fed อยากจะบอกอะไรต่อสาธารณชนในการเดินทางของ Fed เดี๋ยวก็จะนำมาเล่าสู่กันฟังนะครับ

ข้อแรก เมื่อเทียบกับเดือนก.ย.เศรษฐกิจขยายตัวในเกณฑ์ปานกลางถึงแม้ว่าตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยลง และอัตราเงินเฟ้อก็อยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมาย 2%ของ Fed อยู่ บ่งชี้ให้เห็นว่ามาจากราคาพลังงานที่ลดลง

ข้อสอง Fed ยังคงไว้ซึ่งเป้าหมายหลัก 2 อย่างคือ การจ้างงานและเสถียรภาพราคา Fed คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะ ”ค่อยๆ คลาน” ไปที่อัตราเป้าหมาย 2% ในระยะปานกลางเนื่องจากการกระเตื้องขึ้นของการว่างงาน

ข้อสาม ข้อนี้น่าจะสำคัญที่สุด และมีบางข้อความที่ไม่เคยปรากฏอยู่ใน Fed Statement ครั้งก่อนๆ ผมจะลองสรุปนะครับ Fed บอกว่าในการตัดสินใจว่าถึงเวลาที่เหมาะสมหรือยังในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า Fed จะประเมินสถานการณ์ทั้งที่เกิดขึ้นจริงและคาดว่าจะเกิดขึ้นกับเป้าหมายหลักทั้งสอง กล่าวคือ การจ้างงานสูงสุดและอัตราเงินเฟ้อที่ 2% Fed ยังบอกต่อไปว่า Fed คาดว่าจะเป็นการเหมาะสมที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากเห็นว่ามีการปรับปรุงที่ดีขึ้นของตลาดแรงงาน และมีความมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับไปที่เป้าหมาย 2% ในระยะเวลาต่อไป

สำหรับข้อนี้ให้ผมแปลไทยเป็นไทยคือ ฉันจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถ้าตัวเลขการจ้างงานดีขึ้น และก็จะเกิดขึ้นในการประชุมครั้งหน้าด้วย ดังนั้น ท่านผู้อ่านคงต้องติดตามดูว่าตัวเลขการจ้างงานของอเมริกานั้นจะเป็นอย่างไร และคงต้องดูประกอบกันด้วยระหว่างการจ้างงานนอกภาคเกษตร(Non Farm Payrell) และการเรียกร้องค่าชดเชยการว่างงาน
(Jobless Claims) ส่วนตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) คงจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก และก็ไม่ได้เป็นภัยคุกคามแต่อย่างใด เราคงต้องเตรียมตัวนะครับ และจะต้องเตรียมตัวอย่างไร ผมมีข้อแนะนำดังนี้

1.) จากช่วงนี้ถึงก่อนวันประชุม มีความเป็นไปได้ที่สูงมากที่เราจะเห็นตลาดมีความผันผวน ขึ้นวัน ลงวัน ตามข่าวลือ ตัวเลขทางเศรษฐกิจ โดยมีแนวโน้มเอียงไปทางด้านขาลงเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะตลาดทุนหุ้นตอนนี้คงจะต้องโดนทุบลงไปอีกพอควร ทางด้านอัตราแลกเปลี่ยนถึงแม้ว่าผมจะมองดูดอลลาร์มีค่าสูงขึ้นในระยะเวลาต่อไป ในช่วงที่ว่านี้ก็คงจะมีความผันผวนเช่นเดียวกัน

2.) ผมจึงต้องขอแนะนำเหมือนที่ได้เรียนไว้ในเดือนที่แล้วว่า ถือเงินสดน่าจะดีที่สุด (Cash is King) ทั้งนี้ไม่ว่าจะพิจารณาในแง่การลดลงของมูลค่า(แน่นอนย่อมดีกว่าหุ้น) หรือเป็นการเตรียม”กระสุน” ไว้ให้พร้อมสำหรับเก็บเกี่ยวเอาสินทรัพย์ทางการเงินที่มีมูลค่าลดลงมาจนเป็นที่น่าพอใจ

3.) เมื่ออัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้น จึงมีความจำเป็นที่ท่านที่มีภาระจ่ายดอกเบี้ยคงต้องเข้าไป”hedge” เอาไว้บ้างนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านที่มีเงินกู้ระยะยาวไม่ว่าจะเป็นเงินสกุลอะไร แน่นอนล่ะว่าต้องเริ่มต้นที่ดอลลาร์สหรัฐ ดอกเบี้ยเงินสกุลอื่นๆ อาจจะรอได้สักระยะหนึ่ง

4.) ผมก็ยังเชื่ออยู่ว่า เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวเมื่ออเมริกาเริ่มขยับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหมายถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิเช่นน้ำมันก็จะขยับตาม ดังนั้นในปี 2559 น่าจะเป็นการเริ่มต้นของหลายสิ่งหลายอย่างที่ทุกคนรอคอย คือการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจ ผมจึงไม่แปลกใจเลยที่อัตราดอกเบี้ยอเมริกาจะขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ทั้งหลายทั้งปวงเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ     โปรดใช้วิจารณญาณด้วยครับ