เตือนภัย ใจต้องมั่นคง

เตือนภัย ใจต้องมั่นคง

ความใหญ่โตของตลาดหุ้นไทย ที่มีมูลค่าโตมากกว่า GDP ของประเทศ จึงมีผู้คนที่เกี่ยงข้อง ทั้งที่เป็นองค์กร เป็นบริษัท

 และเป็นบุคคลมากมาย แต่ละภาคส่วนจึงต้องมีมุม มีมิติของตนเองเป็นที่ตั้ง นี่เป็นมูลเหตุให้หน่วยงานหลัก อย่างตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ ก.ล.ต. รวมเลยไปถึงระดับสากล มีแนวทางการมองแบบสมดุล ของทุกส่วนที่ต้องมาเกี่ยวข้องกัน ที่เรียกว่าต้องมีธรรมาภิบาล กับทุกคน ทุกองค์กร หรือทุก Stakeholders เป็นการคิดถึงเพื่อนๆ ว่า การกระทำของเราไปทำให้ใครมีผลกระทบหรือเดือดร้อนหรือไม่ หรือเกิดอาการเห็นแก่ตัวหรือไม่ คิดดี ทำดี ซื่อสัตย์ ไม่คดโกง แม้คนอื่นๆ ไม่เห็น แต่ตัวเราเองรู้ดี ตรงเป๊ะ…โดนใจกับกระแสการต่อต้านคอร์รัปชัน

การเริ่มต้นของทุกเรื่อง ต้องเริ่มที่ตัวเอง นักลงทุนเป็นส่วนประกอบหนึ่งของตลาดหุ้นไทย จากสถิติพบกันอยู่แล้วว่า นักลงทุนบุคคล มีสัดส่วน ราว 55-60% ของมูลค่าการซื้อขาย และนับวันจะมีนักลงทุนเพิ่มปริมาณขึ้น

เมื่อเดินเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น พวกเขาใช้อะไรมาเป็นตัวตัดสินใจ ในการเลือกซื้อหุ้นทั้งกว่า 600 ตัว บนกระดานล่ะ…

มีสถิติแบบไม่เป็นทางการ แต่เป็นสัมพันธภาพส่วนบุคคล พบว่าสิ่งแรกที่พวกเขาทำคือ ถามเพื่อน ถามคนสนิท ที่อาจจะคาบเกี่ยวอยู่ในองค์กรของตลาดทุนไทย เช่น อยากลงทุน จะทำอย่างไรดี ซื้อหุ้นตัวไหนดี และอีกมากมายจะตามมา เมื่อบทสนทนาเริ่มต้นขึ้น

หลังจากกลายเป็นนักลงทุนเต็มตัวแล้ว พบสถิติรายวัน รายการลงทุน มีข้อมูลที่น่าสนใจว่า พวกเขารับข้อมูลจากแหล่งใดบ้างกันล่ะ ลองตามไปดูกันหน่อยไหม…

โบรกเกอร์ มีบริการให้ลูกค้า ในหลายรูปแบบ อาทิ บทวิเคราะห์ รายกลุ่ม รายบริษัท ผ่านช่องทางสื่อสารที่ทันสมัย ยุคนี้ จะเป็น “ไลน์” รายวัน อาจใช้กลยุทธ์ ฟังง่าย ฟังเร็ว ทุกเช้า ส่งมากันแล้ว หุ้น XYZ ซื้อเลย X บาท ขาย Y บาท

ข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นข่าวที่เป็นทางการ ตามข้อกำหนดให้ ที่ต้องส่งข่าว ว่าบริษัทนั้นๆ มีข่าว หรือมีความเปลี่ยนแปลงเรื่องใดบ้าง และถือว่าเป็นข่าวที่เป็นทางการ อ้างอิงได้

ข่าวหรือข้อมูลจากสื่อมวลชน เป็นการอ่าน ติดตามข่าว จากหน้าสื่อทุกฉบับ หรืออาจเป็นฉบับที่เกี่ยวข้อง

ข่าวจากกลุ่มนักลงทุน ด้วยกัน พบว่ามีการจับกลุ่มกันมากมายหลายกลุ่ม ตั้งชื่อกิ๊บเก๋พวกเขาแลกเปลี่ยนข้อมูลกันบ่อยๆ

และยังมีหลายฐานข้อมูล และหลายช่องทางในการแสวงหาข้อมูล ให้มาเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจลงทุน ฟังดูเป็นเรื่องซับซ้อน ยากเย็น ต่อการทำความเข้าใจ แต่หากใส่ใจ ตั้งใจ เข้าใจก็ไม่ยาก ไม่ต่างกับการประกอบสัมมาชีพ ที่ต้องลงลึกกับรายละเอียดและกลายเป็นทักษะ ในการทำงานได้ในเวลาต่อมา

การเลือกลงทุน รู้กันว่า เลือกได้ทั้งซื้อ-ขายหุ้น หรือกองทุนรวม หรือตราสารหนี้ และยังมีสินค้าทางการเงินใหม่ๆ ออกมาอยู่เสมอ

พูดถึงเรื่องกองทุนรวม ยุคหนึ่งยอดนิยม ยุคนี้ก็ยังได้รับความนิยม โดยมีการปรับโหมดอารมณ์ให้เข้ากับความรวดเร็วของยุคดิจิทัล ที่ไม่ต้องรอนาน กองทุนรวมเขาก็มีการปรับให้ถูกใจ เรื่องว่าท้าชกกันซึ่งหน้า ในเวลาไม่ถึงปี เรียกว่า รวยเร็ว ท้าทายฝีมือผู้จัดการกองทุน กองทุนรวมประเภทนี้ คือ Trigger Fund เชื่อว่านักลงทุนหลายคน น่าจะเคยมีประสบการณ์ ซื้อ-ขาย กันมาบ้างแล้วนะคะ

พบว่า 8 เดือนแรกของปี 2558 มี Trigger Fund ออกมาขายระดมทุนได้ ราว 37,000 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายของกองทุนว่า เมื่อถึงเป้าหมายแล้ว เป็นอันเลิกกองทุน เร็วโดนใจดีแท้ แบบนี้ (ใจ) วัยรุ่น ชอบ รู้รวย รู้จนกันไปเลย เป็นความเชื่อมั่นของนักลงทุน ที่มอบให้ผู้จัดการกองทุนลงมือแทน และลุ้นกันเห็นๆ เหมือนเชียร์มวยอยู่ขอบสนามตลาดหุ้นในยามหุ้นขึ้น หุ้นลง

เรื่องนี้ ทาง ก.ล.ต.เป็นห่วง ข้อความที่ใช้โฆษณา ประชาสัมพันธ์ เพราะเป็นการจูงใจที่อาจสร้างความหวัง ที่อาจต้องเผื่อใจเรื่องความเสี่ยงไว้ด้วย เพราะ อะไร อะไร ย่อมเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ในโลกใบนี้ ท่านใดที่ตัดสินในการร่วมหัวจมท้ายกับกองทุนประเภทนี้ ต้องอ่านข้อมูลให้เข้าใจให้ดีก่อน

เห็นไหมคะว่า สุดท้ายมาอยู่ที่ตัวตนของนักลงทุนเองทั้งสิ้น การตัดสินใจ การออร์เดอร์ซื้อ-ขาย การจ่ายเงิน การรับเงิน การกำไร การขาดทุน มีใครบังคับท่านไหม…หุ้นอภินิหาร รวยฟ้าฝ่า ที่พานักลงทุนขึ้นดอย คอยความหวัง ก็ล้วนอยู่ในกระบวนการตัดสินใจนี้ด้วย

คาถาที่เป็นอมตะ นิรันดร สอนใจกันมานักต่อนัก คือ ข้อมูลในสากลโลกที่มีมากมาย นักลงทุนควร... อ่านด้วยตา บัญชาด้วยสมอง กรองที่ใจ...

ก่อนบรรทัดสุดท้าย สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เปิดอบรม ”อาสาพิทักษ์สิทธิผู้ถือหุ้น” รุ่นที่ 20 วันที่ 9-10 ตุลาคม นี้ เชิญมาหาความรู้กันได้ โทร 0-2359-1196