ว่าด้วยเรื่องเมืองสุราตกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ว่าด้วยเรื่องเมืองสุราตกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ไม่น่าเชื่อนะครับท่านผู้อ่านว่า ประเทศอินเดียซึ่งอยู่ห่างไกลจากประเทศไทยจะมีเมืองชื่อ “สุราต” เหมือนกับจังหวัด “สุราษฎร์ธานี” ของเราเลย

แถมแม่น้ำสายหลักในเมืองสุราตของอินเดีย ก็ยังมีชื่อว่า “แม่น้ำตาปี” ชื่อเดียวกับแม่น้ำสายหลักของจังหวัดสุราษฎร์ธานีของเราอีกต่างหาก อะไรจะมาบังเอิญได้ขนาดนั้น

ก็ขอเรียนท่านผู้อ่านว่า เรื่องชื่อเมืองและชื่อแม่น้ำสายหลักที่เหมือนกันนี้ ไม่ใช่ความบังเอิญหรอกครับ แต่ที่เป็นความบังเอิญก็คือ ผมไปค้นพบความสัมพันธ์ของชื่อเมือง และชื่อแม่น้ำของอินเดียกับของไทยนี้เข้าโดยบังเอิญต่างหาก ซึ่งสำหรับผมแล้วถือว่าเป็นการค้นพบที่สำคัญทีเดียว

เรื่องของเรื่องก็คือ ตอนที่ผมออกไปประจำการในฐานะทูตพาณิชย์ไทยประจำเมืองมุมไบ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐมหาราษฏระทางฝั่งตะวันตกของอินเดีย เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2554 และทันทีที่ตั้งหลักได้ ผมก็เริ่มออกลุยไปปฏิบัติงานในพื้นที่เขตดูแลทันที เพื่อแสวงหาโอกาสสำหรับประเทศไทย และสร้างความสัมพันธ์กับนักธุรกิจในพื้นที่ โดยผมเลือกเดินทางไปเมืองสุราต ในรัฐคุชราต ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองมุมไบ ต้องขับรถไปประมาณ 5 ชั่วโมง ทั้งๆ ที่ระยะทางก็ไม่ได้ไกลมาก แต่คุณภาพถนนในรัฐมหาราษฏระ และคุณภาพของคนขับรถบนท้องถนนที่อินเดีย นี่มันเหลือรับจริงๆ ครับ เลยทำให้ต้องใช้เวลามากเกินความจำเป็น

สาเหตุสำคัญที่ผมเลือกเดินทางไปเมืองสุราตเป็นเมืองแรก เพราะทราบมาว่าเป็นเมืองที่มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงมาก ประกอบกับหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งรัฐคุชราตใต้ (Southern Gujarat Chamber of Commerce and Industry) ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่เมืองสุราต เป็นหน่วยงานภาคเอกชนที่เข้มแข็งและกระตือรือร้นเป็นที่สุด ที่อยากจะทำธุรกิจกับต่างชาติรวมทั้งประเทศไทยด้วย ซึ่งในขณะนั้นผมรู้สึกแต่เพียงว่า ชื่อเมืองสุราตนี่คล้ายกับชื่อจังหวัดสุราษฎร์ธานีของไทย แต่ก็ไม่ได้คิดว่าสองเมืองนี้จะมีความสัมพันธ์กันแต่อย่างใด ก็อยู่คนละประเทศและห่างไกลกันซะขนาดนี้

หลังจากการเดินทางเยือนเมืองสุราตครั้งแรกไม่นาน ผมก็เดินทางไปราชการที่เมืองสุราตอีกครั้งและครั้งนี้ผมได้รับทราบจากคนในพื้นที่ว่า แม่น้ำสายใหญ่ที่อยู่ด้านหลังโรงแรมที่พักมีชื่อว่าแม่น้ำตาปี (Tapi หรือ Tapti) ทันทีที่ได้ยินชื่อแม่น้ำตาปี ผมก็หูผึ่ง และรู้สึกได้ทันทีว่า “เมืองสุราต” ของอินเดียกับ “จังหวัดสุราษฎร์ธานี” ของไทยน่าจะต้องมีความเกี่ยวข้องอะไรกันบ้างอย่างแน่นอน เพราะทั้งสองเมืองมีชื่อใกล้เคียงกัน แถมมีแม่น้ำสายหลักชื่อเดียวกันอีกต่างหาก

ด้วยความสงสัยและตื่นเต้น ผมก็เลยรีบเสาะหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ แล้วก็ได้คำตอบจากเวบไซต์ของจังหวัดสุราษฎร์ธานีว่า เมืองสุราตในรัฐคุชราตของอินเดีย มีความเกี่ยวพันกับชื่อจังหวัดสุราษฎร์ธานีของไทยจริงๆ โดยนาม “สุราษฎร์ธานี” และแม่น้ำ “ตาปี” นี้ ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2458 เนื่องจากสภาพของเมืองทั้งสองคล้ายคลึงกัน ประกอบกับทรงทราบว่า ชาวเมืองสุราษฎร์เป็นผู้มีคุณธรรม ยึดมั่นในหลักพระพุทธศาสนา สอดคล้องกับความหมายของสุราษฎร์ธานี

ทั้งนี้ เรื่องราวดังกล่าวได้มีการระบุไว้ในจดหมายเหตุระยะทางเสด็จพระราชดำเนินเลียบมณฑลปักษ์ใต้ พุทธศักราช 2458 ซึ่งถ้าได้มีโอกาสอ่านจดหมายเหตุฯ นี้ ก็น่าจะได้รับทราบข้อมูลที่ละเอียด และทราบที่ไปที่มาของชื่อเมืองและชื่อแม่น้ำมากกว่านี้ แต่ว่ายังไม่สามารถหามาอ่านได้เท่านั้น

เมื่อได้ทราบถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองเมือง ผมก็รีบนำเรื่องราวนี้ไปเขียนเป็นบทความในหนังสือพิมพ์ธุรกิจฉบับหนึ่งทันที ในเดือนมิถุนายน 2555 โดยผมเขียนปิดท้ายบทความนั้นไว้ว่า

“วันที่ 1 มกราคม 2558 เป็นวันที่อาเซียน 10 ประเทศ จะรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน...จังหวัดสุราษฎร์ธานีก็น่าจะใช้วันที่ 29 กรกฎาคม 2558 ในปีเดียวกัน เป็นวันครบรอบ 100 ปี ที่ได้รับพระราชทานนาม “สุราษฎร์ธานี” ตามชื่อเมืองสุราต และ “ตาปี” ตามชื่อแม่น้ำตาปีในเมืองสุราต สร้างกิจกรรมสถาปนาเมืองแฝด “สุราต-สุราษฎร์ธานี” เสียเลย...โอกาสอย่างนี้ไม่ได้หากันได้ง่ายๆ”

ที่เขียนไว้ว่าวันที่ 1 มกราคม 2558 เป็นวันที่ประเทศอาซียน 10 ประเทศ จะรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนั้น เนื่องจากในขณะนั้น อาเซียนยังไม่ได้ประกาศเลื่อนกำหนดการการรวมตัวกัน แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นในกอไผ่ จนกระทั่งในคราวประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลกที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2557 ด้วยวิสัยทัศน์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ) โครงการเมืองแฝด “สุราต-สุราษฎร์ธานี” จึงเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เป็นหัวหน้าคณะนำนักธุรกิจไทย เดินทางไปบุกตลาดอินเดียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2558 และทำให้เกิดมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ ที่จะร่วมมือกันระหว่างหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งรัฐคุชราตใต้ (Southern Gujarat Chamber of Commerce and Industry) จากเมืองสุราตกับหอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสถาปนาเมืองแฝดสุราต-สุราษฎร์ธานีขึ้น และที่สำคัญที่สุดก็คือ ท่านได้ผลักดันให้เกิดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี ในโอกาสที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับพระราชทานนาม “สุราษฎร์ธานี” ตามชื่อเมืองสุราต และ “ตาปี” ตามชื่อแม่น้ำตาปีในเมืองสุราต รัฐคุชราตของอินเดีย จากพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2458

งานเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีดังกล่าว จัดขึ้นโดยกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมืองสุราต รัฐคุชราตของอินเดีย และสถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย ภายใต้ชื่อSouthern International Trade Expo ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 23-26 กรกฎาคม 2558 ภายใต้งานดังกล่าวจะมีกิจกรรมต่างๆ ที่หลากหลาย โดยงานหลักๆ จะจัดอยู่ที่สุราษฎร์ธานีฮอลล์ เซ็นทรัลพลาซ่า สุราษฎร์ธานี ซึ่งจะมีทั้งงานแสดงสินค้าทั้งของไทยและอินเดีย ที่บินตรงมาจากเมืองสุราตของอินเดีย การท่องเที่ยว การแสดงทางวัฒนธรรมไทย-อินเดีย และนิทรรศการ นอกจากนั้น ยังมีการจัดสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับโอกาสของตลาดอินเดีย สำหรับผู้ประกอบการไทยอีกด้วย บอกตามตรงว่างานนี้จัดเต็มจริงๆ

งานนี้ชาวสุราษฎร์ธานีจะตื่นเต้นแค่ไหนยังไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ ชาวสุราตจากอินเดียตื่นเต้นกันมาก เพราะไม่เคยทราบมาก่อนว่า ชื่อเมืองและชื่อแม่น้ำของตนได้ถูกนำมาใช้ตั้งเป็นชื่อเมืองและชื่อแม่น้ำในประเทศไทย ก็เลยจะยกขบวนกันมาขนานใหญ่ เรียกว่าขนกันมาเป็นร้อยรายเลยทีเดียว ทั้งที่เป็นนักธุรกิจที่จะนำสินค้าเข้ามาร่วมจัดแสดงในงานแสดงสินค้า ผู้นำเข้าที่จะเดินทางมาร่วมงานเพื่อเจรจาธุรกิจ นายกเทศมนตรีเมืองสุราต และฝ่ายการเมืองของเมืองสุราต นำโดยประธานสาขาพรรค Bharatiya Janata Party(BJP) แห่งเมืองสุราต ซึ่งเฉพาะในกลุ่มหลังนี่ ก็จะมากันถึง 40 คนเลยครับ

และเนื่องจากงานนี้เป็นงานใหญ่ นอกจากอินเดียแล้ว กระทรวงพาณิชย์ยังเชิญผู้นำเข้าจากประเทศอื่นๆ ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย กลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง และประเทศในกลุ่มอาเซียน ให้เดินทางมาที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเจรจาธุรกิจในงานดังกล่าวรวมๆ แล้วกว่า 500 ราย รับรองว่าในช่วง 23-26 กรกฎาคมนี้ ชาวสุราษฎร์ธานีเตรียมตื่นเต้นคึกคักกับงานเฉลิมฉลองครบ 100 ปี ความสัมพันธ์ของเมืองสุราต-จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เลยครับ

บอกได้คำเดียวว่า งานนี้ชาวสุราษฎร์ธานีได้ไปเต็มๆ ครับ โดยเฉพาะในเรื่องการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว เพราะชาวสุราต จากรัฐคุชราต ถือเป็นกลุ่มเศรษฐีของอินเดีย เนื่องจากเมืองสุราตเป็นศูนย์กลางเจียระไนเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากสถิติล่าสุดพบว่า เพชรที่เจียระไนบนโลกนี้ ทุกๆ 15 เม็ด จะเจียระไนที่เมืองสุราตถึง 14 เม็ด จึงส่งผลให้รายได้ต่อหัวของประชากรเมืองสุราตสูงถึงกว่า 8,000 ดอลลาร์ ต่อคนต่อปีเลยทีเดียว ก็หวังว่าจังหวัดสุราษฎร์ธานีจะคว้าโอกาสทอง ที่กระทรวงพาณิชย์ได้เดลิเวอรี่มาให้ถึงที่ไว้ได้นะครับ

 ----------------

อดุลย์ โชตินิสากรณ์