เปิดมุมมอง เพื่อโอกาสการลงทุน

เปิดมุมมอง เพื่อโอกาสการลงทุน

สวัสดีค่ะ เผลอนิดเดียวก็ใกล้สิ้นปีกันแล้วนะคะ นับเป็นปีที่มีเหตุการณ์พลิกผันมากมายที่มาทดสอบตลาดเงิน ตลาดทุนในบ้านเราอย่างต่อเนื่อง

ไม่ว่าจะเป็นราคาหุ้นที่ขึ้นอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยในช่วงต้นปีและทรงตัวในครึ่งปีหลัง อัตราดอกเบี้ยที่ผันผวนจากมาตรการคิวอีของธนาคารกลางสหรัฐส่งผลต่อตลาดพันธบัตรและหุ้นทั่วโลก

อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐที่ทั้งแข็งค่าเกินไป แต่ไม่นานก็กลับอ่อนตัวลงจนอาจมากเกินไปหรือไม่ ราคาทองคำที่ดิ่งตัวลงรุนแรงในช่วงสงกรานต์ ราคาสินค้าเกษตรที่แผ่วลง ราคาน้ำมันที่เหมือนจะขึ้นแต่ก็ไม่รุนแรงทั้งๆที่เกิดภาวะความไม่สงบในตะวันออกกลาง

แต่เป็นที่น่าดีใจนะคะว่าเราก็ผ่านกันมาได้ค่อนข้างดีทีเดียว ดิฉันมีความเห็นว่าระดับการพัฒนาของตลาดไทยนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี โดยแสดงถึงการเติบโตที่สูงขึ้น ความแข็งแรงที่มากขึ้นโดยสามารถทนทานต่อสิ่งเร้าต่างๆ ได้ในระดับที่น่าพอใจ ความมีเหตุมีผลในการลงทุนมีมากขึ้น โดยเฉพาะภาวการณ์ในตลาดหุ้น

ทั้งผู้ลงทุนรายบุคคลและรายสถาบัน มีความสามารถสูงขึ้นในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกประเทศ และที่ต้องปรบมือให้ก็คือภาคการผลิตจริงในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย ดูได้จากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่แสดงศักยภาพการเจริญเติบโตของการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องในรอบหลายปีที่ผ่านมา และการขยายตัวของธุรกิจทั้งในประเทศและในภูมิภาค

แล้วท่านผู้อ่านได้ใช้ประโยชน์จากตลาดทุนไทยอย่างเต็มที่หรือยังคะ ในช่วงนี้น่าจะเป็นเวลาที่ดีที่จะขออนุญาตชักชวนทุกท่านลองมาสำรวจและประเมินโดยรวม ทั้งการทบทวนแผนการลงทุนในปีนี้ของตัวท่านเองว่า ได้มีการจัดการเรื่องลงทุนของเราอย่างไรกันบ้าง ได้บรรลุเป้าหมายกันอย่างไรบ้าง

ดิฉันเชื่อว่าหลายท่านได้ทำอยู่แล้ว แต่อาจจะในวิธีการที่ต่างกัน เช่นในช่วงสิ้นปีก็ไปอัพเดทสมุดเงินฝากที่ธนาคารเพื่อตรวจสอบยอดเงินสิ้นปี บางท่านอาจคำนวณผลตอบแทนของเงินลงทุนประเภทต่างๆ ที่ตนมี แต่ที่น่าสนใจคือการได้ใช้เวลาในการวิเคราะห์และตั้งเป้าหมายการลงทุน การประเมินความเป็นไปได้ของแผน และวิธีการบริหารเงินลงทุนของตัวเราเองอย่างน้อยทุกปีก็คงจะดีแน่ๆ

เป้าหมายการลงทุนนั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่มีเป้าหมายเดียวกันคือการแสวงหาผลตอบแทน แต่แตกต่างกันด้วยขนาดหรือจำนวนเงินที่ต้องการ ความถี่ในการได้รับผลตอบแทน เช่น ทุกเดือน ทุกปี และระยะเวลาที่ต้องการและสามารถลงทุน เช่น เพิ่งเริ่มทำงาน วัยกลางคน วัยใกล้เกษียณ รวมทั้งเงื่อนไขของเราเอง เช่น ความทนทานต่อการรับความเสี่ยง ความสามารถในการรับผลขาดทุนได้ในระดับใด การอดทนรอคอยในระดับใด

ทั้งนี้ คงต้องตระหนักว่า เป้าหมายการลงทุนนั้นควรพิจารณาในภาพที่เป็นระยะยาวไปจนตลอดช่วงอายุของตนเอง โดยการสำรวจตนเองในแต่ละปีนั้น เป็นการทบทวนและปรับเปลี่ยนเป้าหมายไปตามความเหมาะสม เพื่อให้เราประสบความสำเร็จในระยะยาว เช่น ท่านที่มีรายได้ประจำจากการทำงานในปัจจุบันไม่ต้องพึ่งพิงรายได้ในระหว่างปีเพื่อการใช้จ่ายประจำ ก็จะสามารถตั้งเป้าหมายการลงทุนระยะยาว โดยไม่ต้องกังวลถึงผลตอบแทนประจำปี และในกรณีที่มีระยะเวลาการลงทุนยาว ยิ่งทำให้มีความคล่องตัวในการเลือกประเภทเครื่องมือการลงทุนได้มากยิ่งขึ้น

การคำนวณเป้าหมาย น่าจะเป็นเรื่องที่เป็นทั้งวิกฤตและโอกาส โดยจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุด ที่เราจะต้องค้นหาและประเมินตนเองในเรื่องของความต้องการด้านค่าใช้จ่าย ในช่วงเวลาที่เรามีชีวิตในโลกใบนี้ และเราต้องเผื่อแผ่ให้กับครอบครัวทั้งสามี ภรรยา ลูก และพ่อแม่ หรือในกรณีครอบครัวใหญ่ที่มีญาติพี่น้อง เสมือนการทำบัญชีครัวเรือนระยะยาว ที่ต้องคาดการณ์ในอนาคตถึงความต้องการใช้จ่ายทั้งหมด

เมื่อประเมินด้านค่าใช้จ่าย ก็ต้องมีด้านรายรับ ซึ่งมาจากการประกอบสัมมาอาชีพของเรา ทั้งงานหลัก งานรอง โดยรายได้และรายจ่ายนั้นต้องสมดุลกัน การเกินดุลสามารถทำได้ ในลักษณะของการมีรายรับมากกว่ารายจ่าย แต่ถ้าเป็นไปในทางตรงข้ามก็จะต้องมีการสร้างหนี้สิน ทั้งนี้ การมีภาระหนี้ในช่วงต้นๆ ของชีวิต เป็นเรื่องปกติ เพราะยังมีเวลาที่จะหารายได้มาชำระหนี้เมื่อเราเติบใหญ่ขึ้น

ส่วนของเรื่องวิกฤตก็คือ หลังจากการประเมินเราอาจค้นพบความจริงว่ารายได้มักไม่เพียงพอกับความต้องการในการใช้จ่าย ดังนั้น รายรับจากการลงทุนจึงเป็นปัจจัยที่เราๆ ท่านๆ ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงในการใส่ใจดูแลอย่างจริงจัง

วิถีที่จะนำท่านไปสู่ความสำเร็จของการลงทุนนั้น ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ความชอบ และการลงทุนด้านเวลาในการเรียนรู้ของท่านเอง โดยในปัจจุบันนั้น การเผยแพร่ความรู้ การเปิดโอกาสในการเรียนรู้ การแนะนำเครื่องมือการลงทุนประเภทต่างๆ เป็นไปอย่างกว้างขวางและหลากรูปแบบ

สำหรับหน่วยงานในกลุ่มของตลาดหลักทรัพย์นั้น เราได้เริ่มตระหนักในการติดอาวุธทางปัญญาให้แก่ผู้ลงทุนและผู้สนใจทุกท่านมาเป็นเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูล ได้อย่างสะดวกและไม่มีค่าใช้จ่าย แต่เป็นเรื่องเวลาที่ท่านต้องลงทุนเอง เราจึงได้เห็นพัฒนาการที่เกิดขึ้นในทุกภาคส่วนของตลาดทุนไทย ไม่ว่าจะเป็นบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทจัดการกองทุน โบรกเกอร์อนุพันธ์ ธนาคาร บริษัทประกันภัย รวมถึงบุคลากรของบริษัทดังกล่าว ที่พร้อมให้คำแนะนำในการบริหารเงินลงทุนของท่าน

ดิฉันมีความเชื่อมั่นว่าตลาดทุนไทยเรานี้ มีความสามารถในการยกระดับการพัฒนาของตนเองได้แน่ๆ ด้วยพลังของบุคลากร สถาบันการเงิน บริษัทจดทะเบียน รวมทั้งผู้ลงทุนของเรา ทั้งนี้ สำหรับผู้ลงทุนมือใหม่และมือโปร ที่ต้องการสร้างความมั่งคั่งทางการเงิน ผ่านการลงทุนที่เหมาะกับตนเอง และเข้าถึงการลงทุนได้ในทุกช่องทาง

ขอเชิญร่วมชมงานมหกรรมการลงทุนครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี "SET in the City กรุงเทพมหานคร 2013" ภายใต้แนวคิด "เปิดมุมมอง เพื่อโอกาสการลงทุน" เต็มอิ่มกับสุดยอดสัมมนาเข้มตลอด 4 วัน จากกูรูมากที่สุดในเมืองไทย พบศักยภาพบริษัทจดทะเบียนชั้นนำ พร้อมรับคำปรึกษาด้านการบริหารพอร์ตลงทุนกับที่ปรึกษาการลงทุนกว่า 100 องค์กร ในวันพฤหัสบดีที่ 21-วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2556 เวลา 10.00 - 20.00 น. ณ รอยัลพารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.set.or.th/setinthecity หรือ Mobile Application "SETactivity"