สงคราม"ดาวต่างสี"

สงคราม"ดาวต่างสี"

เปลี่ยน พ.ศ.ใหม่ สงครามข่าวสารของ "ภาคประชาชนมีสี" ก็ยังไม่เปลี่ยนไปจาก พ.ศ.ที่แล้ว

สถานีทีวีดาวเทียมการเมือง ยังคงทำหน้าที่เป็น "เครื่องมือ" สื่อสารความคิดไปสู่มวลชน และกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกสภาของแต่ละองค์กร

สถานีทีวีดาวเทียม Asiaupdate มีการปรับเปลี่ยนผังรายการไปเมื่อตอนปลายปี หลังจาก ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ตีแสกหน้าบนเวทีการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ว่า ถ้าจอแดงยังขืนปล่อยให้มีรายการไร้สาระ และขายยาปลุกเซ็กซ์อยู่ รับรองว่าสู้จอฟ้าไม่ได้แน่

จากนั้นก็มีการกวาดบ้านกันยกใหญ่ รายบันเทิงลูกทุ่งขายยาสมุนไพร ถูกปรับออกไปอยู่ช่องอื่น แล้วก็นำรายการใหม่ๆ เข้ามาแทนที่ อาทิ รายการ "ประชาชน 3.0" โดย "หนูหริ่ง" สมบัติ งามบุญอนงค์ รายการ "อยากมีเรื่องให้คิด" โดย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

ส่วนรายการแม่เหล็กของช่องก็ยังอยู่ ทั้งรายการ "ชูธง" โดย จตุพร พรหมพันธุ์ , "เหลียวหลังแลหน้าเพื่อประชาธิปไตย" โดย ธิดา ถาวรเศรษฐ์ , "ดับเครื่องชน" โดย จิรายุ ห่วงทรัพย์-การุณ โหสกุล และ "รามสูร" โดย พายัพ ปั้นเกตุ กับ ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์

ตั้งแต่ต้นปีมานี้ จอแดงได้เสริมรายการเกี่ยวกับผลงานรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และรายการมองกรุงฯ โดย อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด อดีตรองโฆษกรัฐบาล เหมือนตั้งใจนำเสนอในช่วงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

มิหนำซ้ำ รายการต่างๆ ทางช่อง Asiaupdate ก็จะไปรีรันทางช่อง DNN (Asiaupdte Live) ซึ่งแต่เดิมช่องหลังมีภารกิจถ่ายทอดสดการชุมนุมหรือกิจกรรมของคนเสื้อแดง

ฝั่งจอฟ้าก็มาแรง เมื่อช่อง Bluesky เสริมคอนเทนท์ข่าว ด้วยรายการ "ร้อยข่าวยามเช้า" โดย อัญชะลี ไพรีรัก ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ แถมจะเพิ่มรอบเสาร์-อาทิตย์ "ร้อยข่าวสุดสัปดาห์" ในเร็ววันนี้

รายการใหม่ในเช้าวันอาทิตย์ ก็คือรายการ "ปิง วัง ยม น่าน" โดย ดร.เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ และสองหนุ่มเหนือ กับรายการ "ฟ้าบ่กั้น" โดย รัชฎาภรณ์ แก้วสนิท กับ ศุภชัย ศรีหล้า สองผู้แทนลูกอีสาน

ส่วนรายการเดิมอย่าง "ฟ้าวันใหม่กับอภิสิทธิ์" ก็แทบจะเป็นการแถลงข่าวประจำวันของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้ว หรือรายการ "สายล่อฟ้า" โดยสามเกลอ "ศิริโชค-เทพไท-ชวนนท์" ยังเป็นขวัญใจแม่ยก

ช่วงหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ทุกรายการข่าวของบลูสกาย เหล่า "พิธีกรชายหญิง" ก็ส่งเสียงเชียร์ "คุณชายหมู" ซึ่งพิธีกรทางฝั่งจอแดงก็ทำอย่างนี้เช่นกัน

ทุกเย็นวันเสาร์ ช่องบลูสกาย ได้ทำหน้าที่ถ่ายทอดสดเวทีความจริง ของพรรคประชาธิปัตย์จากจังหวัดต่างๆ ร่วมกับ "ช่องทีนิวส์" และ "ช่องนิววิชั่น" ที่แปลงร่างมาจากช่องไทยทีวีดี

ด้านต้นตำรับทีวีการเมือง อย่างช่อง ASTV ได้เพิ่มรายการ "ตีแสกหน้า" โดย ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย ที่ออกอากาศจันทร์ถึงศุกร์ และรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ทุกวันศุกร์ ที่มีเรทติ้งสูงที่สุดในจอเหลือง

จอแดงยุคแรกๆ ช่อง MVTV5 ยังคงมีรายการ "เส้นทางสู่ประชาธิปไตย" โดย เหวง โตจิราการ และรายการ "เดินทางไกลไปกับวีระกานต์" ส่วนจอแดงเชิงพาณิชย์ ช่อง P&P มีรายการเดียวที่เป็นไฮไลต์ตอนเช้าคือ "เกาะติดสถานการณ์" โดย ขวัญชัย ไพรพนา

ที่ขยายงานอย่างน่าสนใจ ก็เห็นจะเป็นช่อง FMTV ของ สันติอโศก เดิมออกอากาศผ่านดาวเทียม NSS6 ความถี่ KU band ตอนนี้ได้หันมาเพิ่มช่องทางการแพร่ภาพผ่านดาวเทียมไทยคม 5 ความถี่ C band อีกช่องทางหนึ่ง

พูดง่ายๆ คนบ้านนอกติดจานดำก็ดูช่อง FMTV ได้ ซึ่งชาวอโศกส่วนใหญ่อยู่ในเขตชนบท การรับชมในระบบเก่าค่อนข้างมีปัญหา ฝนตกจอก็ดับ

หากมีการชุมนุมทวงคืนพระวิหาร หรือปกป้องสถาบันเบื้องสูง ช่อง FMTV ก็จะทำหน้าที่ถ่ายทอดสด และแพร่ภาพไปได้ไกลในทุกซอกมุมของเมืองไทย

สงครามดาวต่างสี เป็นปรากฏการณ์ทางความคิดที่แตกต่างในระบอบประชาธิปไตย และยากที่ประเทศอื่นจะเลียนแบบได้