We Wear Culture โลกแฟชั่นบนฐานข้อมูลดิจิทัล

We Wear Culture โลกแฟชั่นบนฐานข้อมูลดิจิทัล

ท่องนิทรรศการแฟชั่นเสมือนจริง ดิ่งไปกับฐานข้อมูลบนแพลตฟอร์มของกูเกิล ที่สามารถย้อนประวัติศาสตร์แฟชั่นไปได้ถึง 3,000 ปี

โปรเจคล่าสุดของกูเกิล ภายใต้แพลตฟอร์ม Google Arts & Culture ซึ่งได้เชื่อมโยงโลกศิลปวัฒนธรรมจากความร่วมมือของพิพิธภัณฑ์และแกเลอรี่ทั่วโลก ให้สามารถเข้าถึงได้ผ่านโลกเสมือนจริงบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม

We Wear Culture คือฐานข้อมูลด้านแฟชั่นที่กูเกิลทำงานร่วมกับพิพิธภัณฑ์ สถานศึกษา สถาบันด้านแฟชั่น และองค์กรต่างๆ กว่า 180 แห่งทั่วโลก สร้างเป็นฐานข้อมูลดิจิทัลเกี่ยวกับแฟชั่น และวัฒนธรรมการสวมใส่ที่สามารถย้อนเรื่องราวไปได้ถึง 3,000 ปี ให้ผู้คนเข้าไปสัมผัสได้เพียงแค่ปลายนิ้วมือคลิก

We Wear Culture โลกแฟชั่นบนฐานข้อมูลดิจิทัล

สิ่งสวมใส่มีเรื่องราวเล่าขาน

นี่ไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลทั้งภาพและเนื้อหาเท่านั้น แต่กูเกิลยังทำงานร่วมกับภัณฑารักษ์ผู้เชี่ยวชาญแฟชั่นและศิลปวัฒนธรรมในสาขาต่างๆ มากรอบเป็นแนวคิดให้กับนิทรรศการมากกว่า 450 หัวข้อ ลงมาอยู่ภายใต้หัวข้อใหญ่ 4 หัวข้อคือ The Icons, The Movements, The Making of และ The Arts สำหรับคนที่หลงใหลศิลปะ แฟชั่น และเสื้อผ้า อาจจะมือไม้สั่นเลือกคลิกไม่ถูก เพราะอยากดูไปซะทุกนิทรรศการ 

We Wear Culture โลกแฟชั่นบนฐานข้อมูลดิจิทัล

Icons ก็จะได้พบเรื่องชีวิตและงานของไอคอนในโลกแฟชั่น ทั้งดีไซเนอร์ชื่อดังทั้งหลาย รวมถึงคนดังในวงสังคมที่มาเป็น Muse หรือแรงบันดาลใจแก่ดีไซเนอร์ หรือ Trendsetter ผู้มีส่วนทำให้กระแสแฟชั่นเคลื่อนไหวเป็นที่นิยมด้วย เช่น มาริลีน มอนโร และ ออเดรย์ เฮปเบิร์น เป็นต้น

We Wear Culture โลกแฟชั่นบนฐานข้อมูลดิจิทัล

The Movements ความเคลื่อนไหวด้านแฟชั่นที่ได้รับอิทธิพลจากบริบทสังคมในแต่ละช่วงเวลา ในขณะเดียวกันก็ส่งผลต่อสังคมกลับไปเช่นกัน มีทั้งเรื่องราวของการต่อสู้  วิวัฒนาการ การแสดงออกถึงพลังของคนรุ่นใหม่ในยุคต่างๆ

We Wear Culture โลกแฟชั่นบนฐานข้อมูลดิจิทัล

The Making of ก็พาเราไปรู้จักผืนผ้า วัสดุ งานฝีมือ เครื่องประดับ และกระบวนการสร้างสรรค์วัสดุหรืองานฝีมืออันเป็นมรดกของวัฒนธรรมต่างๆ ด้วย เช่น ส่าหรี กิโมโน ลูกไม้ งานปัก เครื่องประดับ การย้อมสี การพับ ฯลฯ ไปรวมถึงนวัตกรรมในการผลิตวัสดุเพื่อแฟชั่นใหม่ๆ ด้วย ข้อมูลและภาพที่จัดแสดงก็ละเอียดจนสามารถขยายดูฝีเข็มกันได้เลย

We Wear Culture โลกแฟชั่นบนฐานข้อมูลดิจิทัล

The Arts ว่าด้วยศิลปะและแฟชั่นที่เกี่ยวพันกันมาอย่างยาวนาน เช่น นิทรรศการ Frida Kahlo’s Wardrobe (ตู้เสื้อผ้าของฟรีด้า คาห์โล) โดย Museo Frida Kahlo รวมเสื้อผ้าชิ้นสำคัญ รวมถึงเฝือก และคอร์เซ็ทที่เธอต้องใส่เสมอหลังประสบอุบัติเหตุ งานนี้ซึ่งเจาะผลงานที่แสดงในนิทรรศการด้วยภาพที่มีความละเอียดสูง สามารถขยายภาพได้ มีคำอธิบายพร้อม หรือนิทรรศการ Savatore Ferragamo: is Fashion Art? โดย Museo Savatore Ferragamo ที่ศึกษาผลงานของเฟอร์รากาโม ผู้หลงใหลศิลปะและได้แรงบันดาลใจจากความเคลื่อนไหวของศิลปะในช่วงศตวรรษที่ 20 มาออกแบบเป็นแฟชั่นมากมาย ราวกับเป็นการทำงานข้ามพรมแดนกันระหว่างงานศิลป์และแฟชั่นชั้นสูง เป็นต้น

นอกจากนี้ยังรวบรวมนิทรรศการด้านแฟชั่นจากพิพิธภัณฑ์ และสถาบันแฟชั่นมากมาย ควบคู่ไปกับนิทรรศการระดับตำนานตั้งแต่อดีตของแบรนด์ดังจากยุคต่างๆ จนถึงปัจจุบัน ยังมีนิทรรศการของดีไซเนอร์รุ่นใหม่ที่มีความสดจัดจ้าน ให้เปิดพรมแดนความคิดและการรับรู้ใหม่ๆ อีกด้วย

We Wear Culture โลกแฟชั่นบนฐานข้อมูลดิจิทัล

การชมนิทรรศการเสมือนจริงบนโลกออนไลน์นี้ อาจเทียบเท่าไม่ได้กับการเห็นของจริง ในแง่ความรู้สึกและความประทับใจที่ชิ้นงานจะส่งพลังมาหาเรา แต่จุดแข็งคือ ต่อให้นิทรรศการจริงจะจบไปนานแล้ว ก็ยังสามารถดูได้เสมอ และข้อสำคัญที่สุดคือการที่องค์ความรู้เหล่านี้กลายเป็นของสาธารณะที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ ไม่ว่าเวลาไหน หรือจากที่ใดบนโลกใบนี้ (ตราบเท่าที่มีคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และอินเตอร์เน็ท) ความรู้เรื่องศิลปะและแฟชั่นก็ไม่ได้จำกัดอยู่แต่กลุ่มชนชั้นสูง ชนชั้นกลาง หรือผู้ที่สามารถเดินทางไปชมพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ในประเทศต่างๆ ได้เท่านั้น ฐานข้อมูลแบบเปิดนี้ช่วยทลายกำแพงของความเป็นสถาบัน ละลายด่านการศึกษาทำให้คนเราเข้าถึงความรู้ได้อย่างเท่าเทียมยิ่งขึ้น