"มูบาดาลา ปิโตรเลียม" เปลี่ยนแบรนด์ใหม่ในชื่อ "มูบาดาลา เอนเนอร์ยี่"

"มูบาดาลา ปิโตรเลียม" เปลี่ยนแบรนด์ใหม่ในชื่อ "มูบาดาลา เอนเนอร์ยี่"

"มูบาดาลา ปิโตรเลียม" เปลี่ยนแบรนด์ใหม่รับกลยุทธ์ปี 2573 ในชื่อ "มูบาดาลา เอนเนอร์ยี่" มุ่งมั่นเป็นส่วนสำคัญการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน พร้อมทั้งเพิ่มสัดส่วนตลาดไปสู่ภาคพลังงานคาร์บอนต่ำ

นายมูซาเบะห์ อัล คาบิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมูบาดาลา ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บริษัท มูบาดาลา อินเวสต์เมนต์ คอมปะนี และประธานกรรมการบริหาร บริษัท มูบาดาลา เอนเนอร์ยี่ กล่าวว่า บริษัท มูบาดาลา เอนเนอร์ยี่ ได้พัฒนาเข้าสู่การเป็นผู้ประกอบการหลักในธุรกิจพลังงานระดับสากล โดยการเปลี่ยนชื่อ และแบรนด์ของเราในครั้งนี้ เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญทางธุรกิจ เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่จะมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ด้วยพอร์ตโฟลิโอที่เน้นสัดส่วนการผลิตก๊าซธรรมชาติ และเพิ่มความสำคัญไปที่ภาคพลังงานใหม่

ชีค มอนซัวร์ มูฮัมหมัด อัล ฮาเหม็ด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มูบาดาลา เอนเนอร์ยี่ กล่าวว่า เรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งกับความสำเร็จตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมา และวันนี้นับเป็นวันสำคัญที่เราจะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานผ่านการเปลี่ยนชื่อและแบรนด์ของเรา โดยเรากำลังสร้างสถิติและเติบโตผ่านการขยาย ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และด้วยขีดความสามารถและความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งของเรากับหุ้นส่วนธุรกิจทั่วโลก เราพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นบทบาทครั้งใหม่ของเรา

\"มูบาดาลา ปิโตรเลียม\" เปลี่ยนแบรนด์ใหม่ในชื่อ \"มูบาดาลา เอนเนอร์ยี่\"

ด้วยการสร้างความเปลี่ยนแปลงในปีที่สิบของการดำเนินงาน บริษัทฯ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องครอบคลุม 11 ประเทศทั่วโลก โดยมีพนักงานมากกว่า 500 คน โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ประกาศความสำเร็จในการบรรลุการผลิต 500,000 บาร์เรล เทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัท และยังนับเป็นการเพิ่มขึ้นของปริมาณการผลิตถึงร้อยละ 22 จากปริมาณการผลิตเมื่อปี 2564

โดยเมื่อปี 2560 บริษัทฯ ได้เปลี่ยนกลยุทธ์มาให้ความสำคัญกับ ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญไปสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และอนาคตคาร์บอนต่ำ โดยกลยุทธ์นี้จะให้ความสำคัญกับโครงการสำคัญต่างๆ เช่น เพิ่มสัดส่วนการถือครองร้อยละ 10 ของแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติโซห์รในประเทศอียิปต์ ภายใต้สัมปทานก๊าซธรรมชาติโซรุค และเพิ่มสัดส่วนการถือครองร้อยละ 22 ของแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติทามาร์นอกชายฝั่งประเทศอิสราเอล

นอกจากนี้ ยังมีโครงการก๊าซธรรมชาติที่สำคัญอื่นๆ เช่น แหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติเปกาการ์ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งสามารถเริ่มผลิตก๊าซได้เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งประสบความสำเร็จในการผลิตก๊าซธรรมชาติ 500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว 16,000 บาร์เรลต่อวัน

บริษัทฯ จะยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อทุกชุมชนที่เราดำเนินการอยู่ ในฐานะพันธมิตรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมในระยะยาว ซึ่งหมายรวมถึง

  • การจัดการผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นในโครงการ Dolphin Energy ซึ่งเป็นสินทรัพย์สำคัญสำหรับพอร์ตโฟลิโอของบริษัท มูบาดาลา อินเวสต์เมนต์ คอมปะนี (มูบาดาลา)
  • ธุรกิจที่ดำเนินการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หมายรวมถึงแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติรูบี้ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเพิ่งประสบความสำเร็จในการผลิตก๊าซธรรมชาติสะสมกว่า 250,000 ล้านลูกบาศก์ฟุต แหล่งผลิตปิโตรเลียมจัสมินในประเทศไทย ซึ่งมีการผลิตน้ำมันสะสมมากกว่า 85 ล้านบาร์เรล แหล่งผลิตปิโตรเลียมนงเยาว์และมโนราห์ ซึ่งมีการผลิตน้ำมันสะสมรวมมากกว่า 20 ล้านบาร์เรล
  • การขยายสัดส่วนการลงทุนในกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องทุกปี ทั้งในด้านการศึกษา สิ่งแวดล้อม การพัฒนาชุมชน รวมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพนักงาน ในปี 2564 ที่ผ่านมาได้บรรลุเป้าหมาย ให้มีผู้ได้รับผลประโยชน์จำนวนมากกว่า 142,000 คน จากโครงการต่างๆ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นร้อยละ 63 จากปี 2563 และในช่วงของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทั่วโลก บริษัท มูบาดาลา เอนเนอร์ยี่ ได้ยืนหยัดเคียงข้างสังคมด้วยการสนับสนุนทั้งภาครัฐและบุคลากรด่านหน้าผ่านหลากหลายมาตรการและการบริจาคต่างๆ
  • เปิดตัวรายงานความยั่งยืนในปี 2563 และกำหนดกรอบความยั่งยืนที่ชัดเจนของปี 2564 ที่ผ่านมา
  • บรรลุเป้าหมายประสิทธิภาพด้านอาชีวอนามัย ความปลอดภัย ความมั่นคง และสิ่งแวดล้อมในระดับสูงสุด
  • นำกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล เพื่อปรับใช้นวัตกรรมและความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยี ให้เป็นหัวใจหลักของการดำเนินงาน
  • ส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรด้วยการจ้างบุคลากรท้องถิ่นที่เป็นชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ร้อยละ 61 ที่อาบูดาบี และบุคลากรท้องถิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ร้อยละ 96 อีกด้วย