ชป.บริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เน้นเก็บกักน้ำสำรองไว้ในอนาคต

ชป.บริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เน้นเก็บกักน้ำสำรองไว้ในอนาคต

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ให้สำรองน้ำไว้ใช้ในการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป

 

กรมชลประทาน เดินหน้าบริหารจัดการน้ำภายใต้สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยความรอบคอบและประณีต กำหนดแนวทางในการบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ พร้อมทั้งกำชับให้เก็บกักน้ำไว้ได้มากที่สุด

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์น้ำทั้งประเทศยังคงอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยาจำเป็นต้องปรับการระบายน้ำจาก 4 เขื่อนหลัก ให้อยู่ในเกณฑ์ต่ำสุด เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศ โดยในวันนี้ที่สถานีวัดน้ำท่า C.2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านเพียง 196 ลบ.ม.ต่อวินาที และมีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้ที่สถานีวัดน้ำท่า C.13 ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท มีการระบายน้ำได้เพียง 60 ลบ.ม.ต่อวินาที

จึงกำชับให้โครงการชลประทานทั่วประเทศทำการบริหารจัดการน้ำด้วยความประณีต เน้นเก็บกักน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นหลัก และให้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์น้ำในพื้นที่โดยเฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา ให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการรับรู้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง ตามนโยบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กอนช.) และ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หากต้องการสอบถามสถานการณ์น้ำหรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อโครงการชลประทานใกล้บ้านหรือโทรสายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา