เปิดเส้นทาง CHIC พลิกฟื้นฝ่าวิกฤติสู่ IPO

เปิดเส้นทาง CHIC พลิกฟื้นฝ่าวิกฤติสู่ IPO

เคาะราคาเรียบร้อยสำหรับการขายหุ้น IPO 360 ล้านหุ้น พาร์ 0.50 บาท/หุ้น โดยจะขายที่ 0.90 บาท/หุ้น คิดเป็นมูลค่าการระดมทุน 324 ล้านบาท หุ้นไอพีโอ CHIC จะเปิดให้จองซื้อ 18-21 ก.ค.นี้ และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 27 ก.ค. 65

ก่อนจะไปถึงวันนั้น มาดูเส้นทางกว่าจะเป็น หุ้น IPO ของ CHIC ผ่านมุมมอง "กิจจา ปัทมสัตยาสนธิ" กรรมการผู้จัดการ บมจ.ชิค รีพับบลิค (CHIC) ผู้นำพาธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ที่มีสไตล์โดดเด่นไม่เหมือนใครฝ่าฟันอุปสรรคหลายระลอก จนขึ้นมาผงาดมั่นคงได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

  • ที่มาของ CHIC

ธุรกิจ Chic Republic เกิดขึ้นเมื่อ 26 พ.ค. 52 ด้วยทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท เพราะมองว่าตลาดบ้านเราเฟอร์นิเจอร์ไทยช่วงนั้นไม่มีความแปลกใหม่ และเห็นว่าเฟอร์นิเจอร์รวมถึงของแต่งบ้านในต่างประเทศมีแนวคิดแบบการค้าปลีกเฉพาะอย่างขนาดใหญ่ (Specialty Stand Alone Store) จึงเกิด Chic Republic ขึ้นมา โดยหนึ่งในแนวคิดของ Chic Republic คือการเป็นร้านค้าเดี่ยวขนาดใหญ่ (Stand Alone) มีตึกขนาดใหญ่ของเราเอง เพราะเราต้องการทำเป็นคอนเซ็ปต์ One Stop Shopping เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน รวมทั้งที่นอนและเครื่องนอนต่างๆ แบบครบวงจร 

ปัจจุบัน CHIC ประกอบธุรกิจจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน และที่นอนและเครื่องนอนอย่างครบวงจร (One Stop Shopping) ในรูปแบบร้านค้าเดี่ยวขนาดใหญ่ (Stand Alone) ภายใต้สินค้าเฟอร์นิเจอร์แบรนด์หลัก (House Brand) ของบริษัทฯ ได้แก่ ชิค รีพับบลิค (CHIC Republic), รีน่า เฮย์ (Rina Hey) และสินค้านำเข้าจากต่างประเทศภายใต้แบรนด์ “แอชลีย์ (Ashley)” และสินค้าแบรนด์อื่นๆ ผ่านช่องทางหน้าร้านค้าของบริษัทฯ และช่องทางออนไลน์ ซึ่งบริษัทฯ ถือเป็นโฮมแฟชั่นสโตร์แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่รวบรวมเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน รวมถึงที่นอนและเครื่องนอน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ปัจจุบัน บริษัทฯ มีสาขาที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งหมด 6 สาขา โดยแบ่งเป็นสาขาภายในประเทศจำนวน 5 สาขา และสาขาต่างประเทศจำนวน 1 สาขา 

เปิดเส้นทาง CHIC พลิกฟื้นฝ่าวิกฤติสู่ IPO

  • CHIC เคยจะขายไอพีโอมาแล้ว ?

ใช่ครับ...ช่วงปลายปี 2560 เราได้มีการยื่นไฟลิ่งเวอร์ชันแรกไป แต่สุดท้ายได้ถอนไฟลิ่งไป เพราะภาวะตลาดหุ้นช่วงนั้นไม่เอื้อต่อการเข้าระดมทุน หลายบริษัทเข้าเทรดวันแรกราคาต่ำจอง ซึ่งคิดว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อนักลงทุนที่จองซื้อหุ้นได้ จึงได้นำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท และทั้งหมดเห็นพ้องกัน จึงตัดสินใจเลื่อนการเข้าจดทะเบียนออกไป เพื่อรอจังหวะที่เหมาะสม

ขณะที่ถัดมาต้นปี 63 ก็เกิดโควิด-19 ส่งผลกระทบหนักทั้งธุรกิจและภาวะตลาดฯ ส่งผลให้ต้องเลื่อนแผนการต่างๆ เพื่อรับมือกับวิกฤติดังกล่าว จนได้กลับมาดำเนินการตามแผนขายไอพีโอในปีนี้

  • รับมือวิกฤติที่ผ่านมาอย่างไร ?

ช่วงที่โควิด-19 ระบาด เราได้รับผลกระทบจากนโยบายปิดห้างและปิดไซต์งานก่อสร้าง ส่งผลต่อการขายหน้าร้านและการส่งมอบงานที่ต้องชะลอออกไป ประกอบกับประชาชนได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ ส่งผลต่อกำลังซื้อด้วย ดังนั้น บริษัทจึงได้เร่งปรับตัวเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและกระจายความเสี่ยง ปรับใช้กลยุทธ์การเติบโตด้วย "New S Curves" เช่น การขยายบริการเพิ่ม และให้ความสำคัญกับช่องทางจำหน่ายผ่านออนไลน์มากขึ้น

ตอนนี้เราขายออนไลน์ครบทั้งสามแบรนด์เลยคือ Chic Republic, Rina Hey และ Ashley โดยทั้งสามแบรนด์นี้มีเว็บไซต์ ซึ่งเป็นเว็บไซต์แบบ Fully e-commerce

เปิดเส้นทาง CHIC พลิกฟื้นฝ่าวิกฤติสู่ IPO

ปัจจุบันเราทำกลยุทธ์อันหนึ่งที่เรียกว่า O-to-O คือ Offline to Online-Online to Offline ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า และกระบวนการทำงานเราไม่มีรอยต่อ เช่น ถ้าลูกค้าตั้งใจมาดูสินค้าที่ Chic Republic แล้วกดสั่งสินค้าทางออนไลน์ขณะอยู่ในร้านเราก็ได้ หรือบางคนก็สั่งทางออนไลน์เอาเลยเพราะหน้าเว็บไซต์ของสินค้าแต่ละตัวก็มีข้อมูลต่างๆ ครบ และเรามีบริการติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ให้ลูกค้าเลย ผมว่าคนไทยชอบ One Stop Shopping, One Stop Service ทุกอย่างเบ็ดเสร็จ แล้วการประกอบเฟอร์นิเจอร์ไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายด้วย เรามีช่างที่ชำนาญการและผ่านการฝึกอบรมของเรามาทำให้

รายได้ถัดไปของเราเรียกว่า Chic Design Studio มีทีมงานมาบริการลูกค้าตั้งแต่การวัดพื้นที่ ตรวจห้อง มีดีไซน์เนอร์ออกแบบภายในเป็นรูป 3D จนถึงการก่อสร้างงานตกแต่งภายในโดยมีทีมงานคุมหน้างานให้ตลอด เป็น Interior Design & Turnkey Service โดยสมบูรณ์ และเราก็นำเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวของ Chic Republic, Rina Hey หรือ Ashley ใส่ไปในห้องลูกค้าด้วย

จากนั้น เราต่อยอดธุรกิจออกมาเป็น Chic Rent In Style บริการให้เช่าเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน สำหรับบริษัทจัดอีเวนต์ต่างๆ หรือบริษัทอสังหาฯ ที่ทำห้องตัวอย่างบ้านและคอนโด โดยเรามีบริการเพิ่มเป็นการจัดพร็อพและเฟอร์นิเจอร์ให้ด้วย ซึ่งจะเหมาะกับคนที่อยากปล่อยเช่าหรือขายห้องเปล่าในคอนโดมิเนียม ทีม Stylist ของเราจะเข้าไปแต่งห้องให้สวยงามเพื่อให้เจ้าของห้องนำไปขายต่อได้

และสุดท้ายธุรกิจของเรามีรายได้จากส่วนค่าเช่าด้วยคือ มีร้านค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ตทยอยเข้ามาเช่าที่ในอาคารเรา เราจึงมีรายได้ตรงนี้เสริมเข้ามา

  • การระดมทุนครั้งนี้นำไปใช้อะไรบ้าง ?
  1. เป็นแหล่งเงินทุนในการขยายสาขาแห่งใหม่ภายในปี 67 ราว 60 ล้านบาท 
  2. ชำระคืนเงินกู้ยืมภายในปีนี้ประมาณ 117 ล้านบาท ซึ่งจะลดต้นทุนทางการเงินได้อย่างมีนัยสำคัญ
  3. ปรับปรุงพื้นที่ภายในสาขาและขยายพื้นที่ให้เช่าภายในปีนี้ ประมาณ 38 ล้านบาท 

ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทฯ

  • ตั้งเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจอย่างไร ?

เราต้องก้าวสู่การเป็น Digital Transformation เสริมศักยภาพการแข่งขัน รองรับความต้องการในอนาคต เพื่อการเติบโตและสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้ผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืนในระยะยาว

  • การตอบรับช่วงโรดโชว์ที่ผ่านมา ?

นักลงทุนทั้งรายย่อยและรายใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนหุ้นเน้นคุณค่า (VI) ให้ความสนใจจำนวนมาก สะท้อนการรับรู้ศักยภาพการเติบโตของ CHIC ในอนาคต เชื่อว่าจะมีดีมานด์การจองซื้อ หุ้นไอพีโอ มากกว่าจำนวนที่เสนอขาย ซึ่งคาดว่าการเข้าซื้อขายก็จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในตลาดฯ เช่นกัน

เปิดเส้นทาง CHIC พลิกฟื้นฝ่าวิกฤติสู่ IPO