"อนุพร อรุณรัตน์" ผู้สมัครนายกสภาทนายความ หมายเลข 4

"อนุพร อรุณรัตน์" ผู้สมัครนายกสภาทนายความ หมายเลข 4

"อนุพร อรุณรัตน์" ผู้สมัครนายกสภาทนายความ หมายเลข 4 พร้อมคณะ หมายเลข 1-22 ประกาศ พร้อมเข้ามาพัฒนาสภาทนายความเชิงรุก ยกระดับสวัสดิการ เพิ่มสกิลให้ทนายฯ สานต่อโครงการเด่น "ทนายความอาสา"

พร้อมคณะ หมายเลข 1-22 ประกาศ พร้อมเข้ามาพัฒนาสภาทนายความเชิงรุก ยกระดับสวัสดิการ เพิ่มสกิลให้ทนายฯ  สานต่อโครงการเด่น "ทนายความอาสา" ชี้ ถ้าประชาชนเข้าถึงกฎหมายและความยุติธรรม ประเทศจะพัฒนายิ่งขึ้น

 

นายอนุพร อรุณรัตน์  ผู้สมัครนายกสภาทนายความหมายเลข 4 กล่าวว่า วันนี้คณะอนุพร ที่จะเข้ามาเรื่องแรกคือจะสานเสริมสร้างความดีงามหลายเรื่อง ของว่าที่ร้อยตรีดร. ถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความที่ทำไว้กว่า 5 ปี ได้พัฒนาสภาทนายความไว้อย่างมาก  วันนี้ตนจึงจะเข้ามาสานต่อและดูแลความเป็นอยู่ของทนายความทั่วประเทศ สร้างภาระหน้าที่งานที่รับผิดชอบมากขึ้นเพื่อให้ทนายความและเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมได้พบกับผู้ที่ช่วยเหลือด้านกฎหมายและวันนี้ประเทศจะพัฒนาได้ตนคิดว่าประชาชนต้องได้เข้าถึงตัวแทนและที่ปรึกษากฎหมายให้มากที่สุด

\"อนุพร อรุณรัตน์\" ผู้สมัครนายกสภาทนายความ หมายเลข 4

โดยต้องการเข้ามาเพื่อดูแลแก้ไขความเดือดร้อนของทนายความ ที่ประสบกับปัญหาเศรษฐกิจผันผวนมีปัญหาด้านความเป็นอยู่การดำรงชีพ จึงจะผลักดันสวัสดิการให้กับทนายความโดยจะมีกองทุนเพื่อดูแลทนายความ ทนายความอาสาที่อยู่ในต่างจังหวัด ต้องประสานนโยบายกับภาครัฐเพื่อจะเกิดสวัสดิการให้ทนายความต่อไป ขยายการทำงานของทนายความเข้าไปถึงองค์กรต่างๆทั้งภาครัฐ เอกชน มหาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชน  สิ่งที่จะผลักดันโครงการเมื่อเข้ามาบริหารจะทำให้โครงการทนายความอาสาประจำสถานีตำรวจ ขยายให้มากยิ่งขึ้นทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะประชาชนในถิ่นทุรกันดารยิ่งกันดารยิ่งต้องการกฎหมายมากขึ้น

"ผมเชื่อว่า ถ้าประชาชนรู้สิทธิ หน้าที่ของตนเอง เข้าถึงกฎหมายและปฏิบัติตามกฎหมาย ประเทศชาติจะพัฒนาขึ้น" 

\"อนุพร อรุณรัตน์\" ผู้สมัครนายกสภาทนายความ หมายเลข 4

ส่วนปัญหาความศรัทธาของสังคมและประชาชนที่มีต่อทนายความนั้น นายอนุพร กล่าวว่า ปัญหาเรื่องทนายความกับสื่อและสังคม ประชาชน ปัญหานี้เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่แค่เฉพาะประเทศไทย ซึ่งวันนี้เราจะต้องพัฒนาหรือให้ความรู้อบรมบรรดาสมาชิกทนายความเพราะหลายครั้งทนายความต่าง มองแค่การพิทักษ์สิทธิให้ลูกความเท่านั้นแต่ความจริงแล้วทนายความต้องมีความจงรักภักดีต่อกฎหมายเป็นสาระสำคัญของการประกอบวิชาชีพทนายความและที่สำคัญที่สุดต้องมีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพการเป็นทนายความ จึงต้องสร้างและรณรงค์ให้สมาชิกทนายความได้มีจิตวิญญาณและรักษาความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพทนายความ

ทั้งนี้นายอนุพร ฝากถึงเพื่อนพี่น้องสมาชิกทนายความทั่วประเทศ ว่าวันนี้ตนผู้สมัครนายกสภาทนายความหมายเลข 4 พร้อมคณะผู้สมัครกรรมการสภาทนายความหมายเลข 1 ถึง 22  ทั้งหมด 23 คนพร้อมที่จะเข้ามาดูแลพร้อมที่จะรับใช้บรรดาเพื่อนสมาชิกทนายความ พร้อมพัฒนาความรู้ ทักษะวิชาชีพและพัฒนาสวัสดิการให้ความเป็นอยู่ ที่ยืนอยู่ได้อย่างสมเกียรติ  เพราะทนายความต้องยืนอยู่อย่างสมเกียรติในการผู้ดำรงวิชาชีพด้านกฎหมายและที่สำคัญทนายความเรา พร้อมจะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่เป็นหลักให้กับประชาชน สามารถเข้าถึงความยุติธรรม ผ่านสภาทนายความจังหวัดและส่วนกลาง นี่เป็นเป้าหมายสำคัญสูงสุด ของคณะอนุพร อรุณรัตน์