ความเสียหายโดยสิ้นเชิง (Total Loss) คืออะไร

ความเสียหายโดยสิ้นเชิง (Total Loss) คืออะไร

ทุกครั้งที่รถของเราเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูกก็ตาม เรารู้กันอยู่แล้วว่าสิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรกๆ คือ

แจ้งให้บริษัทรับประกันภัยรถยนต์ที่เราใช้บริการอยู่รับทราบเพื่อที่เจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันจะได้เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุและประเมินค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ หากเป็นการเฉี่ยวชนกันเล็กๆน้อยๆ เจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันภัยรถยนต์จะประเมินค่าความเสียหายรวมถึงออกใบเคลมเพื่อให้เราสามารถนำรถเข้าอู่ซ่อมได้ตามที่ระบุไว้ในกรรมธรรม์ แต่หากการเกิดอุบัติเหตุนั้นส่งผลให้รถมีความเสียหายมากกว่า 70% แล้วล่ะก็เรื่องยาวกว่านั้นค่ะ

คปภ.ระบุไว้ว่า: รถยนต์เสียหายสิ้นเชิง หมายถึง รถยนต์ได้รับความเสียหายจนไม่อาจซ่อมให้อยู่ในสภาพเดิมได้ หรือเสียหายไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของมูลค่ารถยนต์ในขณะเกิดความเสียหาย ในกรณีที่เอาประกันภัยไว้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่ารถยนต์ในขณะที่เอาประกันภัย ผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์แล้วแต่กรณี ต้องโอนสิทธิ์รถยนต์ให้แก่บริษัททันที โดยค่าใช้จ่ายของบริษัท และให้ถือว่าการคุ้มครองรถยนต์นั้นเป็นอันสิ้นสุด

เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วรถของเรามีความเสียหายอย่างหนัก และทางบริษัทประกันมีการประเมินแล้วว่าไม่สามารถซ่อมให้กลับมามีสภาพใช้งานได้เหมือนเดิมแล้วนั้น บริษัทประกันรถยนต์จะจ่ายเงินให้แก่ผู้เอาประกันเต็มทุนประกัน ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ และหากความเสียหายโดยสิ้นเชิงเกิดขึ้นในช่วงที่เรากำลังผ่อนรถอยู่กับบริษัทไฟแนนซ์ หากในกรมธรรม์มีการระบุชื่อบริษัทไฟแนนซ์เป็นผู้รับเอาผลประโยชน์ ทางบริษัทประกันภัยรถยนต์ จะจ่ายเงินเพื่อชดใช้ความเสียหายในส่วนนี้ให้กับบริษัทไฟแนนซ์ค่ะ

เมื่อมีการประเมินค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นว่าเป็น ความเสียหายโดยสิ้นเชิง แล้วนั้น หลังจากที่เราการโอนซากรถให้กับทางบริษัทประกันภัยรถยนต์แล้วนั้น จะถือว่าความคุ้มครองที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยสิ้นสุดลงทันที แต่หากใครที่ไม่อยากโอนซากรถให้บริษัทประกันภัยรถยนต์ก็สามารถทำได้ค่ะ เพียงแต่ค่าสินไหมที่เราจะได้จากบริษัทประกันภัยรถยนต์อาจจะไม่ได้เต็มทุนประกัน เช่น บริษัทประกันประเมินค่าความเสียหาย 70 % เป็นเงิน 700,000 บาทขึ้นไป แต่เราไม่ต้องการโอนซากรถยนต์ให้ทางบริษัทประกัน บริษัทประกันจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้เรา 65-70% หรือ 650,000 – 700,000 บาท ซากรถนั้นเราสามารถจัดการเองได้ตามความต้องการ และความคุ้มครองของประกันจะสิ้นสุดลงเช่นกัน

แต่ในทางกลับกันหากมีการประเมินแล้วพบว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ถึง 70% และทางบริษัทประกันมีการเจรจาให้เรานำรถเข้าซ่อม ในกรณีนี้จะความคุ้มครองตามกรมธรรม์จะไม่สิ้นสุดทันที แต่จะมีผลบังคับใช้ไปจนกว่าประกันภัยรถยนต์ของเราจะหมดอายุนั่นเองค่ะ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://finance.rabbit.co.th