“ผู้นำเข้ารถอิสระ”อ่วม พิษศก.ฉุดยอดทรุด

“ผู้นำเข้ารถอิสระ”อ่วม พิษศก.ฉุดยอดทรุด

“ผู้นำเข้ารถอิสระ”อ่วม พิษเศรษฐกิจฉุดยอดทรุด

นายสมศักดิ์ ศรีรัตนประภาส นายกสมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่แห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลัง เข้ารับตำแหน่งสมาคมฯ คนใหม่ วานนี้ (23 ส.ค.) ถึงสถานการณ์ตลาดรถนำเข้าโดยผู้นำเข้าอิสระ (Grey Market) ว่า ยังในภาวะอ่อนตัวมาก ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  

ทำให้คาดว่า จนถึงสิ้นปี2559 จะมีปริมาณการนำเข้าระยนต์จากผู้นำเข้าอิสระราว 5,000 คัน ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่เมื่อเทียบกับในช่วงที่ดีของตลาดรถยนต์ เคยมีการนำเข้ารถยนต์จากผู้นำเข้าอิสระสูงถึง 1-1.2 หมื่นคันต่อปี

นายสมศักดิ์ ยังเห็นว่า การกำหนดมาตรฐาน การคำนวณภาษีรูปแบบใหม่ รวมถึงการจัดทำ ECO Sticker (ฉลากรถยนต์ระบุข้อมูลสำคัญ) ทำให้ขั้นตอนในการดำเนินงานยุ่งยาก ซับซ้อน และใช้เวลาในการดำเนินงานค่อนข้างนาน เนื่องจากต้องร่วมงาน กับหน่วยงานของภาครัฐถึง 4 หน่วยงาน  ซึ่งในขั้นตอนปฎิบัติ อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ และสถานที่ในการตรวจสอบค่ามาตรฐาน ของภาครัฐ ยังมีปริมาณไม่เพียงพอต่อปริมาณรถยนต์นำเข้า ทำให้บริษัทผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องการกำหนดราคาจำหน่าย เนื่องจากไม่สามารถวิเคราะห์ต้นทุนได้อย่างแท้จริง ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนผันผวน ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนในการจำหน่ายรถยนต์ อย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้จากความร่วมมือระหว่างสมาคมฯและภาครัฐ ปัจจุบันได้แก้ไขในเรื่องของขั้นตอนการดำเนินงานและระยะเวลาให้สะดวกรวดเร็วมากขึ้นกว่าในช่วงแรก

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวว่า สมาคมฯ มีนโยบายที่จะเร่งผลักดันเรื่องการเจรจากับกระทรวงการคลังเพื่อขอปรับลดอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ให้ต่ำลงกว่าอัตราปัจจุบัน เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรี และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้บริโภคคนไทยที่ต้องการความหลากหลาย และตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น 

ประกอบกับอัตราภาษีดังกล่าวยังมีอัตราที่สูงมากเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งยังประกาศใช้มาเป็นเวลานานมากกว่า 30 ปี ทำให้ไม่เหมาะกับการแข่งขันหรือการดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน

"เราอยากเห็นหลักเกณฑ์ภาษี ที่เอื้อกับสากลทั่วโลก เนื่องจากไทยจัดเก็บภาษีนำเข้าค่อนข้างสูงและมีภาษีสรรพสามิตซึ่งรวมภาษีอื่น เช่น ภาษีมหาดไทย ภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยรถนำเข้ามีภาระภาษีระหว่าง 188 -328% ซึ่งค่อนข้างสูงมาก