BMW “Night Drive” ชาร์จไฟ แล้วไปรอบกรุง

BMW “Night Drive”  ชาร์จไฟ แล้วไปรอบกรุง

บีเอ็มดับเบิลยู จัดกิจกรรม Urban Night Drive with BMW iPerformance สำหรับ X5 xDrive40e M Sport และ 330e M Sport ซึ่งเป็น ปลั๊ก-อิน ไฮบริด

   กาเลือกขับขี่ในเขตเมือง และชานเมือง เพราะบีเอ็มดับเบิลยูต้องการแสดงให้เห็นถึงการใช้งานของระบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด ว่าจะสามารถตอบสนองต่อการใช้งานจริงมากน้อยแค่ไหน

สำหรับ X5 xDrive40e M Sport และ 330e M Sport นั้นช่วงแรกเป็นรถนำเข้า แต่ว่าบีเอ็มดับเบิลยู มีแผนจะประกอบในประเทศ (CKD) ช่วงครึ่งหลังปีนี้แหละครับ ซึ่งก็ต้องติดตามดูว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงราคาหลังซีเคดีหรือไม่ โดยปัจจุบัน X5 xDrive40e M Sport ราคา 4.59 ล้านบาท และ 330e M Sport 3.09 ล้านบาท

X5 xDrive40e M Sport ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2 ลิตร 4 สูบ ทวินเพาเวอร์ เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุดที่ 245 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 113 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร

ส่วน 330e M Sport ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ทวินเพาเวอร์ เทอร์โบ 184 แรงม้า แรงบิด 290 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 88 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ทั้ง 2 รุ่นใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

รถทุกคันจัดแจงชาร์จไฟไว้เรียบร้อยที่โรงแรมแรมหรูริมเจ้าพระยา “แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ” เมื่อได้ฤกษ์งามยามดี  2 ทุ่มเศษ เราเริ่มต้นเดินทางออกเจริญกรุง สี่พระยา พระราม 4 ราชดำริ หลังสวน วิทยุ สาทร ข้ามสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน วงเวียนใหญ่ เข้าอรุณอัมรินทร์ แวะชื่นชมความงามยามค่ำคืนของพระบรมมหาราชวังที่อยู่คนละฟากน้ำ

ผมนั่งอยู่หลังพวงมาลัยของ X5 xDrive40e M Sport ที่ทำงานอย่างเงียบๆ จะมีก็แค่ครั้งเดียวที่เผลอไปกดคันเร่งแรงไปหน่อย ทำให้เครื่องยนต์ติดขึ้นมา เท่านั้น

ระบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด ของบีเอ็มดับเบิลยูทั้ง 2 รุ่นนี้ เมื่อชาร์จไฟเต็มที่ ซึ่งใช้เวลา 3 ชม. 50 นาที สำหรับ X5 xDrive40e M Sport และ 3 ชม. สำหรับ 330e มันจะสามารถใช้งานได้กว่า 30 กม. โดยไม่ต้องใช้เครื่องยนต์ ทำความเร็วสูงสุดได้ 120 กม./ชม.

แต่แน่นอนว่าเรื่องของระยะทางที่ใช้ได้จะแปรผันตามความเร็ว สภาพการจราจร รวมถึงสภาพอากาศ เช่น หากร้อนมากๆ พลังงานส่วนหนึ่งก็จะต้องถูกหยิบยืมไปสำหรับการคลายร้อน ดังนั้นระยะทางใช้งานก็อาจจะไม่ถึง 30  กม.

หลังชื่นชมความงาม ชื่นชมฝีมือ ภูมิปัญญาบรรพบุรุษ และแน่นอนด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระเจ้าอยู่หัวทุกพระองค์ที่ทำให้ไทยมีวันนี้ได้ เราก็เดินทางต่อโดยข้ามสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ สนามหลวง เข้าถนนข้าง กระทรวงกลาโหม มาโผล่ราชดำเนิน ขึ้นทางด่วนยมราช ปลายทางสนามบินสุวรรณภูมิ

ช่วงนี้ก็ได้ดูกันถึงความสามารถในการทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งจะแสดงรายละเอียดการทำงานหากเลือกกดดู ว่าช่วงไหนมอเตอร์ทำงานอย่างเดียว ช่วงไหนเครื่องยนต์อย่างเดียว ช่วงไหนช่วยกันทำงาน ช่วงไหนชาร์จไฟ เป็นต้น

การสลับการทำงาน ไม่ทำให้เรารู้ผ่านอาการของรถ เช่น สะดุด กระตุก ทุกอย่างขับเคลื่อนอย่างลื่นไหล จะรู้ได้ก็เมื่อมองข้อมูลด้านหน้า ยกเว้นตอนจอดอยู่กับที่ซึ่งจะรู้ได้เมื่อเครื่องยนต์เริ่มหรือหยุดทำงาน

การขับขี่ช่วงนี้แม้ฝนพรำ แต่ไม่ลดความสนุก อัตราเร่งดีจากการร่วมกันทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ ช่วยให้รถพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และคล่องตัวเมื่อต้องเปลี่ยนช่องทางไปมา หรือการไต่ความเร็วขึ้นไปสูงๆ ก็ทำได้รวดเร็วเช่นกัน

แน่นอนว่าองค์ประกอบอื่นๆ เช่น ระบบช่วงล่างรองรับได้ดี การยึดเกาะถนน ความแม่นยำของพวงมาลัยเป็นจุดเด่นของบีเอ็มดับเบิลยูอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋งหรือว่ารถสูงๆ อย่างเอสยูวีก็ตาม

เรียกว่าความสนุกดีกว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว แถมยังได้เรื่องของความประหยัด และการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ โดย X5 นั้นปล่อย 76 กรัม/กม. ส่วน 330e ปล่อย 57 กรัม/กม.

จากสุวรรณภูมิผมเปลี่ยนมาขับ 330e M Sport มุ่งหน้าบางนา ออกถนนวงแหวนบางพลี ไปข้ามสะพานภูมิพล ลงถนนพระราม 3 ไปเผชิญหน้ากับรถติดยามดึกย่านเอเชียทีค ถนนเจริญกรุง แวะชมชิงช้าสวรรค์กันชั่วครู่ก่อนกลับฐาน แมนดาริน

อารมณ์การขับขี่ก็สนุกเช่นเดียวกัน แตกต่างกันบ้างที่ซีรีส์ 3 ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าให้ความรู้สึกถึงความเป็นวัยรุ่น ปราดเปรียว ส่วน X5 เป็นผู้ใหญ่ใจแรง ที่ไม่เคยปล่อยให้วัยรุ่นใจเร็วอยู่ห่างสายตาแม้เพียงเสี้ยววินาที