เรื่องของกุญแจ (2)

เรื่องของกุญแจ (2)

สัปดาห์ที่ผ่านมาผมเขียนเรื่องเกี่ยวกับกุญแจของรถยนต์ ซึ่งมีการพัฒนาก้าวหน้ามาเป็นลำดับ

ในขณะที่ผู้ใช้รถยนต์มีการเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้และดูแลกุญแจรถยนต์น้อยมาก ส่วนใหญ่ยังใช้วิธีการเดิมๆกับกุญแจรถยนต์ของตนเอง ซึ่งนอกจากจะทำให้ตัวกุญแจเกิดความเสียหายแล้ว ยังส่งผลให้ระบบอื่นๆ เกิดความขัดข้องตามมาอีกมากมาย หลายครั้งที่ทำให้เจ้าของรถหรือแม้แต่ช่างยังหลงประเด็นไปรื้อไปแก้ที่จุดอื่นจนเสียหายลุกลามมากมาย

ครั้งที่แล้วผมได้บอกเอาไว้แล้วว่ากุญแจรถยนต์สมัยใหม่มีหน้าที่มากไปกว่าการเปิดวงจรไฟฟ้า แล้วทำหน้าที่เป็นสวิทช์สตาร์ทเครื่องยนต์ให้ติดขึ้นมา กุญแจและเครื่องรับส่งสัญญาณที่เรียกกันว่ารีโมทคอนโทรลมีหน้าที่มากขึ้น และมีการทำงานที่ซับซ้อนเกินกว่าให้เขี้ยวของลูกกุญแจสอดรับลงตัวกับร่องในตัวแม่กุญแจเท่านั้น กุญแจและรีโมทคอนโทรลจำนวนมากที่ใช้คลื่นทั้งชนิดคลื่นแสงและคลื่นวิทยุเป็นตัวรับและส่งสัญญาณเปิดการทำงาน ดังนั้นการดูและรักษากุญแจและรีโมทคอนโทรลจึงต้องมีความละเอียดอ่อนมากขึ้น

ประการแรกต้องเอากุญแจและรีโมทคอนโทรลอยู่ไว้ให้ห่างจากสนามแม่เหล็กทั้งหลาย เพราะสนามแม่เหล็กจะเป็นตัวปิดกั้นและทำลายระบบคลื่นต่างๆได้ จึงเท่ากับว่าไม่ควรวางพวงกุญแจหรือลูกกุญแจและรีโมทคอนโทรล ไว้ใกล้กับลำโพงที่มีแท่งแม่เหล็กขนาดใหญ่ ไม่ควรวางพวงกุญแจและรีโมทคอนโทรลเอาไว้ใกล้เตาไมโครเวฟ ไม่ควรวางเอาไว้ใกล้กับเตาไฟฟ้าหรือเตารีดที่เปิดทำงานอยู่ ไม่ควรวางเอาไว้บนตู้คอนโทรลของเครื่องคอมพิวเตอร์ ฯลฯ เป็นต้น เพราะคลื่นไฟฟ้าและคลื่นแม่เหล็กจากอุปกรณ์เครื่องใช้เหล่านั้นอาจจะทำให้กุญแจและรีโมทคอนโทรลเสื่อมสภาพได้

รถยนต์หลายยี่ห้อหลายรุ่นที่มีระบบป้องกันขโมยติดตั้งเอาไว้ ด้วยการจัดโปรแกรมให้ชุดสตาร์ทมีหน่วยความจำว่า ถ้าหากรถยนต์คันนั้นถูกปิดล็อคประตูครั้งสุดท้ายด้วยรีโมทคอนโทรล ก็จะต้องได้รับการเปิดด้วยรีโมทคอนโทรลเท่านั้น จึงจะอนุญาตให้ทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ หรือหากถูกปิดล็อคครั้งสุดท้ายด้วยการไขกุญแจที่บานประตู ก็ต้องถูกเปิดล๊อคด้วยการไขกุญแจที่บานประตูเท่านั้น หากทำการเปิดล็อคผิดไปจากที่หน่วยความจำได้บันทึกเอาไว้ ก็จะปิดกั้นการสตาร์ทเครื่องยนต์ทำให้ไม่สามารถติดเครื่องได้

โดยหากผู้เป็นเจ้าของรถหรือผู้ขับขี่หลงลืม ก็สามารถแก้ไขได้ง่ายๆด้วยการล็อคและเปิดล็อคใหม่ตามโปรแกรมที่ถูกตั้งเอาไว้ โดยให้ผู้ขับกลับมาล็อครถใหม่อีกครั้งหนึ่ง หากว่าล็อคด้วยรีโมทคอนโทรลก็เปิดด้วยรีโมทคอนโทรล หากล็อคด้วยการไขลูกกุญแจก็เปิดด้วยการไขลูกกุญแจ เพียงเท่านี้ก็สามารถแก้ไขโปรแกรมดังกล่าวได้ หรือในบางรุ่นอาจจะต้องใช้วิธีการกดที่ปุ่มล็อคและปุ่มปลดล็อคพร้อมๆ กันแช่ไว้สัก 5-10 วินาที จนมีเสียงเตือนดังปี๊บขึ้นมา ก็เท่ากับว่าได้มีการปรับแก้ไขเรียบร้อยแล้ว

ในอดีตเมื่อเจ้าของรถเห็นว่าเขี้ยวที่ลูกกุญแจมีการสึกหรอลงไป จนทำให้เกิดการหลวมคลอนขึ้นมา ก็จะมีการนำเอาลูกกุญแจไปทำการก๊อบปี้เพื่อทำดอกกุญแจขึ้นมาใหม่ ซึ่งสามารถทำได้ตามแผงรับทำกุญแจที่ตั้งอยู่ตามบาทวิถีในที่ชุมชนทั่วไป สนนราคาค่าทำก็เพียงดอกละ 20-30 บาทเท่านั้น ใช้เวลาทำดอกละไม่เกิน 2-3 นาที ซึ่งในปัจจุบันนี้ยังมีแหล่งรับทำดอกกุญแจแบบนี้อยู่มากมาย แต่มีการพัฒนาขึ้นมาให้ใช้วัสดุสำหรับทำดอกกุญแจมีสีสันสวยสดงดงาม นอกจากจะเลือกสีได้ตามชอบใจแล้ว วัสดุที่นำมาทำลูกกุญแจขึ้นมาใหม่นี้ยังเป็นวัสดุที่มีความแข็งแกร่งทนทานมากกว่าลูกกุญแจมาตรฐานต้นแบบอีกด้วย

แต่หลักการของผู้ผลิตกุญแจที่มีมาตรฐานนั้น ลูกกุญแจจะต้องถูกผลิตขึ้นมาจากทองเหลืองหรือวัสดุอื่นที่มีความแข็งแรงทนทานไม่สูงมากนัก เพราะต้องการให้เขี้ยวที่ลูกกุญแจซึ่งต้องเสียดสีกับแม่กุญแจนับพันนับหมื่นครั้ง เกิดการสึกหรอมากกว่าช่องหรือเขี้ยวที่อยู่ภายในแม่กุญแจนั่นเอง ดังนั้นเมื่อเราไปทำลูกกุญแจขึ้นมาใหม่โดยเลือกใช้วัสดุที่มีความแข็งแกร่งมากกว่าตัวแม่กุญแจ เขี้ยวของลูกกุญแจที่แข็งแกร่งนั้นจะไปครูดเสียดสีจนทำให้ภายในของแม่กุญแจเสียหายจนยากที่จะแก้ไขได้ ท้ายที่สุดต้องเปลี่ยนกุญแจใหม่ทั้งชุด ซึ่งหากเป็นการสึกหรอที่ดอกกุญแจหรือลูกกุญแจ โดยที่แม่กุญแจไม่สึกหรอก็ยังสามารถทำดอกกุญแจหรือลูกกุญแจขึ้นมาใหม่ได้ง่ายกว่า

และแม้ว่ารถยนต์ของท่านจะใช้กุญแจในระบบมาตรฐานดั้งเดิม ก็พึงจำไว้เสมอว่าต้องมีวิธีการรักษาลูกกุญแจและแม่กุญแจด้วยเช่นกัน เช่น อย่าให้พวงกุญแจรถยนต์ของท่านมีน้ำหนักมากเกินไป เพราะหลายคนชอบเอาลูกกุญแจทั้งหลายที่ไม่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ เช่น กุญแจประตูบ้าน, กุญแจลิ้นชักที่ทำงาน ฯลฯ เอามาแขวนร้อยรวมไว้ในพวงเดียวกัน ซึ่งเมื่อมีลูกกุญแจอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก น้ำหนักของพวงกุญแจก็มากขึ้นตามไปด้วย และเมื่อต้องมาเสียบคาไว้ที่แม่กุญแจรถยนต์ทั้งพวง พอรถวิ่งไปพวงกุญแจก็โยนตัวแกว่งไกวไปมา ท้ายที่สุดก็ทำให้เกิดการหลวมคลอนขึ้นระหว่างลูกกุญแจและแม่กุญแจจนทำให้ไม่สามารถไขเปิดหรือปิดล็อคและสตาร์ทได้ตามที่ต้องการ ลูกกุญแจสำหรับรถยนต์จึงควรเก็บไว้ในพวงที่มีน้ำหนักเบาเท่านั้น

และเคล็ดลับสำหรับคนที่ซื้อรถยนต์มือสองใช้แล้วมาใช้งาน หากเป็นไปได้ควรนำรถไปเปลี่ยนกุญแจที่ล็อคประตูทุกบานใหม่ทั้งชุด ส่วนกุญแจสตาร์ทจะใช้ชุดเดิมที่ติดรถมาก็ได้ไม่มีปัญหา เพราะหากเจ้าของรถเดิมที่ขายรถให้ท่านมีเจตนาร้าย หรือเจ้าของรถเดิมเผลอเรอปล่อยให้ผู้อื่นแอบทำการปั๊มลูกกุญแจเอาไว้ ลูกกุญแจที่ปั๊มก็จะไม่สามารถนำมาไขประตูรถของท่าน เพื่อทำการโจรกรรมทรัพย์สินภายในรถ หรือขโมยรถทั้งคันไปได้ง่ายๆครับ