มิตซูบิชิรับรถคันแรกฉุดตลาดเชียงใหม่2เดือนยอดหาย 22%

มิตซูบิชิรับรถคันแรกฉุดตลาดเชียงใหม่2เดือนยอดหาย 22%

มิตซูบิชิ รับรถคันแรกฉุดตลาดครึ่งปีแรก 2 เดือน ตลาดภาคเหนือหด 22% มั่นใจครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้น เดินหน้าเพิ่มโชว์รูมรองรับ

นายโนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่ายอดจำหน่ายมิตซูบิชิในภาคเหนือปี 2555 ที่ผ่านมา ทำได้มากกว่า 1.64 แสนคัน ส่วนไตรมาสแรกปีนี้ ทำได้ 4.5 หมื่นคัน โดยส่วนใหญ่เป็นยอดส่งมอบของรถที่ค้างจองจากปีที่แล้วในโครงการรถคันแรก ส่วนยอดจำหน่ายใหม่ 2 เดือนล่าสุด พบว่า เดือนมี.ค. มียอด 1.74 หมื่นคัน และเดือนเม.ย. 1.36 หมื่นคัน ลดลงประมาณ 22%

ทั้งนี้ บริษัทได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ และพบว่าตัวแทนจำหน่ายได้ประเมินและคาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ไว้บ้างแล้วว่าจะตลาดจะเป็นไปในทิศทางที่ลดลง และได้วางแผนในการบริหารจัดการสต็อก และจัดกิจกรรมอย่างเหมาะสม

ด้าน นายธารินทร์ โตแสงชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสงชัยมอเตอร์สเซลส์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีใช้สิทธิในโครงการรถคันแรกประมาณ 4 หมื่นคน สูงเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ กล่าวว่า 65-70% ของยอดจองที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง 2555 เป็นลูกค้าจากโครงการรถคันแรก แต่ในช่วงปลายปีพบว่าการรับมอบรถของลูกค้ามีอัตราลดลง รับรถช้าลง มีการผ่อนผัน และพบว่าอัตราส่วนที่ไม่ผ่านไฟแนนซ์เพิ่มขึ้นอีกด้วย

"เราเห็นสัญญาณที่เปลี่ยนแปลง จึงมีการวางแผนสำรองทั้งแผนการตลาด การสั่งซื้อรถยนต์ ซึ่งยอมรับว่าเป็นความเสี่ยงสูงที่ตัดสินใจสั่งรถจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ไม่เต็มตามจำนวนที่ลูกค้าจอง แต่ก็พิจารณาจากคุณภาพของลูกค้าที่เริ่มลดลง"

นายธารินทร์ กล่าวว่า ตลาดที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนขึ้นในเดือนธ.ค. ที่มีผู้เร่งเข้ามาจองเพื่อรับเอกสารไปสมัครโครงการจำนวนมาก ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ ประกอบกับรัฐบาลไม่ได้กำหนดเวลาสิ้นสุดของการรับรถ ทำให้ลูกค้าสามารถผ่อนผันเวลาออกไปได้เรื่อยๆ โดยที่ผู้จำหน่ายจะเป็นผู้แบกรับภาระจากการที่มีรถในสต็อก

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าช่วงครึ่งปีหลังตลาดจะกลับมาฟื้นตัว เพราะลูกค้ายังมีความจำเป็นในการใช้งาน

นายมูราฮาชิ กล่าวว่า ปัจจุบัน มิตซูบิชิ มีโชว์รูมและศูนย์บริการในพื้นที่ภาคเหนือ 29 แห่ง และมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนในอำเภอสำคัญ และเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์เพื่อรองรับตลาดในภูมิภาคที่เชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 แสนคันต่อปี ในระยะ 1-2 ปีนี้