‘จีลี อีเอ็กซ์ 5’ นั่งสบาย ทางตรง ทางโค้งนิ่ง คลื่น ลอน เด้งเล็กน้อย

สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดของ จีลี่ ถือว่าเปิดตัวได้ร้อนแรงทีเดียวสำหรับ จีลี่ อีเอ็กซ์ 2 (Geely EX2) ที่กวาดยอดจองในงานมหกรรมยานยนต์ได้ถึง 4,016 คัน

ทำให้บริษัท ธนบุรีนอยสเติน จำกัด ในเครือกลุ่มธนบุรี ผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่าย ตัดสินใจขยายแคมเปญออกไปจนถึงสิ้นปี จากเดิมที่กำหนดให้กับ 2,000 คันแรกเท่านั้น ซึ่งก็คาดว่าปีนี้ตัวเลขน่าจะไหลไปอีกพอควร

แคมเปญหลัก ๆ ก็คือ ราคาพิเศษ 

• รุ่น PRO ราคา 399,990 บาท
• รุ่น MAX ราคา 429,990 บาท

ส่วนราคาจริงก็บวกไปรุ่นละ 30,000 บาท

ซึ่งถือเป็นราคาที่ดี ขณะที่ตัวรถเอง ก็ทำออกมาได้ดีครับ ไม่ว่าเป็นเรื่องของการใช้งานสำหรับรถในกลุ่ม บี-เซ็กเมนต์ และอารมณ์ในการขับขี่ ซึ่งผมเคยไปขับมาก่อนเปิดตัว ต้องบอกว่ามันทำได้ดีเลย 

ส่วนเรื่องของการบริการหลังการขยาย ก็เห็นว่ากำลังเร่งขยาย โดยปีนี้จะเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการครบ 40 แห่ง สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 30 แห่ง

จีลี่เข้ามาทำตลาดบ้านเราเมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว กับ อีเอ็กซ์ 5 (EX5) ซึ่งล่าสุดรุ่นเริ่มต้น PRO หมดสต็อกไปแล้ว แต่ยังมีรุ่น MAX ราคา 849,000 บาท

สารภาพว่าตั้งแต่เขาเปิดตัว ผมไม่เคยลองขับ อีเอ็กซ์ 5 เลย จนกระทั่งได้ลอง อีเอ็กซ์ 2 จึงอยากรู้ว่า อีเอ็กซ์ 5 จะเป็นอย่างไร ซึ่งทางธนบุรีนอยสเติน ก็จัดหามาให้ครับ

อีเอ็กซ์ 5  เป็นแคมแพคท์ เอสยูวี

• ความยาวตัวถัง 4,615 มม.
• กว้าง 1,901 มม.
• สูง 1,670 มม.
• ระยะฐานล้อ 2,750 มม.
• ความสูงใต้ท้องรถ 145 มม.
• น้ำหนักรถ 1,765 กก. 

แบตเตอรี ลิเธียมไอออน ฟอสเฟต ความจุ 60.22 กิโลวัตต์-ชั่วโมง รองรับการขับขี่สูงสุด 490 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC  หรือ 425 กม. ถ้าเป็นมาตรฐาน WLTP 

ซึ่งถือเป็นระยะที่ใช้งานได้สะดวกระดับกลาง ๆ ไม่ต้องกังวลกับการหาที่ชาร์จบ่อยนัก สำหรับการเดินทาง ซึ่งรอบนี้ผมขับไปสองพี่น้อง สุพรรณบุรี แล้วกลับมากรุงเทพฯ ก็ยังมีแบตฯ เหลือให้ใช้ เฉลี่ยก็ประมาณ 12 กิโลวัตต์/ 100 กม

มอเตอร์ไฟฟ้า ขับเคลื่อนล้อหน้า

• กำลังสูงสุด 160 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 215 แรงม้า
• แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร
• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 7.1 วินาที
• ความเร็วสูงสุด 175 กม./ชม. 

มีโหมดขับขี่ให้เลือกใช้ประกอบด้วย Eco, Normal และ Sport

มอเตอร์ตอบสนองดีครับ กระฉับกระเฉง เร่งติดเท้า ไม่มีจังหวะหน่วง รองรับการขับขี่แบบปรับเปลี่ยนความเร็วบ่อยครั้งได้ดี ช่วยให้สะดวกต่อการใช้งาน เดินทางได้รวดเร็ว คล่องตัว 

ช่วงล่างด้านหน้าแมคเฟอร์สัน สตรัท ด้านหลัง มัลติลิงค์ ล้อขนาด 225/55 R18

รถนิ่งครับ ใช้ความเร็วก็ยังคุมรถได้แบบผ่อนคลาย พวงมาลัยน้ำหนักดี ควบคุมได้ง่าย และจัดการกับแรงเหวี่ยงได้ดี เมื่อขับขี่ในทางโค้ง เกาะถนนดี คุมทิศทางได้สบาย ๆ ถือว่าเซ็ทมาใช้ได้

แต่จุดหนึ่งถ้าปรับได้ก็จะดีขึ้น คือ เมื่อเจอทางที่เป็นคลื่นเป็นลอน ทางไม่สม่ำเสมอ หรือคอสะพานบ้านเรา การรีบาวด์น้อย ทำให้มีจังหวะรถขึ้นลงหลายจังหวะไปสักนิด ซึ่งลักษณะแบบนี้น่าจะเหมาะกับถนนที่ราบเรียบเป็นส่วนใหญ่ 

แต่โดยรวม ๆ สำหรับการขับขี่ถือว่าขับได้ดี อยู่กับรถนาน ๆ เดินทางไกล ๆ ไม่เหนื่อย แต่จังหวะเจอคอสะพานชัน ๆ ก็ผ่อน ๆ คันเร่งสักหน่อยครับ 

สำหรับออปชั่นใส่มาไม่น้อยครับ เช่น หลังคาพาโนรามิค ซันรูฟ ม่านหลังคาไฟฟ้า ประตูท้ายเปิดปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบสัมผัส ไฟหน้า ไฟขับขี่กลางวัน ไฟท้ายไฟเบรก แอลอีดี ติดตั้งราวหลังคามาให้

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ปรับได้ 4 ทิศทาง จอสัมผัส HD ขนาด 15.4 นิ้ว จอแสดงข้อมูลขับขี่ LCD 10.2 นิ้ว ระบบแสดงข้อมูลขับขี่ที่กระจกหน้า (HUD) กระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ

เบาะนั่งหนังสังเคราะห์ เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ฝั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เบาะคู่หน้ามีระบบระบายอากาศ ระบบนวด และระบบจดจำตำแหน่ง เบาะผู้โดยสารด้านหน้ามีที่พักขาปรับ 2 ทิศทาง เบาะหลังมีที่พักแขนพร้อมลิ้นชักเก็บสัมภาระใต้เบาะ 

ระบบบปรับอากาศอัตโนมัติ ระบบกรองอากาศ CN95 เปิด-ปิด ไฟสูง อัตโนมัติ ลำโพง 14 ตำแหน่ง และ 2 ตำแหน่งที่พนักพิงศีรษะ ช่องเชื่อมต่อยูเอสบีมีให้ใช้ทั้งไทป์ เอ และ ซี ระบบชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย เชื่อมต่อบลูทูธ ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่าน CarbitLink 

ระบบความปลอดภัยให้มาครบทั้งแบบพื้นฐาน และ ADAS  เช่น ระบบคุมรถให้อยู่ในเลน กลางเลน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน โดยมีตัวอ่านข้อมูลทั้งกล้อง 360 องศา และเรดาร์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง 

ห้องโดยสารนั่งได้สบาย กว้างขวางใช้ได้ การควบคุมฟังก์ชั่นต่าง ๆ ทำได้สะดวก

และก็ขอบคุณที่ฟังก์ชั่นที่ใช้บ่อย ๆ เช่น เปิด-ปิด หน้าต่าง ปรับกระจกไม่ถูกยัดรวมไว้ในจอครับ