อีวี ญี่ปุ่น ขยับตัว มาสด้า ยันคงเอกลักษณ์ แม้ฐานผลิตจีน

อีวี ญี่ปุ่น ขยับตัว มาสด้า ยันคงเอกลักษณ์ แม้ฐานผลิตจีน

แบรนด์รถญี่ปุ่นขยับตัวมากขึ้นในตลาดรถพลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี หลังจากที่ปล่อยให้แบรนด์จากจีนมีบทบาทอย่างมากก่อนหน้านี้ ล่าสุดมาสด้าเปิดจองสิทธิ Mazda6e 

การเริ่มต้นของแบรนด์ญี่ปุ่นในตลาดอีวีปัจจุบัน เริ่มจากโตโยต้า ที่เปิดตัว bZ4X รถเอสยูวีในตลาดแมสเป็นครั้งแรกของโตโยต้าในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหมายถึงพร้อมจำหน่าย และบริการผ่านโชว์รูม และศูนย์บริการ 450 แห่ง ทั่วประเทศ 

ก่อนที่จะตามมาด้วยการเปิดตัวปิกอัพ อีวี “ทราโว่ อี” ที่แม้จะดูยังไม่คาดหวังยอดขายมากนัก แต่ก็มีผลกับอุตสาหกรรมในประเทศเช่นกัน กับเป้าหมายการขาย 500 คัน จากแผนการผลิต 5,000 คัน นั่นหมายถึงที่เหลือเป็นการส่งออก

ขณะที่ฮอนด้าที่ทำตลาดอีวีอยู่แล้ว คือ e:N1 แต่ก็เป็นตลาดเล็กๆ แต่เป้าหมายที่ใหญ่จริงๆ ของฮอนด้า กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เมื่อ โทชิฮิโระ มิเบะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการตัวแทน บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ออกมาพูดชัดเจนว่าทำตลาด เอสยูวี ในไทย ทั้ง “ซีโร่ เอสยูวี” (0 SUV) และ “ซีโร่ อัลฟ่า” (0 Alpha)

โดยรถทั้ง 2 รุ่น ปัจจุบัน เป็นโปรโตไทป์ และล่าสุดเพิ่งจัดแสดงในงาน เจแปน โมบิลิตี้ โชว์ 2025 ที่โตเกียว ญี่ปุ่น โดยเฉพาะ ซีโร่ อัลฟ่า นั้นเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในโลก หรือ world premier ด้วย 

ถือเป็นความเคลื่อนไหว และการประกาศแผนธุรกิจที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกับรถที่เพิ่งเผยโฉมเป็นครั้งแรกในโลก ซึ่งนั่นน่าจะหมายถึงความสนใจ และความมั่นใจในความพร้อมของตลาด 

ไม่เพียงเอสยูวี อีวี 2 รุ่นดังกล่าว แต่ฮอนด้ายังแสดงความสนใจที่จะทำตลาด รถเล็ก สมรรถนะสูง อย่าง “ซูเปอร์ วัน” (Super One) อีกด้วย โดยอยู่ในช่วงของการศึกษารายละเอียด 

ล่าสุดในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 หรือ มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2025 “มาสด้า” เป็นแบรนด์ล่าสุดที่ออกมาประกาศความพร้อมที่จะทำตลาดอีวีในไทยด้วย "มาสด้า6อี" (MAZDA6e) รถซีดานฟาสต์แบ็คทรงสปอร์ต 

อีวี ญี่ปุ่น ขยับตัว มาสด้า ยันคงเอกลักษณ์ แม้ฐานผลิตจีน

โดยมาสด้านำรถมาจัดแสดงพร้อมเปิดให้ผู้สนใจลงทะเบียนจองสิทธิ 

โทรุ นากาจิม่า Managing Executive Officer มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ ในการบริหารงานเกี่ยวกับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า แสดงความมั่นใจว่า ประเทศไทย คือ ตลาดหลักที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการแนะนำรถไฟฟ้า หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในจีน และยุโรป

ทั้งนี้นอกจากการเปิดตัว อีวี รุ่นแรก มาสด้ายังมีแผนที่จะรุกตลาดพลังงานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ประกาศแผนงาน 3 ปี จะมีรถเปิดตัว 5 รุ่น โดยในจำนวนนี้เป็น อีวี 2 รุ่น ไฮบริด 2 รุ่น และ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด อีก 1 รุ่น

"มาสด้า6อี กำหนดนิยามใหม่ของยนตรกรรม 5 ประตู แบบนีโอ ฟาสต์แบคสะท้อนแนวคิด New Era of Design and Utility โดยถ่ายทอดเส้นสายอันทรงพลัง การออกแบบตามแนวคิด Kodo-Soul of Motion ที่สำคัญยังคงเอกลักษณ์สมรรถนะในการขับขี่ของรถยนต์มาสด้าไว้ในทุกองค์ประกอบอย่างสมบูรณ์แบบ" นากาจิม่า กล่าว

ด้านธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้า6อี เป็นมากกว่าเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า เพราะยังคงดีเอ็นเอของมาสด้าในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะความสนุกสนานในการขับขี่ในรูปแบบมาสด้า พัฒนาโดยยึดหลักมนุษย์เป็นศูนย์กลาง 

อีวี ญี่ปุ่น ขยับตัว มาสด้า ยันคงเอกลักษณ์ แม้ฐานผลิตจีน

รวมถึงการออกแบบตามศิลปะแบบญี่ปุ่น Kodo-Soul of Motion โดดเด่นด้วย Flying Signature กระจังหน้าแบบ Electric เอกลักษณ์เฉพาะมาสด้า พร้อมฟังก์ชันแสดงสถานะการชาร์จไฟ สปอยเลอร์หลังปรับอัตโนมัติตามความเร็วรถ 

ทั้งนี้ที่ผ่านมา มาสด้า แม้จะไม่ใช่แบรนด์รถยนต์ใหญ่ แต่ก็มีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นด้วยบุคลิก เอกลักษณ์ หรือ ดีเอ็นเอ เฉพาะตัวที่ค่อนข้างชัดเจน

แต่การเข้าสู่ตลาดอีวี ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตร “ฉางอาน” ประเทศจีน และผลิตที่จีน ทำให้มีคำถามเช่นกันว่ามาสด้าจะคงอัตลักษณ์ของตนเองไว้ได้หรือไม่

แต่ทั้งนี้หากไปดูรายละเอียดของการผลิตการร่วมทุนระหว่างฉางอานกับมาสด้า ตั้งโรงงาน “ฉางอาน มาสด้า ออโตโมบิล” นั้น อยู่ที่เมืองหนานจิง และผลิตรถมาสด้าเท่านั้น ขณะที่โรงงานของฉางอานที่ผลิตฉางอานตั้งอยู่ที่เมืองฉงชิ่ง 

อีวี ญี่ปุ่น ขยับตัว มาสด้า ยันคงเอกลักษณ์ แม้ฐานผลิตจีน

และการพัฒนาอีวีของมาสด้า6อี ใช้ชิ้นส่วนที่มาจากฉางอานคือ แบตเตอรี่ และมอเตอร์ ขณะที่การพัฒนาในส่วนอื่นๆ ดำเนินการโดยมาสด้าทั้งหมด ซึ่งรวมถึงระบบช่วงล่าง ระบบบังคับเลี้ยว รวมไปถึงซอฟต์แวร์ นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้มาสด้ายืนยันว่าดีเอ็นเอยังคงอยู่ แม้ว่าจะเปลี่ยนไปสู่พลังงานไฟฟ้าก็ตาม

สำหรับมาสด้า6อี ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเทียม ไอออน ความจุ 77.9 กิโลวัตต์-ชั่วโมง สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุด 654 กม. ตามมาตรฐาน NEDC รองรับการชาร์จเร็ว (DC Fast Charging) จาก 30%-80% ในเวลา 15 นาที สำหรับการใช้เครื่องชาร์จเร็ว DC 200 กิโลวัตต์ขึ้นไป

โดยการเปิดจองสิทธิ มาสด้ามีข้อเสนอ Mazda6e Premiere Package ซึ่งลูกค้าจะได้รับสิทธิพิเศษ มูลค่ารวมสูงสุด 70,000 บาท จำนวนจำกัด

ประกอบด้วยส่วนลดพิเศษ 20,000 บาท แพ็กเกจบำรุงรักษารถ Electric Mazda Care นาน 10 ปี

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์