ฮอนด้า รับแผนอีวี พลาด แต่ไม่แพ้ ส่ง 'ซีโร่ อัลฟ่า' ลุยไทย

ซีอีโอ ฮอนด้า มอเตอร์ ญี่ปุ่น เตรียมเปิดตัวรถพลังงานไฟฟ้า (EV) ตระกูล ‘0 Series’ นำร่อง 0 Alpha ต้นแบบที่เปิดตัวครั้งแรกในโลก งาน japan Mobility Show 2025
โตชิฮิโระ มิเบะ ผู้อำนวยการ ประธานกรรมการบริหาร และตัวแทนเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ญี่ปุ่น เปิดเผยว่าสถานการณ์ปัจจุบัน ที่อีวีโลก ถูกเจาะตลาดด้วยผู้ผลิตจากจีน ฮอนด้า ยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นความผิดพลาดของบริษัท แต่ไม่ได้หมายความแพ้ และฮอนเตรียมพร้อมที่จะตอบโต้ตลาดหลังจากนี้
ความผิดพลาดอย่างหนึ่งของฮอนด้าคือ การมองว่าตลาดอีวี ซึ่งเคยมีกระแสที่แรง ก่อนที่จะชะลอตัวลงไป ทำให้ฮอนด้าลดน้ำหนักในส่วนของอีวีลง
มิเบะกล่าวว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจของฮอนด้า ขณะนี้รถในกลุ่มไฮบริดเป็นกลุ่มใหญ่ เติบโตได้ดี และมีส่วนการตลาดทั่วโลกสูง แต่ในอนาคตก็จะต้องเน้น อีวี เพิ่มขึ้น เพื่อให้ก้าวไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ที่ฮอนด้าตั้งไว้ในปี 2050
“ปัจจุบันผู้ผลิตจีนมีอีวี รุ่นใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง การที่จะต่อการได้คือ การพัฒนาแบตเตอรี ทำอย่างไรให้วิ่งได้ไกลขึ้น ซึ่งฮอนด้ากำลังโฟกัสในจุดนี้”
ทั้งนี้ประสิทธิภาพแบตเตอรี นอกจากตัวแบตเตอรีเอง ยังเกี่ยวกับระบบบริการจัดการพลังงานด้วย ซึ่งฮอนด้ามีความชำนาญในด้านนี้ จากการมีประสบการณ์กับการพัฒนา รถไฮบริดมา 25 ปี
“อีวีจีนปัจจุบันส่งออกทั่วโลก เรายอมรับในเรื่องนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราช้ากับพลังงานไฟฟ้า เพราะฮอนด้ามีไฮบริดที่มีสัดส่วนการขายอยู่ในอันดับต้น ๆ” มิเบะกล่าว
สำหรับประเทศไทย ฮอนด้ามีแผนเปิดตัวรถพลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) รุ่นใหม่ในไทย ไม่ว่าจะเป็น ซีโร่ อัลฟ่า (0 Alpha) และ ซีโร่ เอสยูวี (0 SUV)
ทั้ง 2 รุ่น ขณะนี้เป็นรถต้นแบบ ในตระกูล ซีโร่ ซีรีส์ (0 Series) ร่วมกับ ซีโร่ ซาลูน (0 Saloon)
โดย ซีโร่ ซาลูน และ ซีโร่ เอสยูวี เปิดตัวครั้งแรกในโลกในงาน CES 2025
ขณะที่ ซีโร่ อัลฟ่า เพิ่งจะเผยโฉม เป็นครั้งแรกในโลกที่งาน Japan Mobility Show 2025 ซึ่งกำลังจัดแสดงอยู่ในขณะนี้ที่ โตเกียว บิ๊กไซต์
ก่อนหน้านี้ ฮอนด้าออกมาระบุว่าซีโร่ เอสยูวี มีแผนจะผลิตออกจำหน่ายเชิงพาณิชย์เป็นรุ่นแรกในปี 2569 โดยเริ่มที่ตลาดอเมริกาเหนือ แต่ไม่ได้พูดถึงการทำตลาดในประเทศไทยแต่อย่างใด
ส่วน ซีโร่ อัลฟ่า มีแผนเริ่มต้นผลิตในปี 2570 เริ่มต้นที่ตลาด อินเดีย และญี่ปุ่นก่อน โดยคาดว่าราคาจะอยู่ระดับประมาณ 30,000 ดอลลาร์
ทั้งนี้ฮอนด้ามั่นใจว่าจะสามารถแข่งขันกับตลาดอีวีได้ จากจุดเด่นหลายอย่าง รวมถึงหัวใจสำคัญอย่างแบตเตอรี ที่ฮอนด้าพัฒนาให้มีสมรรถนะที่ดีขึ้น ฟังก์ชั่นต่าง ๆ ในรถ รวมถึงระบบปฏิบัติการ ASIMO OS ที่ฮอนด้าพัฒนาขึ้นมาเอง และระบบ ADAS
ทั้งนี้ ASIMO OS จะใช้ใน ซีโร่ เอสยูวี เป็นรุ่นแรก







